Royal Enfield (โรยัล เอ็นฟีลด์) ผู้นำระดับโลกในตลาดมอเตอร์ไซค์ขนาดกลาง (250cc–750cc) ประกาศเปิดตัว Royal Enfield Classic 650 อย่างเป็นทางการในประเทศไทย มอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ที่ถ่ายทอด DNA อันเป็นเอกลักษณ์ของตระกูล Classic ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ Royal Enfield 650 Twin ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล พร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้ในโชว์รูมทั่วประเทศ ราคาเริ่มต้นที่ 249,900 บาท
ตลอดทุกยุคสมัย ‘Classic’ ยังคงเป็นตัวแทนและตอกย้ำ DNA แห่ง Royal Enfield นอกจากจะเป็นรากฐานสำคัญของหลายโมเดลแล้ว Classic ยังเป็นมอเตอร์ไซค์ที่สะท้อนความสง่างามเหนือกาลเวลา เสน่ห์แบบดั้งเดิม และคาแรกเตอร์ที่ชัดเจน ที่มาพร้อมงานประกอบที่ประณีตในทุกรายละเอียด ทำให้ Classic กลายเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมการออกแบบยานยนต์คลาสสิก ทั้งในด้านสุนทรียะและวิศวกรรม
Classic 650 ใหม่ ถ่ายทอดจิตวิญญาณของตระกูล Classic ได้อย่างเด่นชัด แต่ยกระดับขึ้นอีกขั้นด้วยขุมพลัง 650 Twin อันเลื่องชื่อของ Royal Enfield ที่มอบทั้งความนุ่มนวลและพละกำลังในการขับขี่ที่เร้าใจ ตัวรถมีเส้นสายที่สง่างามและคลาสสิก ขี่ง่าย แต่ยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมของตระกูล Classic ไว้อย่างครบถ้วน Classic 650 มอบการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความงามแบบวินเทจ ดูทรงพลังและสง่างาม
นายมาโนช กาจาร์ลาวาร์ หัวหน้าธุรกิจภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของโรยัล เอ็นฟีลด์ กล่าวว่า “ตลอดเวลาที่โรยัล เอ็นฟีลด์ ทำการตลาดในประเทศไทย รุ่น Classic คือมอเตอร์ไซค์ที่ครองใจนักขับขี่มาโดยตลอด ไม่เพียงสร้างรากฐานให้แบรนด์ แต่ยังปลูกฝังปรัชญา Pure Motorcycling ให้หยั่งรากลึกในสังคมนักขี่ Classic คือสัญลักษณ์ที่ทำให้เรายืนหยัดบน DNA ความเป็นโรยัล เอ็นฟีลด์อย่างไม่เปลี่ยนแปลง และวันนี้ Classic 650 ก็คือการสานต่อจิตวิญญาณนั้นให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิมบนแพลตฟอร์ม 650 Twin ระดับโลก เรารักษาทุกอย่างที่เป็นตัวตนของ Classic ตั้งแต่สไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ งานดีไซน์ที่เหนือกาลเวลาไปจนถึงความสง่างามบนท้องถนน ผสานกับงานประกอบที่ประณีตและเครื่องยนต์ที่พัฒนาขึ้นอย่างลงตัว เรามั่นใจว่ามอเตอร์ไซค์รุ่นนี้จะเข้าถึงหัวใจนักขับขี่ชาวไทย และยิ่งเติมเต็มความผูกพันที่มีต่อแบรนด์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น”
เสน่ห์ที่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า (Double the charm)
