31.4 C
Bangkok
Thursday, December 26, 2024
musubishi900x192px_2024
Honda_900x192px 2024
มอเตอร์ไซค์​ honda
AD Banner_900x180
FORD900x192px_1
Mitsubishi_900x192px_2
previous arrow
next arrow

Art Investment Center ศูนย์กลางการลงทุนด้านศิลปะและของสะสมล้ำค่าครบวงจรแพลตฟอร์มแรกในโลก

Art Investment Center ศูนย์กลางการลงทุนด้านศิลปะและของสะสมล้ำค่าครบวงจร ผนึกพันธมิตรทั้งภาครัฐ และเอกชนระดีบแนวหน้าของเมืองไทย เปิดตัวแพลตฟอร์มแรกในโลก ที่ยกระดับ Passion Investment อย่างยั่งยืนให้แก่นักลงทุนด้านศิลปะและของสะสมล้ำค่า

ดร.ดอยธิเบศร์ ดัชนี CEO & Founder Art Investment Center แท็กทีมสุดยอดพันธมิตรทั้งภาครัฐ และเอกชนระดับแนวหน้าของประเทศ อาทิ กระทรวงวัฒนธรรม, กรมส่งเสริมวัฒนธรรม, กรมทรัพย์สินทางปัญญา, สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย, มูลนิธิรามาธิบดีฯ, บริษัท สยามพิวรรธน์, สยามพารากอน, ธนาคาร ไทยพาณิชย์, โทเคน เอกซ์, พิพิธภัณฑ์บ้านดำ, บริษัท เจดับเบิลยูดีอาร์ท สเปซ, บริษัท ลาร์ติซอง, บริษัท ฟูลล์โดม โปร, บริษัท สโคป, เอสซี แอส เสท คอร์ปอเรชั่น, บางกอก อาร์ต อ๊อกชั่น, บริษัท อาร์ต แท๊งค์ มีเดีย, พิพิธภัณฑ์ดาบญี่ปุ่นแห่ง ประเทศไทย, บริษัท ทีเจการาจ และ บริษัท ฮอคโค เปิดตัว Art Investment Center (AIC) สุดยอดแพลตฟอร์มอัจฉริยะแบบไร้ขีดจำกัด ระดับ The Ultimate Luxury Platforms ศูนย์กลางการลงทุนด้านศิลปะ และของสะสมล้ำค่าแบบครบวงจร หวังผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้กลายเป็นรายได้หลักของประเทศในอนาคต และเป็นเป้าหมายของนักลงทุนจากทั่วโลก ในฐานะแพลตฟอร์มแรกของโลก ที่กล้าการันตีว่าผลงานศิลปะและของสะสมทุกชิ้นที่อยู่บนแพลตฟอร์ม เป็นของแท้ 100%      

เป้าหมายของการเปิดตัว Art Investment Center (AIC) เปิดเผยโดย ดร.ดอยธิเบศร์ ดัชนี CEO & Founder Art Investment Center ว่า ต้องการแก้ทุก Painpoint และสารพัดปัญหาที่ไม่เคยมีทางออก เช่น สนใจสะสมงานศิลปะ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร, จะซื้อจากที่ไหน ถึงอุ่นใจว่าได้ของแท้ หรือซื้อไปแล้วจะมีอนาคตหรือไม่ หรือบางคนได้รับของสะสมที่มีมูลค่าเป็นมรดกตกทอด ก็ไม่รู้ว่าจะบริหารจัดการอย่างไร “มาร่วมกันเปลี่ยนโลกใบเก่า ด้วยการสร้างระบบนิเวศใหม่” เพื่อเป็น “ต้นแบบนวัตกรรมสร้างสรรค์เพื่อสังคมอย่างยั่งยืน” ผ่าน 6 บริการหลัก ได้แก่ 1.ซื้อ 2.ขาย  3.แลกเปลี่ยน 4.ให้เช่า 5.บริจาค และ 6.สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset)

