30 C
Bangkok
Friday, January 3, 2025
musubishi900x192px_2024
Honda_900x192px 2024
มอเตอร์ไซค์​ honda
AD Banner_900x180
FORD900x192px_1
Mitsubishi_900x192px_2
previous arrow
next arrow

รู้จักกับ V2G เทคโนโลยีแห่งอนาคตเพื่อการจัดการพลังงานร่วมฉลองวันแห่งความยั่งยืนโลก

30 ตุลาคมปีนี้ เป็นวันแห่งความยั่งยืนโลก หรือ World Sustainability Day ซึ่งปกติจะจัดในวันพุธสุดท้ายของเดือนตุลาคม เพื่อสร้างความตระหนัก และชวนให้คนทั่วโลกได้ร่วมกันปรับพฤติกรรม ที่จะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม และธรรมชาติเพื่อส่งต่อให้คนรุ่นหลัง วันนี้เราชวนมารู้จักกับเทคโนโลยีนี้เรียกว่า V2G หรือชื่อเต็ม ๆ ว่า Vehicle-to-Grid ซึ่งเป็นการนำไฟฟ้าส่วนเกินจากรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหรือ EV มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

เช่นเดียวกันกับในหลายๆ ประเทศ ประเทศไทยกำลังตื่นตัวกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เพราะนอกจากจะช่วยให้ผู้ขับขี่ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน และการเดินทางแล้ว ยังไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ทันที

เทคโนโลยี V2G ที่อาจเรียกง่าย ๆ ได้ว่าเป็นเทคโนโลยีชาร์จไฟสองทาง นอกจากจะใช้ชาร์จรถก่อนออกเดินทางแล้ว เมื่อเรากลับถึงบ้าน และยังมีไฟฟ้าเหลืออยู่ในแบตเตอรี่รถยนต์ เทคโนโลยี V2G ยังช่วยให้เรานำพลังงานส่วนที่เหลืออยู่ในแบตเตอรี่ของรถ EV ส่งกลับเข้าสู่ระบบไฟบ้านมาใช้ในระบบไฟส่องสว่าง แอร์ หรือเสียบปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ในบ้านได้ 

นิสสันซึ่งเป็นหนึ่งในค่ายรถยนต์ผู้นำของโลกด้านเทคโนโลยี V2G มีบทบาทสำคัญในการพัฒนา และส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีทั้งในต่างประเทศ และในประเทศไทย  เริ่มต้นจากโครงการ Blue Switch ที่นิสสันริเริ่มมาตั้งแต่ปี 2561 ในประเทศญี่ปุ่น เพื่อสร้างสังคมที่ไร้มลพิษ พร้อมยกระดับการเดินทาง และการใช้ชีวิตของผู้คนในสังคมด้วยการขับเคลื่อนจากรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและนวัตกรรมทางเทคโนโลยี

สำหรับประเทศไทย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นหนึ่งในองค์กรแรก ๆ ในประเทศไทยที่ได้ศึกษา และทดลองนำเทคโนโลยี V2G มาใช้อย่างเต็มศักยภาพ  โครงการความร่วมมือระหว่าง นิสสัน ประเทศไทย กับ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)  และบริษัท ฮ้อปคาร์ จำกัด  โดยใช้นิสสัน ลีฟ รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าที่มีเทคโนโลยีถ่ายเทพลังงานจากยานพาหนะสู่ระบบโครงข่ายไฟฟ้า เป็นตัวอย่างในการทดลองนี้

แม้ว่าโครงการนี้จะเพิ่งเริ่มต้นในประเทศไทย และยังต้องรออีกระยะหนึ่งก่อนที่จะได้เห็นผลการทดลองที่ชัดเจน แต่ในระยะยาวแล้วนั้น การศึกษา และการวิจัยนี้จะช่วยให้เราเข้าใจ และเห็นแนวทางพัฒนาการจัดการพลังงานอย่างยั่งยืนในอนาคตให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการใช้เทคโนโลยี V2G เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ตลอดจนลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ขณะเดียวกันยังช่วยลดมลภาวะ และส่งผลต่อการชะลอผลกระทบจากภาวะโลกร้อนด้วย

