บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำความเป็นผู้นำรถยนต์ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดด้วยการเปิดตัว ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี สู่ตลาดประเทศไทยเป็นครั้งแรก รถคอมแพ็กต์เอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุด ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ เร้าใจกับสมรรถนะ ครบครันด้วยความสะดวกสบาย และเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย จากอีกขั้นของการพัฒนา MITSUBISHI e:MOTION ที่ผสาน 3 เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่สุดของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
เพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพที่ยอดเยี่ยม ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี จะผลิตที่โรงงานมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย และจัดจำหน่ายผ่านทางเครือข่ายผู้จำหน่ายที่ได้รับแต่งตั้งอย่างเป็นทางการกว่า 190 แห่งทั่วประเทศ เปิดตัวครั้งแรกที่ประเทศอินโดนีเซียในเดือนสิงหาคม 2566 ในรุ่นเครื่องยนต์สันดาปภายใน และขยายตลาดสู่เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ละตินอเมริกา แอฟริกา ตะวันออกกลาง และภูมิภาคอื่น ๆ ในปี 2567 มีความสำคัญในฐานะรถยนต์เชิงกลยุทธ์ระดับโลกของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส
ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี จะมาเสริมทัพกลุ่มรถยนต์ฟูลไฮบริดของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ต่อยอดความสำเร็จจาก มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี และ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี ที่เปิดตัวในประเทศไทย เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา รถคอมแพ็กต์เอสยูวีรุ่นใหม่นี้ เป็นรถที่จะสร้างความน่าดึงดูดใจให้กับทุกท่าน เพราะมาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดเจเนอเรชันใหม่ล่าสุด ซึ่งได้รับการถ่ายทอดและพัฒนาจากระบบขับเคลื่อนแบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) อันเลื่องชื่อของมิตซูบิชิ โดดเด่นด้วยอัตราการประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยม เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และอัตราเร่งที่ทรงพลัง พร้อมโหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ (7-Drive Mode) ผสานการทำงานระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control – AYC) แบบ All-Wheel Control ที่จะช่วยคำนวณการส่งกำลังจากระบบขับเคลื่อนและแรงเบรกลงสู่แต่ละล้อ เพื่อให้ล้อทั้งคู่หน้า-คู่หลัง ทำงานอย่างสัมพันธ์กัน ให้ประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษาสมดุลของตัวรถขณะเข้าโค้ง เพื่อความปลอดภัย และมั่นใจได้ในทุกเส้นทาง
“นี่เป็นครั้งแรกที่ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ได้รับการติดตั้งระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด รุ่นใหม่ล่าสุดของเรา และเราภาคภูมิใจ ที่รถยนต์รุ่นนี้ ผลิตที่ประเทศไทย ณ โรงงานแหลมฉบังของเรา เราใช้เวลาหลายเดือน ในการทดสอบรถยนต์รุ่นนี้ รวมระยะทางทั้งหมดกว่า 100,000 กิโลเมตร ทั่วประเทศไทย ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา เพื่อประเมินความทนทาน และสมรรถนะในการขับขี่ ทีมทดสอบของเราได้รวบรวมข้อมูล และความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่างๆ ซึ่งวิศวกรฝ่ายวิจัยและพัฒนาของเรา ได้นำไปใช้ในการปรับแต่ง และพัฒนารถรุ่นนี้ ให้ดียิ่งขึ้น ขั้นตอนสุดท้าย คือการทดสอบความทนทานของรถ และปรับแต่งระบบกันสะเทือนที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานบนสภาพถนนที่หลากหลายของประเทศไทย ให้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ สำหรับ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เราให้ความสำคัญสูงสุดกับคุณภาพ และประสบการณ์การขับขี่เสมอมา และเราไม่เคยลดทอนมาตรฐานเหล่านี้เลยครับ เราจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี จะเป็นโมเดลที่สร้างความตื่นเต้น และน่าประทับใจ พร้อมกับได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวไทย” มร. เรียวอิจิ อินาบะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