“ที่ผ่านมา หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับการซื้องานศิลปะหรือของสะสมผ่านช่องทางออฟไลน์ แต่แพลตฟอร์มนี้จะเชื่อมโลกออฟไลน์และออนไลน์เข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบ พร้อมเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ซื้อ ด้วยการผนึกกำลังกับผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา รวมทั้งสถาบันจากภาครัฐและเอกชนในการรับรองว่า ผลงานศิลปะรวมทั้งของสะสมเป็นของแท้ 100% ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นแพลตฟอร์มแรกของโลกที่กล้าการันตีแบบนี้

ในส่วนของการขาย ทุกผลงานที่เข้ามาอยู่ในแพลตฟอร์ม AIC ตั้งใจให้เป็นเหมือนศูนย์กลางในการรวมตัวของนักสะสมและนักลงทุนจากทั่วทุกมุมโลก จะถูกหักรายได้ 35% โดย 5% จะนำไปบริจาค 10% นำไปแบ่งให้พันธมิตรทั้งองคาพยพ ส่วนอีก 20% จะถูกใช้เป็นค่าบริหารจัดการแพลตฟอร์ม ในส่วนของการบริจาค AIC คิกออฟด้วยการจับมือกับมูลนิธิรามาธิบดีฯ เป็นแพลตฟอร์มกลางสำหรับให้ผู้ที่ประสงค์จะบริจาคผลงานศิลปะหรือของสะสม โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย หรือ สำหรับใครที่อยากนำผลงานศิลปะหรือของสะสมที่มีมาปล่อยเช่าหรือแลกเปลี่ยนผ่านแพลตฟอร์มก็สามารถทำได้เช่นกัน ในส่วนของ Digital Asset หรือ การลงทุนรูปแบบใหม่ในทรัพย์สินดิจิทัล ในอนาคต AIC มีแผนจะร่วมมือกับธนาคารไทยพาณิชย์ และ โทเคน เอกซ์ เพื่อต่อยอดนวัตกรรมการลงทุนด้านศิลปะให้ก้าวไปอีกขั้น”

ดร.ดอยธิเบศร์ ยังกล่าวด้วยว่า หลังจากเปิดตัวแพลตฟอร์มอย่างเป็นทางการ ในช่วงแรก จะยังเปิดให้เฉพาะผู้ที่ได้รับเชิญเข้ามาใช้งานเท่านั้น เพราะต้องการคัดกรองผู้ที่เข้ามาอยู่ในแพลตฟอร์ม โดยผลงานที่จะมาอยู่บนแพลตฟอร์มนั้น คัดเฉพาะชิ้นคุณภาพที่ดีที่สุดเท่านั้น

“เราไม่ต้องการให้ AIC เป็นตลาดนัดศิลปะ เพราะจะทำให้ผู้ใช้บริการขาดความเชื่อมั่น เราต้องการสร้างมิติใหม่ให้วงการ เพราะแม้ผมเองจะเปลี่ยนโลกใบเก่าไม่ได้ แต่เราสามารถสร้างระบบนิเวศใหม่ในโลกใบเก่าได้ ด้วยการร่วมกับพันธมิตรจากทุกภาคส่วน ในการยกระดับโลกการลงทุนด้านศิลปะและของสะสม พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้เหล่านักสะสมและนักลงทุนจากทั่วโลก ให้เข้ามาชื่นชมและเห็นคุณค่าของผลงานคนไทย”

ทั้งนี้ ดร.ดอยธิเบศร์ ยกตัวอย่าง การเข้ามายกระดับมายกระดับโลกการลงทุนว่า ในอดีต ศิลปินอยู่ในโลกออฟไลน์ ใช้วิธีหาสถานที่จัดงาน เพื่อแสดงผลงานและขาย แต่พอมีแพลตฟอร์มที่เป็นทางการแบบ AIC จะช่วยเชื่อมโลกออฟไลน์และออนไลน์เข้าด้วยกัน โดยหลังจากงานนิทรรศการจบ ยังไปเจอกันบนโลกออนไลน์ได้ต่อ หรืออาจนำไปสู่การเชื่อมต่อกับเครือข่าย

