ภาพรวมตลาดรถยนต์มืองไทยประจำเดือนตุลาคม 2568 ทำปริมาณยอดขายได้ 47,032 คัน เพิ่มขึ้น 24.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยกลุ่มตลาดรถยนต์นั่ง, รถยนต์เพื่อการพาณิชย์และรถกระบะขนาด 1 ตัน มีปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ โตโยต้า ครองแชมป์ยอดขายอันดับหนึ่ง ด้วยส่วนแบ่งตลาดสิบเดือนแรกที่ 39%
นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนตุลาคม 2568 ยอดขายตลาดรวม 47,032 คัน เพิ่มขึ้น 24.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขาย 19,291 คัน เพิ่มขึ้น 24.0% ในขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีปริมาณการขาย 27,741 คัน เพิ่มขึ้น 27.8% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขายทั้งหมด 13,572 คัน เพิ่มขึ้น 1.7%
ตลาดรถยนต์เดือนตุลาคม 2568 มียอดขาย 47,032 คัน เพิ่มขึ้นถึง 24.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาแสดงถึงสัญญาณเชิงบวกของตลาดรถยนต์
– ตลาดรถยนต์นั่ง ยอดขาย 19,291 คัน เพิ่มขึ้น 24.0% จากปีที่ผ่านมา
– ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ปรับตัวดีขึ้น ด้วยยอดขาย 27,741 คัน เพิ่มขึ้น 27.8%
– ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขาย 13,572 คัน เพิ่มขึ้น 1.7%
สำหรับยอดขายรถยนต์สะสม 10 เดือนแรกของปี 2568 มีปริมาณยอดขาย 495,001 คัน เติบโต 3.9% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันโดย 40% เป็นตลาดรถยนต์นั่ง ตลาดส่วนใหญ่กว่า 60 % ยังคงเป็นตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ แสดงให้เห็นว่าตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ยังคงเป็นตลาดสำคัญที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศไทย ซึ่งโตโยต้าได้ตอบรับความต้องการของตลาดด้วยการแนะนำ โตโยต้า ไฮลักซ์ ทราโว่ ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568
สำหรับรถยนต์ในกลุ่มรถยนต์ประเภท HEV เดือนตุลาคม 2568 มีปริมาณยอดขาย 12,329 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกับในปีที่ผ่านมา 69.0% และมีปริมาณยอดขายสะสม 10 เดือนแรกของปี 2568 ถึง 114,701 คัน คิดเป็นส่วนแบ่ง 51.4% ของตลาด xEV ทั้งหมด สำหรับโตโยต้า ยังคงครองอันดับหนึ่งตลาดรถยนต์ ด้วยยอดขายสะสมสิบเดือนแรกถึง 186,148 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดที่ 37.6% เติบโต 2.1% นำโดย Yaris ATIV 45,902 คัน และ Hilux REVO 50,402 คัน
คาดการณ์สภาวะตลาดรถยนต์เมืองไทยในเดือนพฤศจิกายน 2568 มีแนวโน้มทรงตัว เนื่องจากผู้บริโภครอแคมเปญใหญ่ปลายปีในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42 หรือ (Motor Expo 2025) ที่จะเริ่มขึ้นในปลายเดือนพฤศจิกายน ซึ่งทำให้การตัดสินใจซื้อชะลอตัว
ขณะเดียวกัน อัตราการปฏิเสธสินเชื่อยังอยู่ในระดับสูง ยังคงกดดันความเชื่อมั่นและกำลังซื้อ อย่างไรก็ตามตลาดรถยนต์ยังมีปัจจัยบวก ซึ่งอาจเป็นปัจจัยบวกสำหรับตลาดรถยนต์ในช่วงปลายปีจากมาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” ผ่านกลไกการค้ำประกันสินเชื่อของ บสย. ที่มีการขยายการค้ำประกันสินเชื่อไปยังผู้ให้บริการสินเชื่อประเภท Non-Bank รวมทั้ง ลีสซิ่งของค่ายรถยนต์ (Captive Finance) ช่วยให้ SMEs รายย่อยสามารถเข้าถึงบริการสินเชื้อได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนตุลาคม 2568
ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 47,032 คัน เพิ่มขึ้น 24.8%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 18,348 คัน เพิ่มขึ้น 21.0% ส่วนแบ่งตลาด 39.0%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 5,677 คัน เพิ่มขึ้น 37.2% ส่วนแบ่งตลาด 12.1%
อันดับที่ 3 อีซูซุ 5,278 คัน ลดลง 13.4% ส่วนแบ่งตลาด 11.2%
ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 19,291 คัน เพิ่มขึ้น 24%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 7,133 คัน เพิ่มขึ้น 36.9% ส่วนแบ่งตลาด 37.0%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 3,552 คัน เพิ่มขึ้น 5.7% ส่วนแบ่งตลาด 18.4%
อันดับที่ 3 เอ็มจี 1,624 คัน เพิ่มขึ้น 115.4% ส่วนแบ่งตลาด 8.4%
ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 27,741 คัน เพิ่มขึ้น 27.8%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 11,215 คัน เพิ่มขึ้น 12.7% ส่วนแบ่งตลาด 40.4%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 5,278 คัน ลดลง 13.4% ส่วนแบ่งตลาด 19.0%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 2,125 คัน เพิ่มขึ้น 173.1% ส่วนแบ่งตลาด 7.7%
ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 13,572 คัน เพิ่มขึ้น 1.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 6,246 คัน เพิ่มขึ้น 7.9% ส่วนแบ่งตลาด 46%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 4,371 คัน ลดลง 16% ส่วนแบ่งตลาด 32.2%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 1,430 คัน เพิ่มขึ้น 8.7% ส่วนแบ่งตลาด 10.5%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 3,450 คัน
โตโยต้า 1,385 คัน -– เกรท วอลล์ มอเตอร์ 766 คัน -– อีซูซุ 663 คัน -– ฟอร์ด 556 คัน – มิตซูบิชิ 80 คัน– นิสสัน 0 คัน
ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 10,122 คัน ลดลง 7.1%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 4,861 คัน ลดลง 3.5% ส่วนแบ่งตลาด 48.0%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 3,708 คัน ลดลง 11.7% ส่วนแบ่งตลาด 36.6%
อันดับที่ 3 ฟอรด์ 874 คัน เพิ่มขึ้น 8.3% ส่วนแบ่งตลาด 8.6%
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – ตุลาคม 2568
ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 495,001 คัน เพิ่มขึ้น 3.9%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 186,148 คัน เพิ่มขึ้น 2.1% ส่วนแบ่งตลาด 37.6%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 58,781 คัน ลดลง 17.6% ส่วนแบ่งตลาด 11.9%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 56,686 คัน ลดลง 9.2% ส่วนแบ่งตลาด 11.5%
ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 193,395 คัน เพิ่มขึ้น 4.3%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 65,912 คัน เพิ่มขึ้น 22.0% ส่วนแบ่งตลาด 34.1%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 32,210 คัน ลดลง 13.7% ส่วนแบ่งตลาด 16.7%
อันดับที่ 3 บีวายดี** 15,864 คัน ลดลง 2.3% ส่วนแบ่งตลาด 8.2%
**อ้างอิงจากยอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ระหว่างวันที่ 01–31 ตุลาคม 2568 จากเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก
ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 301,606 คัน เพิ่มขึ้น 4.2%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 120,236 คัน ลดลง 6.3% ส่วนแบ่งตลาด 39.9%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 58,781 คัน ลดลง 17.6% ส่วนแบ่งตลาด 19.5%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 24,476 คัน ลดลง 2.5% ส่วนแบ่งตลาด 8.1%
ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 152,082 คัน ลดลง 8.9%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 68,670 คัน ลดลง 10.1% ส่วนแบ่งตลาด 45.2%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 50,506 คัน ลดลง 18.6% ส่วนแบ่งตลาด 33.2%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 15,235 คัน ลดลง 12.5% ส่วนแบ่งตลาด 10%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 34,810 คัน
โตโยต้า 11,861 คัน – อีซูซุ 9,205 คัน – เกรท วอลล์ มอเตอร์ 6,228 คัน – ฟอร์ด 5,892 คัน – มิตซูบิชิ 1,329 คัน – นิสสัน 295 คัน
ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 117,272 คัน ลดลง 14.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 56,809 คัน ลดลง 14.1% ส่วนแบ่งตลาด 48.4%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 41,301 คัน ลดลง 20.3% ส่วนแบ่งตลาด 35.2%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 9,343 คัน ลดลง 13.3% ส่วนแบ่งตลาด 8.0%
หมายเหตุ: ข้อมูลที่ปรากฏในรายงานนี้อ้างอิงจากยอดขายรถยนต์ระหว่างวันที่ 01–31 ตุลาคม 2568 โดยได้รับข้อมูลจาก บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด, บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ส คัมปะนี (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ เซลล์ (ประเทศไทย) จำกัด
