ตท. เผยการวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดน้ำมันประจำสัปดาห์วันที่ 5 – 9 พ.ค. 68 และแนวโน้มสัปดาห์วันที่ 12 – 16 พ.ค. 68 โดยตลาดน้ำมันสำเร็จรูปเบรนท์ (ICE Brent) ราคา 62.05 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับราคาลดลง -0.87 เหรียญสหรัฐฯ ตลาดน้ำมันสำเร็จรูปของ เวสท์เท็กซัสฯ (NYMEX WTI) ราคา 59.04 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับราคาลดลง -0.60 เหรียญสหรัฐฯ ตลาดน้ำมันสำเร็จรูปดูไบ (Dubai) ราคา 62.18 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับราคาลดลงเล็กน้อย -1.83 เหรียญ สหรัฐฯ ขณะที่ราคาน้ำมันสำเร็จรูปซื้อซื้อขายล่วงหน้าที่สิงคโปร์ ราคาเบนซินออกเทน 95 ปรับราคาลดลง -1.02 เหรียญ สหรัฐฯ มาเป็นราคา 75.24 เหรียญ สหรัฐฯ ราคาน้ำมันดีเซลราคาปรับราคาลดลง -2.52 เหรียญ สหรัฐฯ มาเป็นราคา 77.77 เหรียญสหรัฐฯ

– รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ JD Vance เผยว่าการเจรจานิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่านที่ผ่านมาเป็นไปด้วยดี ทำให้ Citi Research ปรับลดคาดการณ์ราคา ICE Brent เฉลี่ยระยะสั้น (0–3 เดือน) อยู่ที่ 55 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล (จากเดิมที่ 60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล) จากความเป็นไปได้ที่ทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลง ซึ่งอาจนำไปสู่การผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรและเพิ่มการผลิตน้ำมันของอิหร่าน
– 12 พ.ค. 68 สหรัฐฯ และจีนแถลงลดภาษีนำเข้าระหว่างกัน 90 วัน โดยสหรัฐฯ ลดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนจากเดิม 145 % มาอยู่ที่ 30 % ขณะที่จีนลดภาษีสินค้านำเข้าสหรัฐฯ จากเดิม 125% มาอยู่ที่ 10% ส่วนภาษีนำเข้าน้ำมันดิบจากสหรัฐฯ ลดลงมาอยู่ที่ 20%, LNG อยู่ที่ 25%, LPG อยู่ที่ 10% และงดเว้นการเก็บภาษีนำเข้า Ethane
– 8 พ.ค. 68 ประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump และนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร Keir Starmer ประกาศข้อตกลงการค้า “ครั้งสำคัญ” โดยสหรัฐฯ ลดกำแพงภาษีลงมาอยู่ที่ 10% ต่อสินค้าจากอังกฤษ ขณะที่อังกฤษลดภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ เฉลี่ยจาก 5.1% เหลือ 1.8% โดยภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมลดลงอยู่ที่ 0% ขณะที่ภาษีรถยนต์อยู่ที่ 10%
– 6-7 พ.ค. 68 ที่ประชุมนโยบายทางการเงิน (Federal Open Market Committee: FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve: Fed) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 4.25-4.50% (ตามที่ตลาดคาดการณ์) และ Fed แถลงว่ายังไม่สามารถกำหนดนโยบายทางการเงินได้จากความไม่แน่นอนของนโยบายทางการค้าของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม Fed กังวลถึงภาวะเงินเฟ้อและอัตราการว่างงานที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น