“ยกตัวอย่างว่าถ้ามีนักลงทุนสนใจลงทุนในงานศิลปะ แต่ไม่รู้จักศิลปินเลย ด้วยเครือข่ายที่เรามี จะเข้ามาเชื่อมต่อ   นักลงทุนกับศิลปิน ถ้านักลงทุนซื้อภาพตอนนี้ ภาพละ 1 แสน แล้วอีก 3 เดือนศิลปินจัดแสดงงานแล้วขายที่ 1.5 แสน เท่ากับว่า ถ้าลงทุนวันนี้ อีก 3 เดือน กำไรรูปละ 5 แสนบาท อย่างไรก็ตาม การลงทุนมีความเสี่ยง ถ้าสมมติรูปที่ซื้อมาขายไม่หมด ก็ต้องรับความเสี่ยงไป แต่อย่างน้อย หากลงทุน 1 ล้านบาทซื้อมา 10 รูป ขายได้ 7 รูป อีก 3 รูป ก็ยังสามารถใช้แพลตฟอร์ม AIC เอาไปแลกเปลี่ยนหรือเช่าได้ หรือ อย่างโรงแรม ร้านอาหาร คาเฟ่ ที่มองหาผลงานศิลปะไปตกแต่ง เราอาจจะพัฒนาไปสู่การทำ Live Gallery นำผลงานศิลปะของเครือข่ายศิลปินที่เรามีมาให้เลือก ได้ผลงานที่ถูกใจเอาไปจัดแสดง ถ้าผลงานชิ้นนั้นขายได้ เราหัก 10% ให้เจ้าของโรงแรม หรือร้านอาหาร วิน-วิน กันทุกฝ่าย หรือ ในอนาคต สำหรับผลงานศิลปะที่ราคาสูงมากๆ เป็นเจ้าของคนเดียวไม่ไหว อาจจะต่อยอดไปสู่ในรูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัล ที่เป็นเจ้าของร่วมกัน พอขายได้ ก็นำกำไรมาแบ่งกัน เป็นต้น”

เสริมคุณ คุณาวงศ์ ผู้ก่อตั้งและประธาน บริษัท อาร์ต แท็งก์ กรุ๊ป จำกัด มองว่า แพลตฟอร์ม AIC เป็นอีกหนึ่งกำลังในการเข้ามาช่วยส่งเสริมระบบนิเวศของตลาดศิลปะเมืองไทยให้เข้มแข็งขึ้น ในฐานะตลาดกลางที่เชื่อมต่อผู้ซื้อกับผู้ขายให้มาเจอกัน ที่สำคัญ ไม่จำกัดแค่ตลาดในประเทศ แต่ยังเชื่อมโยงนักลงทุนจากต่างประเทศให้เข้ามาเป็นเจ้าของผลงานของคนไทย โดยมีการสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ซื้อด้วยการรับรอง จากที่ผ่านมา การซื้อขายผ่านโลกออนไลน์ อาจจะไม่มีองค์กรหรือระบบที่ชัดเจน เป็นการซื้อขายผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย

“ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จะเห็นว่าดีมานด์ของนักสะสมเพิ่มขึ้นทุกปี ปัจจัยหลักมาจาก ระบบแกลอรี่ที่เข้มแข็งขึ้น มีการจัดนิทรรศการและส่งเสริมศิลปินให้มีการพัฒนาผลงาน ออกคอลลเลกชันที่ทรงพลังมากขึ้น ทำให้วงการศิลปะและของสะสมขยายวงกว้างมากขึ้น ถัดมาคือ อานิสงค์จากการขยายตัวของกลุ่ม ART TOY ที่ไม่ได้จำกัดแค่ในหมู่สะสม แต่ขยายฐานนักสะสมให้กว้างขึ้น สุดท้ายคือความนิยมในการลงทุนงานศิลปะและของสะสมที่เพิ่มขึ้น นอกจากการลงทุนในหุ้น อสังหาฯ

การลงทุนในแพชชันหรือสิ่งที่ชอบ (Passion Investment) อย่างไวน์ งานศิลปะ และของสะสม กลายเป็นตลาดใหญ่ ที่มีมูลค่าเป็นหมื่นล้าน โดยสัดส่วนของการลงทุนในกลุ่มนี้ที่มากที่สุด คือ ผลงานศิลปะ เพราะกลุ่มคนที่มีความมั่งคั่ง มักจะลงทุนใน Passion Investment 10 – 15% แม้ว่าปัจจุบัน การลงทุนในกลุ่มนี้ของคนไทยอาจจะยังไม่มาก แต่เชื่อว่าทิศทางในอนาคตจะดีขึ้น โดยมีแพลตฟอร์ม AIC เป็นอีกหนึ่งกำลังในการผลักดัน”