คุณสมบัติเด่นของ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี สามารถแบ่งได้เป็น 4 แกนสำคัญ อันประกอบไปด้วย ดีไซน์ สมรรถนะ ระบบความปลอดภัย และ ความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร
ดีไซน์
– รูปลักษณ์ภายนอก ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Silky and Solid’ แนวคิดการออกแบบใหม่จากมิตซูบิชิ เรียบหรู แต่ทรงพลัง สะท้อนผ่านรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว โดดเด่น เปรียบสมือนไอคอนนิคแห่งยุค ด้วยไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้าย LED สี Smoked จัดเรียงเป็นรูปตัวที เสริมให้เห็นถึงความกว้างและความรู้สึกมั่นคงของตัวรถ
– ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 18 นิ้ว ดีไซน์สวยงามที่คำนึงถึงแอโรไดนามิค เสริมด้วยซุ้มล้อที่เลือกใช้วัสดุ และสีที่ตัดกับสีรถ ทำให้ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี มีบุคลิกของรถเอสยูวีอย่างชัดเจน
– รูปลักษณ์ภายใน ออกแบบโดยใช้วัสดุที่ให้ความรู้สึกหรูหรา ประณีตในทุกรายละเอียด คอนเซปต์ตามแนวคิด “Horizontal Axis” มอบทัศนวิสัยที่ดีเยี่ยม ภายในห้องโดยสารสีทูโทน พร้อมการตกแต่งด้วยผ้าแบบพิเศษกันน้ำ และคราบสิ่งสกปรก มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่จะช่วยสร้างสุนทรียภาพให้คุณตลอดการเดินทาง
สมรรถนะ
– ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี มาพร้อมประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับ MITSUBISHI e:MOTION ซึ่งเป็นการผสานสามเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่สุดของมิตซูบิชิ ได้แก่ ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดเจนเนอเรชันใหม่ล่าสุด โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ และระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (AYC)
– ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดเจเนอเรชันใหม่ ทำงานผ่านมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงและแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษสำหรับรถยนต์ไฮบริด โดยใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร DOHC 16 วาล์ว MIVEC เป็นการพัฒนาต่อยอดจากรถยนต์ฟูลไฮบริดรุ่นแรก สู่ระบบที่ได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้มีประสิทธิภาพการส่งกำลังที่ดียิ่งขึ้น มาพร้อมกับระบบส่งกำลัง 2-Speed Transaxle ใหม่ ปรับเปลี่ยนการทำงานของระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติตามการขับขี่และสภาพถนน ให้อัตราเร่งที่ดี และนุ่มนวล อีกทั้งยังเพิ่มกลไกตัดการเชื่อมต่อของมอเตอร์ ช่วยลดการสูญเสียพลังงาน ส่งผลให้รถมีอัตราประหยัดน้ำมันขั้นสูงสุด 24.4 กิโลเมตร/ลิตร1 มีระยะทางการขับขี่ยาวที่สุดในคลาสต่อน้ำมันหนึ่งถัง ทำงานเงียบและมีอัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมทั้งในการขับขี่บนไฮเวย์ และในเส้นทางที่เป็นเนินลาดชัน
– โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ (7-Drive Mode) ไม่ว่าเส้นทางแบบไหนก็ไม่เป็นอุปสรรคด้วยโหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Normal (ถนนทั่วไป) Wet (ถนนเปียก) Gravel (ถนนลูกรัง) Tarmac (ถนนลาดยาง) Mud (ถนนโคลน) และอีก 2 ทางเลือกพลังงานทั้ง Charge (โหมดการชาร์จ) และ EV Priority (โหมดพลังงานไฟฟ้า 100%) โดยผู้ขับขี่สามารถเลือกเปลี่ยนโหมดการขับขี่ด้วยตนเองตามสภาพถนน สภาพภูมิอากาศ หรือรูปแบบการใช้งานที่ต้องการ
– ระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง หรือ AYC (Active Yaw Control) เทคโนโลยีจากรถแข่งแรลลี่คาร์ของมิตซูบิชิ ทำงานโดยคำนวณการส่งกำลังลงที่ล้อซ้าย-ล้อขวา ให้หมุนสัมพันธ์กัน ขณะที่รถเข้าโค้ง เพื่อสร้างสมดุลให้กับตัวรถ ทำให้สามารถขับผ่านทางโค้งได้อย่างแม่นยำ ปลอดภัย และมั่นใจในทุกสถานการณ์
– ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ยังใช้ ช่วงล่าง ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ ให้เหมาะกับทุกสภาพถนนในประเทศไทย ซึ่งผ่านการทดสอบมาแล้วกว่า 100,000 กิโลเมตร
ระบบความปลอดภัย
