ชนันธร ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ป มองอนาคตทำเลพระราม 2 ยกเป็นทำเลน่าอยู่ที่สุดย่านฝั่งธน จับตาปีหน้าราคาประเมินที่ดินและอสังหาฯ รอบใหม่พุ่ง รับอานิสงส์โปรเจกต์ภาครัฐหนุน ประกาศแผนลงทุน เดินหน้าลุยโครงการแนวราบ ปักหมุน 3 ทำเล ได้แก่ แยกกาญจนาฯ-พระราม 2, กัลปพฤกษ์ และบางบอน-เอกชัย 139
นางสาวศรินญา เรืองปัญญาวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชนันธร ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ป จำกัด บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เปิดเผยว่า ประเมินตลาดอสังหาริมทรัพย์ย่านถนนกาญจนาภิเษก-พระราม 2 นับเป็นทำเลที่น่าอยู่ที่สุดของฝั่งธนบุรี และมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก เพราะเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ช่วยส่งเสริมคุณภาพความเป็นอยู่ที่ดีได้อย่างครบครัน เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยในระยะยาว ขณะที่แนวโน้มราคาที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ยังปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุก ๆ ปี โดยเฉพาะราคาที่ดินในช่วงต้น ๆ ของถนนพระราม 2 ปรับตัวอย่างรวดเร็ว มีราคาแพงมากจนไม่สามารถพัฒนาโครงการแนวราบได้แล้ว
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าในปี 2566 ย่านถนนกาญจนาภิเษก-พระราม 2 จะเป็นพื้นที่อันดับต้น ๆ ที่จะได้รับประโยชน์จากการประกาศปรับขึ้นราคาประเมินรอบใหม่ ซึ่งล่าสุด อธิบดีกรมธนารักษ์ ออกมายืนยันว่าจะมีการประกาศใช้บัญชีราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้างรอบใหม่ของปี 2566-2569 ในวันที่ 1 ม.ค. 66 นี้ โดยในภาพรวมจะมีการปรับขึ้นราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเฉลี่ยสูงถึง 7-8% เนื่องจากศักยภาพของทำเลพระราม 2 ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง สามารถเชื่อมต่อโครงข่ายถนนและทางพิเศษได้หลายสาย เดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวกสบาย โดยใช้เวลาเดินทางเพียง 20 นาที ไปถึงสาทร
ทำเลพระราม 2 ยังมีปัจจัยส่งเสริมจากแผนการลงทุนในอนาคตของรัฐบาลมากมาย ได้แก่ การลงทุนขยายถนนและทางด่วนส่วนต่อขยาย ทางด่วนพิเศษพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก และมอเตอร์เวย์บางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ซึ่งทั้งสองโครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้างและคาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2567 นอกจากนี้ ยังมีการขยายช่องจราจรของกรมทางหลวงให้เป็น 14 ช่องจราจร และการก่อสร้างทางยกระดับมหาชัยเมืองใหม่ รวมถึงการก่อสร้างสะพานแขวนข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วงต้นของถนนพระราม 2 เป็นต้น
“ทำเลพระราม 2 ถือเป็นทำเลที่หลายคนคุ้นเคย และเห็นการเติบโตที่ชัดเจน เพราะตลอดเวลาหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา ย่านพระราม 2 เป็นหนึ่งในพื้นที่การลงทุนของภาครัฐ โดยเฉพาะด้านคมนาคมที่ปัจจุบันมีการก่อสร้างในหลาย ๆ โครงการ และยังมีโครงการในอนาคตการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ที่อยู่ในขั้นตอนการลงพื้นที่สำรวจตามแนวสายทาง และคาดว่าจะเปิดใช้บริการได้ในปี 2570 เป็นต้น การลงทุนของภาครัฐจะยิ่งทำให้พระราม 2 เป็นหนึ่งในทำเลแห่งการเดินทางที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ส่งผลต่อศักยภาพทำเลย่านพระราม 2 อย่างมาก”
นางสาวศรินญา กล่าว่า ในปี 2566 บริษัทฯ มุ่งพัฒนาศักยภาพการพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างเข้มข้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้า โดยวางแผนจะพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยให้ครอบคลุมในทุกกลุ่มเซกเมนต์ตั้งแต่ระดับราคาเริ่ม 4.9 – 29 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนเป็นบ้านเดี่ยว 40% บ้านแฝด 40% และทาวน์โฮม 20% ทั้งนี้ มีที่ดินที่รอการพัฒนาโครงการใหม่ใน 3 ทำเล ได้แก่ โซนแยกกาญจนาฯ-พระราม 2, โซนกัลปพฤกษ์, โซนบางบอน-เอกชัย 139
ปัจจุบันทำเลพระราม 2 ยังเป็นทำเลของโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบที่ได้รับความนิยมจากผู้ซื้อหาที่อยู่อาศัยมาอย่างยาวนาน เพราะเป็นทำเลที่สามารถเข้าสู่พื้นที่ย่านเศรษฐกิจใจกลางเมืองได้สะดวกรวดเร็ว และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เมื่อเทียบกับทำเลชานเมืองทางโซนอื่น ๆ ของกรุงเทพฯ
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีโครงการที่อยู่อาศัยในทำเลพระราม 2 กว่า 3 โครงการ ประกอบด้วย MOTTO กาญจนา – พระราม 2 บ้านแฝดสไตล์โมเดิร์น ทำเลติดแยกถนนกาญจนาฯ – พระราม 2 มูลค่า 1,600 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม PE:LA วุฒากาศ ห่างจากรถไฟฟ้า BTS วุฒากาศ เพียง 100 เมตร มูลค่า 475 ล้านบาท ส่วนอีกโครงการ BE-MOTTO กาญจนา – พระราม 2 บ้านเดี่ยวหรู ทำเลติดแยกถนนกาญจนาฯ – พระราม 2 มูลค่าโครงการ 900 ล้านบาท ปัจจุบันเหลือเพียง 2 หลังสุดท้ายเท่านั้น และเตรียมปิดโครงการภายในไตรมาสที่ 4 ปีนี้