ในโอกาสเดียวกันนี้ พิพิธภัณฑ์บ้านดำ ยังฉลองครบรอบ 12 ปี ร่วมกับ สยามพิวรรธน์ จัดนิทรรศการ “The Eternal Treasure of Asia” “สมบัติชั่วนิรันดร์แห่งเอเชีย” เปิดกรุสมบัติหมื่นล้านจากพิพิธภัณฑ์ และนักสะสมชั้นนำระดับโลก โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มได้แก่ ศิลปะสร้างโลก ความรักปรากฏรูป ผลงานศิลปะระดับตำนาน ที่รวบรวมสุดยอดของผลงานศิลปะของศิลปินแห่งชาติ ดร.ถวัลย์ ดัชนี ที่ไม่เคยนำมาจัดแสดงที่ไหนมาก่อน ศรัทธา ประติมา ปาฏิหาริย์ พลังแห่งวัตถุมงคล ล้ำค่า มรดกทางภูมิปัญญาของสยามประเทศ เทพศาสตราวุธ ศาสตร์และศิลป์แห่งจิตวิญญาณ จัดแสดงดาบสำคัญในประวัติศาสตร์และเรื่องราวของวิถีแห่ง Bushido และ ประติมากรรมยานยนต์เหนือกาลเวลา พร้อมเปิดโอกาสให้นักเสพย์งานศิลป์ รวมถึงนักลงทุน นักสะสม ได้ชื่นชมอย่างใกล้ชิดเฉพาะในงานนี้เท่านั้น! ณ Fashion Gallery ชั้น 1 สยามพารากอน ตั้งแต่วันนี้ถึง 1 กันยายนนี้ เท่านั้น!!

Open a new dimension in the world of investment with Art Investment Center A one-stop center for investment in art and valuable collectibles The world’s first platform that elevates Passion Investment sustainably

               Dr. Doi Thibet Duchanee, CEO & Founder of ART INVESTMENT CENTER , teams up with top partners from both the public and private sectors of the country, such as the Ministry of Culture , Department of Cultural Promotion , Department of Intellectual Property , Office of Contemporary Art and Culture , Ramathibodi Foundation , Siam Piwat , Siam Paragon , Siam Commercial Bank , Token X , Baandam Museum , JWD Art Space , Lartison , Fulldome Pro, Scope, SC Asset Corporation , Bangkok Art Auction , Art Tank Media , Japanese Sword Museum of Thailand , TJ Garage , and Hocko to launch ART INVESTMENT CENTER (AIC), the ultimate intelligent platform with no limits, The Ultimate Luxury Platforms , a one-stop center for investment in art and valuable collectibles, aiming to drive the creative economy to become the country’s main income in the future and a target for investors from around the world as the world’s first platform. We guarantee that every piece of art and collectibles on the platform is 100 % authentic.

The goal of the launch of ART INVESTMENT CENTER (AIC) revealed by Dr. Doi Thibet Duchanee, CEO & Founder of ART INVESTMENT CENTER , is to solve every painpoint and a myriad of problems for which there has never been a solution, such as being interested in collecting art but not knowing how to start , where to buy it to have peace of mind that you are getting the real thing, or whether there will be a future after purchasing it, or some people who have received valuable collectibles as heirlooms and do not know how to manage them . “Let’s join together to change the old world by creating a system.

New Ecosystem” to be a “model for creative innovation for a sustainable society” through 6 main services: 1. Buy 2. Sell 3. Exchange 4. Rent 5. Donate and 6. Digital Assets .

“In the past, many people may have been accustomed to buying art or collectibles through offline channels. However, this platform will systematically connect the offline and online worlds, and increase buyers’ confidence by joining forces with experts in each field, as well as government and private institutions, to certify that the artworks and collectibles are 100 % authentic. This is the first platform in the world to dare to guarantee this.

In terms of sales, every work that enters the AIC platform , which is intended to be a central gathering place for collectors and investors from all over the world, will have 35 % of the revenue deducted, with 5 % being donated, 10 % being shared among all partners, and the remaining 20 % being used as platform management fees. In terms of donations, AIC kicks off by joining hands with the Ramathibodi Foundation to be a central platform for those who wish to donate artwork or collectibles free of charge.