– เทคโนโลยีความปลอดภัย Diamond Sense จัดเต็มด้วยเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ หรือ ADAS ที่จะตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบตัวรถแบบ 360 องศา ทำงานอย่างแม่นยำผ่านการทำงานของกล้อง เรดาห์ และเซนเซอร์ ไม่ว่าจะเป็น
– กล้องมองภาพรอบคันพร้อมเส้นกะระยะ และระบบตรวจจับการเคลื่อนไหว (MAM with MOD)
– ระบบเตือนเมื่อรถด้านหน้าออกตัวหรือเคลื่อนที่ไปด้านหน้า (LCDN)
– ระบบเตือนจุดอับสายตา และระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน (BSW with LCA)
– ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (FCM)
– ระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติถึงจุดหยุดนิ่ง (ACC)
– ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (AHB)
– ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (RCTA)
– ระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก ระบบเสริมแรงเบรก และถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ถูกติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย
ความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร ยกระดับการเดินทางของคุณ ให้รู้สึกผ่อนคลายในแบบพรีเมียมด้วย
– ห้องโดยสารขนาดใหญ่ที่สุดในรถระดับเดียวกัน พื้นที่เหนือศีรษะ พื้นที่หัวไหล่ และพื้นที่วางขาที่กว้าง ทำให้สามารถเดินทางได้พร้อมกันถึง 5 คน โดยไม่รู้สึกอึดอัด เบาะนั่งตอนหลังสามารถพับปรับแบบ 40:20:40 และปรับเอนได้ถึง 8 ระดับ พร้อมด้วยวัสดุหุ้มเบาะ “Heat Guard” ที่ช่วยสะท้อนความร้อนจากแสงแดด
– ไดนามิค ซาวด์ ยามาฮ่า พรีเมียม (Dynamic Sound Yamaha Premium Sound System) เครื่องเสียงและระบบเสียงคุณภาพ พร้อมลำโพง 8 ตำแหน่ง ซึ่งได้รับการพัฒนาร่วมกับ ยามาฮ่า คอร์เปอเรชั่น ให้เสียงใส คมชัดในทุกมิติ ให้คุณเพลิดเพลินกับเพลงโปรดได้เสมือนฟังดนตรีแบบแยกชิ้น
– ระบบฟอกอากาศ nanoe-X ที่จะช่วยสร้างอากาศบริสุทธิ์ และยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ลดอากาศเหนื่อยล้า สร้างความสดชื่นให้คุณตลอดการเดินทาง
ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร (Ambient Light) บริเวณคอนโซลหน้าและแผงประตูด้านหน้า
ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี มีจำหน่าย 3 รุ่นย่อย ได้แก่
– รุ่น Ignite ราคาเริ่มต้น 899,000 บาท
มีสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีขาวมุก White Diamond สีเงิน Blade Silver และสีเทา Graphite Grey
– รุ่น Ultimate ราคาเริ่มต้น 1,039,000 บาท
มีสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีขาวมุก White Diamond หลังคาดำ สีเงิน Blade Silver สีเทา Graphite Gray และสีดำ Jet Black Mica
– รุ่น Ultimate X ราคาเริ่มต้น 1,089,000 บาท
มีสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีขาวมุก White Diamond หลังคาดำ สีเทา Graphite Gray หลังคาดำ สีเหลือง Energetic Yellow หลังคาดำ สีแดง Spirit Red หลังคาดำ และสีดำ Jet Black Mica
มาพร้อมการรับประกันระบบไฮบริดเป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดนานสูงสุดถึง 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง หมดกังวลกับเรื่องอะไหล่และบริการหลังการขาย เพราะเป็นรถยนต์ที่ผลิตภายในประเทศ จึงสามารถจัดส่งอะไหล่ได้อย่างรวดเร็ว และพร้อมดูแลด้วยช่างเทคนิคที่ได้รับการฝึกอบรมอย่างเชี่ยวชาญกระจายอยู่กับเครือข่ายผู้จำหน่ายของมิตซูบิชิที่แข็งแกร่งทั่วประเทศ
พิเศษสำหรับลูกค้าที่ตัดสินใจเป็นเจ้าของ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี โดยจองภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 และรับรถภายใน 31 กรกฎาคม 2568 จะได้รับสิทธิพิเศษภายใต้แคมเปญ “Early Bird Offers2 เฉพาะช่วงเปิดตัวเท่านั้น” โดยลูกค้าจะได้รับบัตรของขวัญที่พักโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา มูลค่า 10,000 บาท และรับฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง เป็นเวลา 1 ปี พร้อมการรับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดจะถึงก่อน) ฟรีค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดจะถึงก่อน)
