รื่อจ้าว, จีน : ในช่วงฤดูร้อนปี 2568 เมืองรื่อจ้าว ในมณฑลซานตงของจีน ต้อนรับนักท่องเที่ยวเกือบ 18.3 ล้านคน สู่สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ 19 แห่งทั่วเมือง สร้างรายได้รวมกว่า 309 ล้านหยวน ขณะเดียวกัน กระแสความนิยมของเมืองรื่อจ้าวบนแพลตฟอร์มโต่วอิน (ติ๊กต๊อกเวอร์ชันจีน) ก็พุ่งทะลุ 2 พันล้านวิว ด้านยอดจองโรงแรมและบริการท่องเที่ยวเติบโตขึ้นถึง 123% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ทว่าเมืองรื่อจ้าวไม่ได้หยุดอยู่แค่ข้อมูลผิวเผินอย่าง “จำนวนนักท่องเที่ยว” เพียงเท่านั้น หากยังมุ่งมั่นแปลงตัวเลขเหล่านี้ให้กลายเป็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม และสร้างมูลค่าที่วัดผลได้อย่างแท้จริง
จาก “ชมทะเล” สู่ “เล่นสนุกกับทะเล”: ต้นแบบการบูรณาการวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของเมืองรื่อจ้าว
ฤดูร้อนปีนี้ เมืองรื่อจ้าวได้ยกระดับประสบการณ์การท่องเที่ยวด้วย “แนวคิดนอกกรอบ” ที่ผสานทรัพยากรทางทะเลเข้ากับดนตรี กิจกรรมสร้างสรรค์ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม และเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่างลึกซึ้ง ก่อให้เกิดระบบนิเวศการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยว “ทุกเพศทุกวัย ทุกช่วงเวลา และทุกสถานการณ์” จากทะเลผืนเดียว เมืองรื่อจ้าวสามารถเนรมิตกิจกรรมหลากหลายที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสและเพลิดเพลินอย่างเต็มที่
เมืองรื่อจ้าวได้จัดกิจกรรมหลากหลายที่สร้างสีสันให้กับฤดูร้อน อาทิ เทศกาลดนตรี “Soda Music Chill Party”, เทศกาลและการแข่งขันดนตรี “Sunrise Oriental” Wind Music Carnival & the 10th “Zhonghua Cup” National Woodwind Solo Exhibition และการแข่งขันบาสเกตบอล 2025 Rizhao City Basketball Super League ซึ่งสะท้อนถึงการนำดนตรีและกีฬามาเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวอย่างกลมกลืน ขณะเดียวกัน เมืองรื่อจ้าวยังส่งเสริมมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมและทรัพย์สินทางปัญญาด้านภาพยนตร์และโทรทัศน์ ผ่านการจัดกิจกรรมทัวร์ชมสถานที่ถ่ายทำ และ “Heritage Night Markets” ที่ผสมผสานประเพณีเข้ากับสุนทรียภาพสมัยใหม่อย่างลงตัว นอกจากนี้ แหล่งท่องเที่ยวใหม่ เช่น “Xingdao Blue Carbon Project” และ “Coffee & The Sea” ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจให้กับเมืองรื่อจ้าวอย่างมีมิติ พลิกโฉมจาก “แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นกระแสชั่วคราว” ไปสู่ “ระบบนิเวศการท่องเที่ยวครบวงจร” ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง จนเปลี่ยนจากการท่องเที่ยวเพียงครั้งเดียว สู่การกลับมาเที่ยวซ้ำครั้งแล้วครั้งเล่า
จาก “การบริหารจัดการ” สู่ “การเอาใจใส่”: ปรัชญา “แขกต้องมาก่อน” ของเมืองรื่อจ้าว
ท้ายที่สุดแล้ว หัวใจสำคัญของการท่องเที่ยวก็คือการพบปะผู้คนและสัมผัสกับบรรยากาศอันอบอุ่นของเมือง ฤดูร้อนปีนี้ เมืองรื่อจ้าวได้ยกระดับการให้บริการจากรูปแบบดั้งเดิมที่เน้นเฉพาะ “จุดชมวิว” ไปสู่การพลิกโฉมทั้งเมืองให้กลายเป็น “พื้นที่บริการแบบไร้พรมแดน”
สำนักบริหารเมืองรื่อจ้าวได้นำร่องโครงการ “ที่จอดรถอัจฉริยะเมืองรื่อจ้าว” ตามแหล่งท่องเที่ยวบริเวณชายฝั่ง ช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถจองที่จอด ชำระเงิน และใช้งานได้อย่างสะดวกสบายผ่านมินิโปรแกรมที่ไม่ซับซ้อน ขณะเดียวกัน สำนักความมั่นคงสาธารณะยังได้บังคับใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยเชิงรุกแบบ “Tidal Policing” ซึ่งประกอบด้วยการเฝ้าระวังด้วยกล้องวงจรปิด การลาดตระเวนตามท้องถนน และการใช้โดรนทำหน้าที่เป็น “ผู้เฝ้าระวังทางอากาศ” คอยเฝ้าระวังพื้นที่สำคัญอย่างใกล้ชิด พร้อมตอบสนองและจัดการกับความเสี่ยงอย่างทันท่วงที นอกจากนี้ สถานีดับเพลิงและกู้ภัยซันไชน์โคสต์ยังคงรักษามาตรฐาน “ตอบสนองภายใน 1 นาที มาถึงภายใน 3 นาที และช่วยเหลือภายใน 5 นาที” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ตลอดฤดูร้อนนี้ไม่เกิดเหตุร้ายกับนักท่องเที่ยวเลยแม้แต่กรณีเดียว
จาก “การมาเยือน” สู่ “ประสบการณ์”: เครือข่ายหลายมิติรองรับ “การเดินทางรวดเร็ว พักผ่อนไม่เร่งรีบ”
การพัฒนาอุตสาหกรรมวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวย่อมไม่อาจแยกขาดจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพ ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของการขับรถเที่ยวเองในเมืองรื่อจ้าวช่วงฤดูร้อนนี้ เป็นผลลัพ์โดยตรงจากความพยายามอย่างต่อเนื่องของเมืองในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาในการวางรากฐาน “เครือข่ายการขนส่งหลายมิติ + เส้นทางสีเขียว”
