A5 ย้ำผู้ถือหุ้นรายใหญ่ขายหุ้นไม่ส่งผลกระทบต่อการบริหารงานในบริษัทฯ และไม่มีความเกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นเดิมของ บมจ.อาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น (ADAM) พร้อมมุ่งมั่นบริหารงานเพื่อนำบริษัทฯ ก้าวเป็นผู้นำอสังหาริมทรัพย์ในตลาดนิชมาร์เก็ต วางแผนเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ 3 โครงการ ตั้งเป้ารับรู้รายได้รวม 1,000 ล้านบาท เติบโตเกือบ 30%
นายศุภโชค ปัญจทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ A5 เปิดเผยว่า จากกรณีที่ผู้ถือหุ้นใหญ่รายหนึ่งของบริษัทฯ ได้ทำรายการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 หลังจากที่หุ้น A5 เริ่มทำการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ วันแรก ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ เนื่องจากผู้ถือหุ้นใหญ่รายดังกล่าวไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารงาน และเมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทฯ เนื่องจากติดภารกิจและป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างบริษัทฯ และบริษัทอื่นที่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ดังกล่าวเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นอยู่ โดยไม่ได้มีความขัดแย้งเกิดขึ้นแต่อย่างใด
ปัจจุบัน A5 และคณะผู้บริหารไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นเดิม ADAM โดยดำเนินการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยทำ Reverse Takeover (RTO) และปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ มีความมุ่งมั่นบริหารงานเพื่อนำ A5 ก้าวเป็นผู้นำในตลาดอสังหาริมทรัพย์นิชมาร์เก็ตและสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง
บริษัทฯ วางแผนพัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 วางแผนเปิดตัวบ้านจัดสรร 3 โครงการในพื้นที่กรุงเทพฯ และอุดรธานี รวมมูลค่าโครงการกว่า 3,200 ล้านบาท และปี 2566 จะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการต้นสน วัน เรสซิเดนซ์ คอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ในย่านเพลินจิต/หลังสวน ซึ่งปัจจุบันมียอดขายกว่า 90% จากมูลค่าโครงการกว่า 3,000 ล้านบาท และจะทำให้บริษัทฯ มีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการใหม่เพิ่มขึ้นในอนาคต
“เรามีความตั้งใจให้ A5 เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาฯ ที่มีพื้นฐานที่ดี มีผลประกอบการที่มั่นคง โดยในปี 2565 บริษัทฯ วางเป้าหมายรับรู้รายได้รวม 1,000 ล้านบาท เติบโตเกือบ 30% ซึ่งจะมาจากโครงการที่อยู่ระหว่างการขายในปัจจุบัน เช่น โครงการ วนา เรสซิเดนซ์ พระราม 9 – ศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่, โครงการบ้านรชยา บ้านช้าง 2 อุดรธานี เป็นต้น และโครงการใหม่ที่จะทยอยเปิดตัวในปีนี้ ส่วนในระยะยาวได้วางเป้าหมายในปี 2569 จะมีรายได้รวมแตะ 5,000 ล้านบาท จึงขอให้เชื่อมั่นว่า A5 จะเป็นทั้งหุ้นเติบโตและหุ้นปันผลที่ดีในตลาด ได้อย่างแน่นอน” นายศุภโชค กล่าว