พร้อมทั้งข้อเสนอพิเศษที่สามารถเลือกรับอัตราดอกเบี้ยต่ำเพียง 0.99% (เมื่อดาวน์ 25% และผ่อนชำระ 48 เดือน)2 กับสถาบันการเงินที่กำหนด และ สามารถเลือกรับแพ็กเกจบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง 5 ปี และสำหรับลูกค้าครอบครัว มิตซูบิชิ หรือลูกค้าเก่ามิตซูบิชิ รับส่วนลดเพิ่มสูงสุดถึง 30,000 บาท ผ่านแอฟพลิเคชัน M-Drive
ลูกค้าสามารถสัมผัสออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ได้ที่งานโรดโชว์ทั่วประเทศ และ ที่บูธมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (A9) ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1 – 3 เมืองทองธานี พร้อมพบกับรถยนต์รุ่นอื่น ๆ ของมิตซูบิชิ ที่ได้รับรางวัลการันตีคุณภาพมากมาย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ มิตซูบิชิ คอลเซ็นเตอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-079-9500 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของรถยนต์มิตซูบิชิได้ทางเว็บไซต์ www.mitsubishi-motors.co.th และทุกช่องทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค MitsubishiMotorsTH
1 ทดสอบตามมาตรฐาน NEDC อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ระบุในแคตตาล็อกคำนวณตามวิธีที่กำหนด และอาจ แตกต่างจากอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในสภาพการขับขี่จริง
2 สำหรับรุ่น Ultimate และ Ultimate X
Mitsubishi Motors Thailand Enhances the Driving Experience with Mitsubishi e:MOTION by Debuting The ALL-NEW MITSUBISHI XFORCE HEV, Reaffirming Its Leadership in Full Hybrid Vehicles
Mitsubishi Motors (Thailand) Co., Ltd. recently underlined its leadership in HEVs with the debut of the ALL-NEW MITSUBISHI XFORCE HEV to the Thai market for the first time. This latest compact SUV stands out with its bold design, impressive performance, outstanding comfort, and cutting-edge technology. Developed as the next evolution of MITSUBISHI e:MOTION, it integrates three of Mitsubishi Motors’ most advanced technologies, delivering an even more refined and exhilarating driving experience.
Mitsubishi Motors Thailand unveils ALL-NEW MITSUBISHI XFORCE HEV, its latest full hybrid vehicle, led by Mr. Ryoichi Inaba (2nd from right), President and CEO of Mitsubishi Motors (Thailand) Co., Ltd., Mr. Masahiro Ito (2nd from left), Chief Product Specialist of Mitsubishi Motors Corporation, Mr. Naoki Akita (far left),Program Design Director of Mitsubishi Motors Corporation, and Mr. Sarote Maartlert (far right), Executive Vice President of Sales & Aftersales, Mitsubishi Motors (Thailand) Co., Ltd.
To ensure top-tier quality, the ALL-NEW MITSUBISHI XFORCE HEV will be produced at Mitsubishi Motors Thailand’s factory and distributed through an extensive network of over 190 authorized dealers nationwide. First launched in Indonesia in August 2023 with an internal combustion engine (ICE) model, this global strategic model has since expanded to Vietnam, the Philippines, Latin America, Africa, the Middle East, and other regions throughout 2024, solidifying its position as a key product in Mitsubishi Motors’ global lineup.
The ALL-NEW MITSUBISHI XFORCE HEV strengthens Mitsubishi Motors’ hybrid lineup, following the success of the MITSUBISHI XPANDER HEV and MITSUBISHI XPANDER CROSS HEV, which debuted in Thailand in February 2024. This new-generation compact SUV is designed to captivate customers with its latest full hybrid powertrain, developed from Mitsubishi’s renowned plug-in hybrid electric vehicle (PHEV) system. It boasts exceptional fuel efficiency, an environmentally friendly profile, and powerful acceleration. Additionally, 7-Drive Mode with Active Yaw Control (AYC) with All-Wheel Control system, which helps calculate power distribution from the drive system and braking force to each wheel. This allows both the front and rear wheels to work in harmony, maximizing vehicle balance when cornering, ensuring safety and confidence on every road.