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา Classic คือรากฐานสำคัญของหลายโมเดลจากโรยัล เอ็นฟีลด์ โดยถ่ายทอดทั้งมรดกและแรงบันดาลใจที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์การออกแบบของแบรนด์ไว้ครบถ้วน Classic 650 สานต่อดีเอ็นเอนี้อย่างชัดเจน ด้วยโครงสร้างเฟรมอันเป็นเอกลักษณ์ที่เชื่อมโยงกับรุ่นในอดีต ตั้งแต่ OG Classic, Thunderbird ไปจนถึง Super Meteor และ Shotgun รุ่นล่าสุด แต่ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้น เพราะ Classic 650 ก้าวไปไกลกว่านั้นด้วยเสน่ห์และคาแรกเตอร์ที่เหนือชั้นกว่าเดิม
สมรรถนะที่ยกระดับขึ้นอีกขั้น (Double the capability)
หัวใจสำคัญของ Classic 650 คือเครื่องยนต์ 648 ซีซี parallel twin ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก ปรับจูนใหม่เพื่อการตอบสนองที่ดียิ่งขึ้น ให้แรงบิดจัดตั้งแต่รอบต่ำ คันเร่งตอบสนองไว และยังคงสไตล์การขี่ที่สง่างามและเป็นเอกลักษณ์แบบ Classic ระบบเกียร์ที่ปรับจูนมาอย่างประณีต เปลี่ยนเกียร์ได้ลื่นไม่มีสะดุด แชสซีบาลานซ์ลงตัว ช่วยให้มั่นใจแม้บนเส้นทางที่ไม่เรียบ เครื่องยนต์ 650 Twin ที่ขึ้นชื่อเรื่องแรงบิดรอบต่ำ ทำให้การเร่งแซงทำได้มั่นใจ เติมพลังต่อเนื่องแบบไม่ต้องเค้นหนัก แต่ยังให้ความเร้าใจทุกครั้งที่บิด
คาแรกเตอร์ที่เข้มข้นกว่าเดิม (Double the character)
แม้ Classic 650 จะสืบทอดสายเลือดเดียวกับตระกูล Classic แต่ตัวรถถูกออกแบบใหม่ให้มีความทันสมัยและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ รุ่นนี้ใช้เส้นสายและสัดส่วนตัวรถที่ออกแบบให้รับกับเครื่องยนต์ Twin ที่วางทำมุมเฉียงไปข้างหน้า ทำให้ได้บุคลิกทรงพลังและมีท่าทางที่ดูดุดันขึ้น มาพร้อมบังโคลนสั้นทรงคลาสสิค ยางหน้าหลังไซส์ใหญ่ที่ขึ้นช่วยเสริมสมรรถนะ รวมถึงสัดส่วนตัวรถที่บึกบึนกว่าเดิม สอดรับกับเครื่องยนต์ความจุ 650 ซีซี ได้อย่างลงตัว
Classic 650 ใหม่ ใช้เฟรมหลักร่วมกับ Super Meteor และ Shotgun 650 มาพร้อมเบาะคู่แบบ Dual Seat ที่สามารถถอดเบาะซ้อนท้ายและแร็กออกได้เพื่อเพิ่มรูปลักษณ์ที่โดดเด่นมากยิ่งขึ้น งานดีไซน์ยังคงกลิ่นอายสไตล์อังกฤษยุคหลังสงคราม ด้วยรายละเอียดโครเมียมและอะลูมิเนียมขัดเงาบริเวณโคมไฟหน้าและชุดไฟเลี้ยวด้านหน้า ตัวรถเน้นเส้นสายที่ไหลลื่นตั้งแต่หัวจรดท้าย มาพร้อมถังน้ำมันทรงหยดน้ำอันเป็นเอกลักษณ์ และชุดฟแบบ ‘nacelle’ ที่ติดตั้งไฟหน้า LED ใหม่ ควบคู่กับไฟ ‘Tiger Lamps’ หรือไฟหรี่คู่ ที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของ Royal Enfield มาตั้งแต่ปี 1954
ท่านั่งในการขับขี่ที่ถูกออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ แฮนด์บาร์วางตำแหน่งได้พอดี จับถนัด และเบาะกว้างนุ่มสบาย ช่วยให้ผู้ขับขี่ผ่อนคลายตลอดการเดินทางไกล ช่วงล่างหน้า–หลังจาก Showa ถูกปรับเซ็ตมาอย่างละเอียด ซับแรงสะเทือนบนถนนได้อย่างนุ่มนวล พร้อมมอบความมั่นใจทั้งในเมืองที่ต้องการความคล่องตัว และบนทางไกลที่ต้องการความมั่นคง