การสร้าง “เครือข่ายรถไฟความเร็วสูงระยะเวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง” ช่วยให้นักท่องเที่ยวจากเมืองอื่นเดินทางเยือนเมืองรื่อจ้าวได้สะดวกยิ่งขึ้น ส่งผลให้การท่องเที่ยวช่วงสุดสัปดาห์และการเดินทางระยะสั้นกลายเป็นเรื่องธรรมดา ขณะเดียวกัน การเปิดสถานีรถไฟความเร็วสูงรื่อจ้าวยิ่งเร่งการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ด้านการเดินทางทางอากาศ สนามบินรื่อจ้าวรองรับผู้โดยสารในช่วงฤดูร้อนสูงถึง 206,000 คน เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สะท้อนศักยภาพของเมืองในการขยายช่องทางการเข้าเมืองผ่าน “เส้นทางการบิน” นอกจากนี้ เมืองรื่อจ้าวได้เชื่อมเส้นทาง Sunshine Coast Greenway กับ Mountain-Sea Romance Greenway ก่อเกิดเส้นทางธรรมชาติความยาวกว่า 61.8 กิโลเมตร ที่มีทั้งภูเขา ทะเล และเมือง ผสานทัศนียภาพทางธรรมชาติเข้ากับความมีชีวิตชีวาของเมืองได้อย่างลงตัว
แม้สายลมจากทะเลพัดพาความเย็นมา และฤดูร้อนลาลับไปตามกาลเวลา ทว่าเรื่องราวของวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเมืองรื่อจ้าวยังคงดำเนินต่อไป พร้อมเดินหน้าสร้างความประทับใจอย่างไม่รู้จบ
Decoding Drivers Behind Rizhao’s Summer 2025 Tourism Boom
Rizhao Daily, RIZHAO, China : During the summer of 2025, Rizhao’s 19 key tourist attractions welcomed nearly 18.3 million visitors, generating RMB 309 million in revenue. Topics related to Rizhao on Douyin (TikTok) surpassed 2 billion views, and hotel and travel bookings grew 123% month-over-month. However, Rizhao has never focused merely on surface-level data like “visitor numbers,” ; instead, the city emphasizes translating these figures into tangible results and measurable value.
From “Seeing Sea” to “Playing with Sea”: Rizhao Model of Cultural and Tourism Integration
This summer, Rizhao reshapes its tourism offerings with a “boundary-breaking mindset,” deeply integrating marine resources with music, events, intangible cultural heritage, and technology. This created a new tourism ecosystem catering to “all ages, all times, and all scenarios,” turning a single stretch of sea into countless ways to explore and enjoy.
Rizhao hosted a series of events — including the “Soda Music Chill Party,” the “Sunrise Oriental” Wind Music Carnival & the 10th “Zhonghua Cup” National Woodwind Solo Exhibition, and the 2025 Rizhao City Basketball Super League — using music and sports to turn interest into tourism. The city also activated intangible cultural heritage and film/TV IPs through filming-location tours and “Heritage Night Markets,” blending tradition with modern aesthetics. New attractions like the “Xingdao Blue Carbon Project” and “Coffee & The Sea” further boosted appeal. Moving from “single viral hits” to a full “ecosystem matrix,” visitors became active participants, shifting from one-time consumption to repeat experiences.
From “Management” to “Empathy”: A City’s “Guest-First” Philosophy
Tourism is ultimately about human encounters and the warmth of a city. This summer, Rizhao went beyond traditional “scenic spot services,” transforming the entire city into a “borderless service zone.”
The Rizhao City Urban Administration piloted “Rizhao Smart Parking” at coastal attractions, enabling visitors to reserve spaces, pay seamlessly, and navigate intelligently via a mini-program. The Public Security Bureau implemented a “tidal policing” model — combining video surveillance, street patrols, and drones as “aerial sentinels” — to dynamically monitor key areas and address risks early. Meanwhile, the Sunshine Coast Station of the Fire and Rescue Brigade maintained a “one-minute response, three-minute arrival, five-minute rescue” system, achieving zero tourism-related safety incidents all summer.
From “Arrival” to “Experience”: A Multi-dimensional Network Supports “Quick Travel, Slow Stay”
The development of the cultural and tourism industry is inseparable from infrastructure support. The popularity of self-drive tours in Rizhao this summer is closely linked to the city’s sustained efforts in recent years to build a “multi-dimensional transport + greenway network.”
The establishment of a “3-hour high-speed rail circle” brought source markets closer, making weekend getaways and short trips the norm. The opening of Rizhao High-Speed Rail Station further accelerated tourism growth, while summer passenger throughput at Rizhao Airport reached 206,000 — a 7% year-on-year increase — expanding the city’s reach via “air corridors.” Rizhao also connected the Sunshine Coast Greenway with the Mountain-Sea Romance Greenway, forming a 61.8-kilometer ecological corridor that integrates mountains, sea, and city, blending natural scenery with urban vitality.
As the sea breeze cools and summer ends, Rizhao’s cultural and tourism story continues to unfold.