“This is the first time the ALL-NEW MITSUBISHI XFORCE HEV has been equipped with our latest full hybrid system, and we take immense pride in manufacturing this model right here in Thailand at our Laem Chabang Factory. Over the past several months, we have conducted extensive testing, covering more than 100,000 kilometers across various terrains in Thailand since last year to evaluate its durability and driving performance. Our testing team gathered valuable feedback, which our R&D engineers used to fine-tune and optimize this model. The final stage included durability tests and a specially tuned suspension system designed to perfectly suit Thailand’s diverse road conditions. At Mitsubishi Motors, quality and driving experience have always been our top priorities, and we never compromise on these standards. We sincerely hope that the ALL-NEW MITSUBISHI XFORCE HEV will excite and impress Thai customers, receiving positive feedback from the market,” said Mr. Ryoichi Inaba, President & CEO of Mitsubishi Motors (Thailand) Co., Ltd.
The key features of the ALL-NEW MITSUBISHI XFORCE HEV can be categorized into four main pillars: Design, Performance, Safety, and Interior Comfort.
Design
– The Exterior is crafted under the ‘Silky and Solid’ design concept—Mitsubishi’s new approach that combines elegance with power. Its sleek and distinctive appearance makes it an icon of the era, featuring LED daytime running lights and smoked LED taillights arranged in a T-shape, enhancing the vehicle’s width and sense of stability.
– The Large 18-Inch Alloy Wheels feature a stunning aerodynamic design, enhancing both style and performance. Complemented by contrasting wheel arches, which use materials and colors that stand out against the body color, these elements emphasize its bold SUV character.
– The Interior is designed with premium materials and meticulous attention to detail, following the “Horizontal Axis” concept for excellent visibility. The 2-Tone Interior Color is accented with special water- and stain-resistant fabric, ensuring durability and cleanliness. Additionally, it comes equipped with various convenience features, creating a comfortable and enjoyable throughout the journey.
Performance
– The ALL-NEW MITSUBISHI XFORCE HEV comes with an ultimate driving experience known as MITSUBISHI e:MOTION, which integrates three of Mitsubishi’s most advanced technologies: the latest full-hybrid drive system, 7 Drive Mode, and the Active Yaw Control (AYC) system.
– The New Generation Full Hybrid System operates through a high-power electric motor and a high-efficiency battery, specially designed for hybrid vehicles. It is paired with a 1.6-liter DOHC 16-valve MIVEC gasoline engine, evolving from the first-generation full hybrid system into an improved version that delivers enhanced power efficiency. The system features a new 2-Speed Transaxle, which automatically adjusts the drivetrain operation based on driving conditions and road surfaces, ensuring smooth acceleration and seamless performance. Additionally, it includes a motor disconnection mechanism, which helps reduce energy loss, contributing to an exceptional fuel efficiency of 24.4 kilometers per liter1. This allows for the longest driving range in its class per full tank. The system ensures quiet operation and outstanding acceleration, whether on highways or steep inclines.
– With 7-Drive Mode, no road condition is a challenge. The available modes include Normal (for regular roads), Wet (for slippery surfaces), Gravel (for unpaved roads), Tarmac (for paved roads), and Mud (for muddy terrains). Additionally, two energy management options are available: Charge Mode (for battery charging) and EV Priority Mode (for 100% electric driving). The driver can switch between these modes manually, depending on road conditions, weather, or driving preferences.
– Active Yaw Control (AYC) derived from Mitsubishi’s rally car technology, the Active Yaw Control (AYC) system optimizes power distribution between the left and right wheels when cornering. This ensures enhanced stability, allowing the vehicle to navigate turns with precision, safety, and confidence in all driving situations.
– The ALL-NEW MITSUBISHI XFORCE HEV features a specially tuned Suspension System designed to adapt to all road conditions in Thailand. Having undergone extensive testing over 100,000 kilometers.
