ปตท. เผยผลวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดน้ำมันประจำสัปดาห์ที่ 15-19 ก.พ.64 และคาดการณ์สัปดาห์ 22-26 ก.พ.64 โดยตลาดน้ำมันสำเร็จรูปเบรนท์ (ICE Brent) ราคา 63.57 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับขึ้น +2.23 ตลาดน้ำมันสำเร็จรูป เวสท์เท็กซัสฯ (NYMEX WTI) ราคา 60.24 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับราคาเพิ่มขึ้น +1.70 เหรียฐสหรัฐฯ ตลาดน้ำมันสำเร็จรูปดูไบ (Dubai) ราคา 62.30 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับราคาเพิ่มขึ้น +2.03 เหรียญ สหรัฐฯ ขณะที่ราคาน้ำมันสำเร็จรูปซื้อซื้อขายล่วงหน้าประเทศสิงคโปร์ ราคาเบนซินออกเทน 95 ปรับราคาเพิ่มขึ้น +3.41 เหรียญ สหรัฐฯ มาเป็นราคา 69.43 เหรียญ สหรัฐฯ ราคาน้ำมันดีเซลราคาปรับราคาเพิ่มขึ้น +2.41 เหรียญ สหรัฐฯ มาเป็นราคา 67.15 เหรียญสหรัฐฯ
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
* สภาวะอากาศเย็นจัดเฉียบพลัน (Cold Snap) กระหน่ำสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภค อาทิ ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างกว่า 5.3 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ โดยเฉพาะในรัฐ Texas ประมาณ 4.4 ล้านครัวเรือน นักวิเคราะห์ JBC คาดว่าจะทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบลดลงกว่า 6 ล้านบาร์เรลต่อวัน และนักวิเคราะห์ Kpler คาดว่าสหรัฐฯ จะส่งออกน้ำมันดิบลดลงอยู่ที่ระดับ 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน จาก 3.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในช่วงต้นเดือน ก.พ.64

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
* OPEC รายงานอิหร่านผลิตน้ำมันดิบ ในเดือน ม.ค.64 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 62,000 บาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 2.08 ล้านบาร์เรลต่อวัน และตัวแทนบริษัทน้ำมันในนอร์เวย์บรรลุข้อตกลงเรื่องค่าจ้างกับสหภาพแรงงาน Safe จึงไม่มีการนัดประท้วงหยุดงานที่ท่าส่งออกปิโตรเลียม Mongstad
แนวโน้มราคาน้ำมัน
ราคาน้ำมันดิบในตลาดซื้อขายล่วงหน้าทั้ง Brent และ WTI ในช่วงปลายสัปดาห์ก่อน ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นวันที่สอง จากนักลงทุนคาดว่า อุปทานปิโตรเลียมในสหรัฐฯ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยบริษัทพลังงานเตรียมกลับมาผลิตหลังจากสภาพอากาศเริ่มอบอุ่นขึ้น
อย่างไรก็ตามโรงกลั่นน้ำมันในรัฐ Texas อาจต้องใช้เวลาซ่อมแซมอุปกรณ์อีกหลายสัปดาห์จึงจะสามารถกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ ให้จับตาการประชุมของกลุ่ม OPEC+ ในวันที่ 4 มี.ค.64 อาจผ่อนคลายมาตรการลดการผลิตน้ำมันดิบในเดือน เม.ย.64