ปตท.เปิดเผยผลการวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดน้ำมันสัปดาห์ที่ 4-8 เม.ย. 65 และแนวโน้ม 11-15 เม.ย. โดยตลาดน้ำมันสำเร็จรูปเบรนท์ (ICE Brent) ราคา 103.72 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับราคาลดลง -5.33 ตลาดน้ำมันสำเร็จรูป เวสท์เท็กซัสฯ (NYMEX WTI) ราคา 99.15 เหรียญต่อบาร์เรล ปรับราคาลดลง -4.36 เหรียญ สหรัฐฯ ตลาดน้ำมันสำเร็จรูปดูไบ (Dubai) ราคา 101.26 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับราคาลดลง -6.11 เหรียญ สหรัฐฯ ขณะที่ราคาน้ำมันสำเร็จรูปซื้อซื้อขายล่วงหน้าประเทศสิงคโปร์ ราคาเบนซินออกเทน 95 ปรับราคาลดลง -2.70 เหรียญ สหรัฐฯ มาเป็นราคา 123.71เหรียญ สหรัฐฯ ราคาน้ำมันดีเซลราคาปรับราคาลดลง -0.39 เหรียญ สหรัฐฯ มาเป็นราคา 143.03 เหรียญสหรัฐฯ
ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์ล่าสุดปรับตัวลดลง หลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ Joe Biden ประกาศระบายน้ำมันดิบจากคลังสำรองน้ำมันเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve: SPR) ปริมาณรวม 180 ล้านบาร์เรล ในช่วง พ.ค.- ต.ค. 65 และ International Energy Agency (IEA) ประกาศประเทศสมาชิก (31 ประเทศ) ให้ความร่วมมือกับสหรัฐฯ โดยระบายน้ำมันจาก SPR เพิ่มอีก 60 ล้านบาร์เรล ภายใน 6 เดือน จากญี่ปุ่น 15 ล้านบาร์เรล และประเทศสมาชิกอื่นๆ รวม 45 ล้านบาร์เรล
ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐฯ (FOMC) หลังรายงานการประชุม (เมื่อวันที่ 15-16 มี.ค. 65) เผยแผนปรับลดสินทรัพย์ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) ถือครอง เดือนละ 9.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือน และขายตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน (Mortgage-backed Security) 3.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือน เป็นระยะเวลาประมาณ 3 เดือน หรือมากกว่า นอกจากนี้กรรมการหลายท่านสนับสนุนให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.50% จากระดับปัจจุบันที่ 0.25%-0.50% ในการประชุมครั้งถัดไปวันที่ 3-4 พ.ค. 65 หากเงินเฟ้อยังคงสูงขึ้น
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
* การเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ (Joint Comprehensive Plan of Action: JCPOA) ระหว่างอิหร่านกับมหาอำนาจ 6 ชาติ (P5+1 ได้แก่ จีน ฝรั่งเศส รัสเซีย สหราชอาณาจักร สหรัฐฯ บวกเยอรมนี) หยุดชะงัก โดยอิหร่านออกมากดดันให้สหรัฐฯ เป็นผู้รับผิดชอบ เนื่องจากไม่ตัดสินใจประเด็นที่ยังค้างอยู่ อาทิ ถอนชื่อกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (Islamic Revolutionary Guard Corps: IRGC) ออกจากรายชื่อองค์กรก่อการร้ายต่างชาติ (Foreign Terrorist Organisation: FTO) ของสหรัฐฯ และรับประกันว่าสหรัฐฯ จะไม่ถอนตัวจาก JCPOA อีกในอนาคต
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
* กระทรวงพลังงงานของสหรัฐฯ ประกาศขายน้ำมันดิบจาก SPR ปริมาณรวม 180 ล้านบาร์เรล โดยครั้งแรกในช่วงเดือน พ.ค.- ก.ค. 65 ปริมาณ 90 ล้านบาร์เรล และครั้งที่ 2 ในเดือน ส.ค.- ต.ค. 65 ปริมาณ 90 ล้านบาร์เรล
* จีนประกาศขยายระยะเวลามาตรการ Lockdown เมือง Shanghai ออกไปอย่างไม่มีกำหนด Energy Aspects (EA) คาดการณ์ว่าจะทำให้อุปสงค์น้ำมันจีนในไตรมาส 2/65 ลดลงประมาณ 0.67 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้ EA เคยคาดว่าอุปสงค์น้ำมันในจีน ในครึ่งแรกของปี 65 จะอยู่ที่ระดับ 15.05 ล้านบาร์เรลต่อวัน