แผงหน้าปัดออกแบบเรียบง่ายไม่รกสายตา มาพร้อมหน้าจอ LCD ดิจิทัล แสดงข้อมูลครบทั้งมาตรวัดระยะทาง ทริปมิเตอร์ ระดับน้ำมัน เตือนการเข้ารับบริการ ตำแหน่งเกียร์ และนาฬิกา ช่วยให้ผู้ขี่โฟกัสและเพลิดเพลินกับการเดินทางได้เต็มที่ นอกจากนี้ยังมีชุดอุปกรณ์ตกแต่งแท้ (Genuine Motorcycle Accessories) ให้เลือกทั้งสไตล์ Classic และ Classic Tourer เพื่อการปรับแต่งรถให้ตรงกับสไตล์ของผู้ขี่มากยิ่งขึ้น Classic 650 คือการผสมผสานเสน่ห์เหนือกาลเวลาของมอเตอร์ไซค์เข้ากับความแม่นยำและความสะดวกสบายของเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว
สีสันคลาสสิกกับเส้นสายเหนือกาลเวลา (Classic colours for classic contours)
Royal Enfield Classic 650 มาพร้อมเฉดสีที่หวนรำลึกถึง Classic 500 อันเป็นที่รักของชาวคลาสสิค เลิฟเวอร์ พร้อมเพิ่มสีใหม่ได้แก่ Bruntingthorpe Blue, Vallam Red และ Black Chrome ซึ่งแต่ละสีช่วยขับเส้นสายตัวถังที่โค้งสวยสง่างามให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ราคาจำหน่ายเริ่มต้น Bruntingthorpe Blue และ Vallam Red ที่ 249,900 บาท ส่วน Black Chrome อยู่ที่ 259,900 บาท มาพร้อมการรับประกัน 3 ปีแบบไม่จำกัดระยะทาง
The Purest Expression of Royal Enfield DNA-Served in a Double Measure.
Royal Enfield Classic 650 Now in Thailand
* Double the character. Double the craftsmanship. Double the charm. All the unmistakable hallmarks of a Classic, now twice as good, powered by the acclaimed Royal Enfield 650 Twin motor
* The Classic 650 will be available in Thailand from THB 249,900 with immediate effect at showrooms across the country
Royal Enfield, global leader in the mid-size (250cc-750cc) motorcycle segment, launched the much-loved, and eagerly anticipated Royal Enfield Classic 650 in Thailand today. The new Classic 650 is a super-sized version of the iconic silhouette of Classics from the past, and stays true to the genetic traits of the Classic family.
The ‘Classic’ has remained the purest form of Royal Enfield DNA, undiluted through every evolution. Not only has it been the foundation of several Royal Enfield motorcycle models, it has also remained a motorcycle with an impeccable pedigree, timeless elegance, old-world charm, and a distinct, unwavering character. With its bespoke craftsmanship, the Classic has represented the very culture of classic automotive design, aesthetics and engineering.
The new Classic 650 showcases the distinctive spirit of the Classic family, but serves it up in a double measure. Its stately, streamlined form is propelled by Royal Enfield’s acclaimed 650 Twin engine, resulting in a ride that is both swift and graceful. While staying true to traits of the Classic family, the Classic 650 offers riders a powerful new blend of old-school aesthetics and effortless power delivery. Imposing to look at, but friendly to ride, this is unmistakably a Classic that stays pure to the core.