หนึ่งในประโยชน์ที่สำคัญของเทคโนโลยี V2G คือการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นแหล่งพลังงานสำรองสำหรับบ้านเรือน และอาคาร ในกรณีที่เกิดการขาดแคลนพลังงานหรือไฟฟ้าดับ หรือภาวะฉุกเฉิน เช่น เมื่อเกิดภัยพิบัติธรรมชาติทำให้ระบบจ่ายไฟฟ้าล่ม  เราสามารถดึงเอาพลังงานไฟฟ้าส่วนเกินที่เก็บอยู่ในแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในบ้านเรือนหรืออาคารได้ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้พลังงานได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะสำหรับบ้านที่มีผู้ป่วยหรือผู้ที่ต้องใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ต้องใช้ไฟฟ้า ที่จะสามารถดูแลคนเหล่านี้ได้อย่างต่อเนื่องในขณะที่รอความช่วยเหลือ

แน่นอนว่า การมีรถยนต์ที่ทำหน้าที่เสมือนโรงไฟฟ้าส่วนตัวของเรา ยังช่วยให้บริหารการใช้ไฟฟ้าและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ถ้าเราจัดการดี ๆ จะสามารถชาร์จไฟรถในช่วงที่คนใช้ไฟฟ้าน้อยอัตราค่าไฟถูก และดึงไฟฟ้าจากแบตเตอรี่รถมาใช้ในบ้านในช่วงที่คนใช้ไฟฟ้าเยอะอัตราค่าไฟฟ้าสูง เราจะลดค่าไฟฟ้าช่วงนี้ได้อีก และยังเป็นการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดด้วย

ที่สำคัญกว่าเรื่องค่าใช้จ่าย คือ เรากำลังช่วยกันลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน

การเปลี่ยนแปลงเพื่อความยั่งยืน คือความรับผิดชอบของพวกเราทุกคน  เพียงเราแต่ละคนเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนคนละนิด โลกของเราจะดีขึ้นได้แน่นอน ในวันความยั่งยืนโลกปีนี้ คุณจะทำอะไรดี 

V2G A Sustainable Energy Management Technology to Celebrate World Sustainability Day

October, 30 2024 is World Sustainability Day. Marked annually on the last Wednesday of October, it’s when all of us around the world are reminded of our mission to adopt sustainable living and make any changes we can to preserve and hand over the nature and natural resources to future generations. V2G or Vehicle-to-Grid, an advanced technology that enables people to utilize energy excess from an electric vehicle (EV) in their homes, can be part of this change.

Like many other countries, Thailand is eagerly welcoming EVs. Many people consider this one of the solutions to saving energy and transport costs and minimizing the impact on the environment through no emission.

V2G, or bi-directional charging technology, can do even better when it comes to EVs. It allows drivers to charge their vehicles before travelling. And, when they return home in the evening, they can use the V2G technology to transfer the remaining power in the battery to the household energy system to power lighting, air-conditioning, and other electrical appliances.

Nissan, one of the world’s top carmakers, has played an important role in developing and promoting V2G technology worldwide. In 2018 at its home base in Japan, Nissan initiated a program called “Blue Switch” to create cleaner mobility and unlock the energy stored in EV batteries to help people hit by earthquakes, typhoons or other emergencies.

In Thailand, Chulalongkorn University is among the first to study the potential of the V2G technology through a collaboration with Nissan Motor (Thailand), and Haup Car, using the Nissan LEAF, a Nissan EV model.

Although it is too soon to see the results, this study will enable us to understand and see how we can improve energy management efficiency, save energy costs, and reduce environmental impacts by adopting V2G technology.

Apart from powering the home energy system using the power stored in an EV battery, V2G technology can be used as an energy reserve during emergencies or after natural disasters that cause power shortages or blackouts. This will ensure uninterrupted supply of electricity, which is very useful for families with members who have to use medical appliances powered by electricity at home.

Having a car that also serves as a personal power plant can help us increase energy management efficiency. With good planning, we can charge our EV during the low-energy-cost hours and transmit energy from the EV battery back to our house during peak hours when energy prices are high. That means we can save costs and maximize energy efficiency.

More importantly, while doing this, we are reducing the emissions that have such a severe impact on the environment.

Change, whether it is big or small, is the responsibility of all of us. If each one of us changes the way we live, even by altering our behavior just a little, we can all make a big difference. On this World Sustainability Day, what do you plan to change?

Related Articles

Stay Connected

269FansLike
2,760SubscribersSubscribe
- Advertisement -spot_img

Latest Articles