Safety
– Equipped with Advanced Driver Assistance Systems (ADAS), Diamond Sense provides comprehensive safety by monitoring the vehicle’s surroundings with 360-degree precision. Utilizing cameras, radar, and sensors, the system enhances driving confidence with features such as:
= Multi Around View Monitor with Moving Object Detection (MAM with MOD)
= Leading Car Departure Notification (LCDN)
= Blind Spot Warning with Lane Change Assist (BSW with LCA)
= Forward Collision Mitigation System (FCM)
= Adaptive Cruise Control (ACC)
= Auto High Beam (AHB)
= Rear Cross Traffic Alert (RCTA)
Additionally, Anti-Locking Brake System (ABS), Electronic Brakeforce Distribution (EBD), Brake Assist (BA), and Six SRS Airbags come as standard equipment in all variants.
Interior Comfort
Elevate your journey with premium relaxation with:
– Most Spacious Cabin in Its Class –the exceptionally roomy interior offers generous headroom, shoulder room, and legroom, ensuring a comfortable ride for up to five passengers without feeling cramped. The rear seats feature a 40:20:40 split-folding design and can recline in eight levels for personalized comfort. Additionally, the seats are upholstered with Heat Guard material, which helps reflect heat from sunlight to keep the cabin cooler.
– Dynamic Sound Yamaha Premium Sound System – a high-quality audio system features
8 speakers, developed in collaboration with Yamaha Corporation, delivering crystal-clear, high-definition sound in every dimension. This allows you to enjoy your favorite music with an instrument-separated listening experience.
– nanoe™ X – Creates clean and fresh air by inhibiting bacteria and reducing air fatigue, ensuring a refreshing atmosphere throughout your journey.
– Ambient Lighting – Enhances the cabin ambiance with illumination on the front console and door panels.
The ALL-NEW MITSUBISHI XFORCE HEV is available in three variants:
– Ignite – Starting from 899,000 THB
Available in three exterior colors: White Diamond, Blade Silver, and Graphite Grey
– Ultimate – Starting from 1,039,000 THB
Available in four exterior colors: White Diamond (Black Roof), Blade Silver,
Graphite Grey, and Jet Black Mica
– Ultimate X – Starting from 1,089,000 THB
Available in five exterior colors: White Diamond (Black Roof), Graphite Grey (Black Roof), Energetic Yellow (Black Roof), Spirit Red (Black Roof), and Jet Black Mica
Comes with a 5-year unlimited mileage hybrid system warranty and a 10-year unlimited mileage hybrid battery warranty. Enjoy peace of mind with reliable after-sales service and readily available spare parts, as the vehicle is locally manufactured for fast and efficient part distribution. Additionally, Mitsubishi’s nationwide network of trained technicians ensures expert care and support at authorized dealerships across the country.
Exclusive for customers who decide to own the ALL-NEW MITSUBISHI XFORCE HEV by making a reservation by May 31, 2025, and receiving the vehicle by July 31, 2025, will receive special privileges under the “Early Bird Offers” campaign2, specifically available during the launch period. Customers will receive a Centara Hotels & Resorts gift voucher worth 10,000 THB and will also receive 1-year free first-class insurance, along with a 5-year or 100,000 km vehicle warranty (whichever comes first), 5-year or 100,000 km free maintenance labor cost (whichever comes first).
Moreover, additional special offer with a low interest rate of only 0.99% (with a 25% down payment and a 48-month installment plan)2 through designated financial institutions as the option to choose, and another option to select with a 5-year or 100,000 km maintenance package, which includes 24-hour emergency assistance for 5 years. Additionally, Mitsubishi family customers or existing Mitsubishi customers will receive an additional discount of up to 30,000 THB through the M-Drive application.
Customers can experience the ALL-NEW MITSUBISHI XFORCE HEV at roadshow events nationwide and at the Mitsubishi Motors booth (A9) at the 46th Bangkok International Motor Show at IMPACT Challenger Halls 1-3, Muang Thong Thani, where they can also explore other Mitsubishi vehicles that have received numerous quality awards.
For more information, please contact the Mitsubishi Call Center at 02-079-9500, available 24 hours a day, 7 days a week. Stay updated on Mitsubishi vehicles through our website at www.mitsubishi-motors.co.th and across all social media channels at MitsubishiMotorsTH.
1 NEDC test procedure. Catalog fuel economy is calculated using specified methodology and may differ from real-world fuel economy.
2 For Ultimate and Ultimate X
