โตโยต้า ปลูกป่าชายเลน 60,000 ต้น ต่อยอดโครงการ โตโยต้า ครบรอบ 60 ปี ปลูกป่า 600,000 ต้น เดินหน้าสู่เป้าหมายสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน ผ่านการจัดการกระบวนการตลอดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ (Life Cycle Assessment) เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการเพิ่มการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ผ่านกิจกรรมปลูกป่านิเวศ และการปลูกป่าชายเลน ณ สถานตากอากาศบางปู จังหวัดสมุทรปราการ
นายกุศล โชติรัตน์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสมคิด ประดิษฐกำจรชัย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พลตรี จินตมัย ชีกว้าง ผู้อำนวยการสำนักกิจการพลเรือน กรมกิจการพลเรือนทหารบก ศ.ดร.สนิท อักษรแก้ว ประธานสภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะประธานสมาคมป่าชายเลนนานาชาติ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูงของโตโยต้า บริษัทในเครือฯ ผู้ผลิตชิ้นส่วนโตโยต้า ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า พันธมิตรทางธุรกิจ และจิตอาสาโตโยต้า รวมกว่า 3,000 คน ร่วมกิจกรรมปลูกป่าชายเลน 60,000 ต้น ต่อยอดโครงการ “โตโยต้า ครบรอบ 60 ปี ปลูกป่า 600,000 ต้น” เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน ณ สถานตากอากาศบางปู จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา
ในโอกาสครบรอบ 60 ปี การดำเนินงานในประเทศไทย โตโยต้า ได้ประกาศวิสัยทัศน์ใหม่กับการเป็น “ผู้นำพาการขับเคลื่อนยุคใหม่ เพื่อเสริมสร้างความสุขของผู้คนและความยั่งยืนของสังคม” โดยหนึ่งในพันธกิจที่สำคัญคือเสริมสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) เพื่อตอบสนองต่อนโยบายการสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ ลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อน โดยการที่จะบรรลุถึงเป้าหมายดังกล่าว โตโยต้า ได้เตรียมความพร้อมในหลากหลายแนวทาง (Multi-Pathway) พร้อมกับความมุ่งมั่นในการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ผ่านการจัดการกระบวนการตลอดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ (Life Cycle Assessment) เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการเพิ่มการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ผ่านกิจกรรมปลูกป่านิเวศ และการปลูกป่าชายเลน ที่โตโยต้าได้ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง เป็นจำนวนรวมมากกว่า 2 ล้านต้นทั่วประเทศ สามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ราว 19,200* ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี
ทั้งนี้ เนื่องในโอกาสที่โตโยต้าได้ดำเนินงานในประเทศไทยครบ 60 ปี โตโยต้าจึงได้ริเริ่มโครงการ “โตโยต้า ครบรอบ 60 ปี ปลูกป่า 600,000 ต้น” เพื่อขยายผลการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยตั้งเป้าในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น ตลอดจนพันธมิตรทางธุรกิจต่าง ๆ ให้ครบ 600,000 ต้น ภายในเดือนมีนาคม ปี 2566 ได้เริ่มต้นจากการปลูกป่า 18,000 ต้น ที่โรงงาน โตโยต้า บ้านโพธิ์ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และต่อยอดมาสู่กิจกรรมปลูกป่าชายเลนในวันนี้ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากอาสาสมัครกว่า 3,000 คน ประกอบด้วย ตัวแทนจากบริษัทในเครือโตโยต้า กลุ่มพนักงานโตโยต้าและครอบครัว สมาชิกชมรมโตโยต้าจิตอาสา สมาชิกเครือข่าย Facebook Toyota Happiness Club สมาชิก e-TOYOTACLUB ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า ผู้ผลิตชิ้นส่วน ตลอดจนตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐในจังหวัดสมุทรปราการ กองทัพบก และประชาชนทั่วไป ที่มาร่วมแรงร่วมใจปลูกพันธุ์ไม้ชายเลน กว่า 60,000 ต้น
กิจกรรมในวันนี้ เป็นส่วนหนึ่งในการต่อยอดความสำเร็จของกิจกรรมโตโยต้าปลูกป่าชายเลน ซึ่งได้ดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2548 จากความร่วมมือระหว่าง บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมกับ กรมพลาธิการทหารบก กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ มูลนิธิสิ่งแวดล้อมศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (ประเทศไทย) หรือ FEED โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์พื้นที่ป่าชายเลนบางปู ป่าชายเลนปากแม่น้ำผืนสุดท้ายของภาคกลาง ให้มีความอุดมสมบูรณ์ มีสภาพเหมาะแก่การอยู่อาศัยของสัตว์ในระบบนิเวศชายเลน โดยตลอดระยะเวลา 17 ปี ได้ปลูกป่าชายเลนในพื้นที่บางปูไปแล้วรวมทั้งสิ้นกว่า 702,800 ต้น ส่งผลให้สามารถช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 9,600* ตั คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี
นายสมคิด ประดิษฐกำจรชัย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วน ทั้งจากภาครัฐ เอกชน ตลอดจนประชาชน ที่มาร่วมกันขับเคลื่อนพลังด้านสิ่งแวดล้อมผ่านกิจกรรมในวันนี้ ในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวเพื่อรักษาป่าชายเลนปากแม่น้ำผืนสุดท้ายของภาคกลาง ตลอดจนเพิ่มการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อันเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ของประเทศไทยภายในปี ค.ศ. 2050 ให้ลุล่วงต่อไป”
นอกเหนือจากกิจกรรมในวันนี้ โตโยต้ายังมุ่งมั่นในการสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมแก่สังคมไทย ภายใต้โครงการ “โตโยต้า เมืองสีเขียว” ผ่านกิจกรรมและการให้ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ ทั่วประเทศ อาทิ กิจกรรมลดเมืองร้อน ด้วยมือเรา กิจกรรมลดเปลี่ยนโลก ศูนย์การเรียนรู้โตโยต้าเมืองสีเขียว อยุธยา เป็นต้น ที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการให้ความรู้และปรับพฤติกรรม เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นเมืองสีเขียว ตลอดจนเสริมสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนอย่างยั่งยืนต่อไป “โตโยต้า ร่วมขับเคลื่อนอนาคต”