Or for those who want to rent or exchange their artworks or collectibles through the platform, they can do so as well. In terms of Digital Asset or new forms of investment in digital assets, in the future, AIC plans to collaborate with Siam Commercial Bank and Token X to further develop innovations in art investment to the next level.”

Dr. Doitibet also said that after the official launch of the platform, in the beginning, it will only be open to invited users because we want to screen those who enter the platform. Only the best quality works will be selected on the platform. “We don’t want AIC to be an art market because it will make users lose confidence. We want to create a new dimension for the industry because even though I myself cannot change the old world, we can create a new ecosystem in the old world by working with partners from all sectors to elevate the world of art and collectible investment and build confidence for collectors and investors from around the world to come and appreciate and see the value of Thai works.”

Dr. Doitibet gave an example of upgrading the investment world, saying that in the past, artists were in the offline world, using the method of finding a venue to hold events to display and sell their work. But when there is a formal platform like AIC , it will help connect the offline and online worlds. After the exhibition is over, they can still meet online or may lead to connections to networks.

“For example, if there is an investor interested in investing in art but does not know any artists, with our network, we will connect investors with artists. If investors buy a picture now for 100,000 baht, and 3 months later the artist exhibits and sells it for 150,000 baht, that means if you invest today, in 3 months you will make a profit of 500,000 baht per picture. However, there is a risk involved in investing. If you assume that the pictures you buy are not sold, you have to accept the risk. But at least if you invest 1 million baht and buy 10 pictures, and sell 7 of them , you can still use the AIC platform to exchange or rent the other 3 pictures . Or, for hotels, restaurants, and cafes that are looking for artwork to decorate their homes, we may develop it into a Live Gallery , bringing artwork from our network of artists to choose from. If you like the artwork, you can exhibit it. If the artwork sells, we will deduct 10 % for the hotel or restaurant owner. It is a win-win situation for all parties. Or in the future, for artwork that is very expensive and cannot be owned by one person, we may develop it into a form of digital assets that are jointly owned. When it is sold, the profits can be shared, etc.”

Mr. Sermkhun Kunawong, founder and chairman of Art Tank Group Co., Ltd., sees the AIC platform as another force in helping to strengthen the ecosystem of the Thai art market as a central market that connects buyers and sellers. Importantly, it is not limited to the domestic market, but also connects foreign investors to own Thai works by building confidence in buyers through certification. In the past, online trading may not have had a clear organization or system, and it was trading via social media channels.

“In the past 5 years, we have seen that the demand from collectors has increased every year. The main factor is the strengthened gallery system, which organizes exhibitions and promotes artists to develop their works and produce more powerful collections, which has led to the expansion of the art and collectibles industry. Next is the benefit from the expansion of the ART TOY group, which is not limited to collectors but has expanded the collector base. Finally, the popularity of investing in art and collectibles has increased, in addition to investing in stocks and real estate.

Passion Investment such as wine, art and collectibles has become a large market worth tens of billions. The largest proportion of investment in this group is art because the wealthy tend to invest 10-15 % in Passion Investment. Although currently, Thai people may not invest much in this group, I believe that the future direction will be better, with the AIC platform as another driving force.

On the same occasion, Baandam Museum also celebrates its 12th anniversary in collaboration with Siam Piwat by organizing the exhibition “ The Eternal Treasure of Asia”, opening up the treasure trove worth billions from museums and world-class collectors , divided into 4 groups: Art creates the world, Love appears in form, legendary works of art, which collects the best works of art by National Artist Dr. Thawan Duchanee that have never been exhibited anywhere before ; Faith, Sculpture, Miracles, the power of sacred objects, priceless, the intellectual heritage of Siam ; Divine Weapons, Science and Art of the Spirit, exhibiting important swords in history and stories of the Bushido way; and timeless automotive sculptures , giving art lovers, investors, and collectors the opportunity to admire them up close, only at this event ! At the Fashion Gallery, 1st floor, Siam Paragon, from today until 1st September only!!

Related Articles

Stay Connected

269FansLike
2,760SubscribersSubscribe
- Advertisement -spot_img

Latest Articles