Speaking about the launch of the Classic 650 in Thailand, Manoj Gajarlawar , APAC Business Head, Royal Enfield, said, “Amongst the motorcycles that Royal Enfield has introduced for the Thai market, the Classic has always had a special place in the hearts of loyal riders. Not only has it rooted the brand in the market but has also etched the philosophy of Pure motorcycling in the riding community. The Classic has kept us rooted and committed to our brand legacy. The new Classic 650 not only upholds and embodies this spirit, it serves it up in a double measure on our world-class 650 Twin platform. We’ve stayed true to the Classic’s purpose and character, and retained its quintessential style, design and elegance. With its fine craftsmanship, majestic road-presence, and refined powertrain we believe this motorcycle will resonate deeply with the customers in Thailand and further deepen the brand love”
Double the charm
A foundation for many Royal Enfield motorcycle models through the years, the Classic has carried the rich heritage and inspiration that retains Royal Enfield design characteristics. It carries forward the legacy and is built to reflect the familiar and signature design elements that connect it to its predecessors. The Classic 650 seamlessly carries forward the iconic ‘frame-loop’ that connects it to all past models – from the OG Classic, to the Thunderbird, to more recently, the Super Meteor and Shotgun – but that’s where the similarities end.
Designed with meticulous attention to detail, the Classic 650 embodies the spirit of Royal Enfield’s rich history with its smooth lines, signature design cues and luxurious detailing that exude both class and authenticity. The motorcycle features a beautifully sculpted fuel tank, vintage-style round headlamps, and elegantly curved fenders, all paying homage to the Classic’s legacy.
Double the capability
At the heart of the Classic 650 lies the globally celebrated 648cc parallel twin engine, which makes its debut on the motorcycle in a fresh state of tune, offering strong low-end acceleration, exceptional throttle response, calibrated for the grace and unhurried attitude so quintessential to the Classic. Refined gear-shifts and well-balanced chassis offer superior stability and enhanced riding experience, even on uneven terrain. The 650cc twin motor known for its strong low-end acceleration makes it ideal for confident overtakes. It delivers ample torque right from lower revs, providing an effortless surge of power without needing to push it hard.
Double the character
While the Classic 650 shares common heritage, it is completely modern and unique. The design, stance and the form of the motorcycle has been matched to the lines and form of the engine that powers this motorcycle. The Classic 650 has shorter, sporty fenders and a leaning forward proportion, adapted to the angled forward Twin motor. This gives the motorcycle a dynamic pose. More modern, wider tires add to its capability and larger forms all around give it a presence befitting its larger capacity motor.
The new Classic 650 shares its mainframe with the Super Meteor and the Shotgun 650 will have dual seats with an option of pillion seat and rack removal, using a single bolt on mechanism. With bright polished aluminium and chrome finish on the headlamp unit and front trafficators, the Classic 650 continues to maintain the signature post-war British motorcycle styling, with visual harmony accentuated by flowing lines from front to the tail. The motorcycle bears the distinct teardrop shaped tank, and the signature Royal Enfield nacelle that houses a new LED headlamp along with the signature ‘tiger lamps’ – pilot lights – an enduring feature on Royal Enfield motorcycles since 1954.
The ergonomic riding posture, with perfectly positioned handlebars and a plush wide seat, keeps the rider comfortable during long rides. The front and rear suspension from Showa is tuned for a refined ride quality, absorbing road imperfections effortlessly, while the responsive handling makes it agile in city traffic and confident on highways.
The uncluttered dash unit, featuring a digital LCD screen with an odometer, trip metre, fuel level indicator, service reminder, gear position indicator and clock, makes the rider focus and enjoy the ride. Additionally, the motorcycle will be offered with Genuine Motorcycle Accessories in the Classic and Classic Tourer inspired themes, allowing riders to customise their machine for an even more personalised riding experience. Overall, the Classic 650 embodies the timeless charm of motorcycling with modern-day precision and comfort.
Classic colours for classic contours.
The liveries of the Royal Enfield Classic 650 bring back the much loved colour schemes of the Classic 500, along with new ones that offer a fresh take on legacy. With Bruntingthorpe Blue, Vallam Red, and Black Chrome, each colour beautifully complements the motorcycle’s flowing elegant lines, and classic contours. The ride-away prices of the motorcycles are as follows:- Bruntingthorpe Blue, Vallam Red will be available at THB 249,900 and Black Chrome will be priced at THB 259,900. All the motorcycles will come with a three years unlimited warranty.
