5G Standalone (5G SA) และ 5G Advanced ได้รับการคาดการณ์ว่าจะกลายเป็นเครือข่าย 5G ที่ผู้ให้บริการการสื่อสาร (CSPs) ให้ความสำคัญเป็นหลักตลอดช่วงทศวรรษที่เหลือจากนี้ เนื่องจากผู้ให้บริการต่างปรับใช้ความสามารถใหม่ ๆ เพื่อสร้างบริการที่เน้นการส่งมอบคุณค่ามากกว่าปริมาณดาต้าเน็ต โดยการวิเคราะห์นี้เป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลเชิงสถิติด้านเครือข่ายในรายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2024 ซึ่งได้ขยายระยะเวลาการคาดการณ์ไปจนถึงสิ้นปี 2030
แม้อัตราการเติบโตของปริมาณการใช้ดาต้าเน็ตบนเครือข่ายมือถือจะลดลง โดยปีนี้ประเมินการเติบโตต่อปีอยู่ที่ 21% แต่คาดว่าภายในสิ้นปี 2030 จะยังเติบโตขึ้นเกือบสามเท่าจากตัวเลข ณ ปัจจุบัน
รายงานฉบับนี้ยังเผยให้เห็นว่าผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรก ๆ กำลังนำเสนอโมเดลการส่งมอบคุณค่าที่อยู่บนพื้นฐานของการเชื่อมต่อที่แตกต่าง (Differentiated Connectivity) เพื่อรับประกันว่าจะได้รับคุณภาพการเชื่อมต่อในระดับสูงในเวลาที่ต้องการใช้มากที่สุด พร้อมสร้างโอกาสการสร้างรายได้และการเติบโตใหม่ ๆ โดยมียูสเคสที่เกี่ยวข้องจากผู้ให้บริการอย่าง T-Mobile ในสหรัฐอเมริกา และ Elisa ในฟินแลนด์
เฟรดริก เจดลิง รองประธานผู้บริหารและหัวหน้าเครือข่ายของอีริคสันกล่าวว่า “การสร้างความแตกต่างในบริการและโอกาสที่เกิดขึ้นจากประสิทธิภาพนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งเมื่ออุตสาหกรรมของเรากำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว ปัจจัยนี้ได้ถูกเน้นย้ำในรายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2024 ซึ่งรวมถึงการวิเคราะห์เชิงลึก ข้อมูลเชิงสถิติ และยูสเคสจากลูกค้า การเปลี่ยนผ่านไปสู่เครือข่ายที่มีประสิทธิภาพสูงและสามารถโปรแกรมได้ที่เปิดกว้างและทำงานบนคลาวด์จะช่วยผู้ให้บริการสามารถนำเสนอและคิดค่าบริการตามคุณค่าที่ส่งมอบได้ ไม่ใช่แค่ปริมาณดาต้าเน็ต โดยรายงานฉบับนี้ยังนำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าเกี่ยวกับสิ่งที่อุตสาหกรรมของเราสามารถทำได้และขั้นตอนที่จำเป็นในการไปถึงเป้าหมายดังกล่าว”
รายงานยังชี้ให้เห็นถึงศักยภาพทั่วโลกสำหรับการพัฒนาการเชื่อมต่อที่แตกต่าง หรือ Differentiated Connectivity โดยย่านความถี่ 5G Mid-Band ได้ถูกนำไปใช้งานเพียงประมาณ 30% ของไซต์ทั้งหมดทั่วโลกนอกจีนแผ่นดินใหญ่
จากจำนวนผู้ให้บริการการสื่อสารประมาณ 320 รายที่เปิดให้บริการ 5G เชิงพาณิชย์ในปัจจุบัน น้อยกว่า 20% ที่เปิดให้บริการ 5G SA ซึ่งการเพิ่มความหนาแน่นของไซต์ย่านความถี่ขนาดกลางและ 5G SA ถือเป็นตัวเร่งสำคัญในการใช้ประโยชน์จากศักยภาพทั้งหมดของ 5G รวมถึงความสามารถด้านการโปรแกรมและความอัจฉริยะของเครือข่าย
ภายในสิ้นปี 2030 เกือบ 60% ของจำนวนผู้ใช้บริการ 5G ทั่วโลก 6.3 พันล้านราย จะเป็นผู้ใช้งาน 5G Standalone (SA)
สำหรับปริมาณการใช้ดาต้าเน็ตบนมือถือทั่วโลก คาดว่าภายในสิ้นปี 2030 เครือข่าย 5G จะรองรับการใช้ดาต้าเน็ตบนมือถือประมาณ 80% ของจำนวนดาต้าเน็ตบนมือถือทั้งหมด เทียบกับ 34% ณ สิ้นปี 2024
บริการ Fixed Wireless Access (FWA) ยังคงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยเป็นยูสเคส 5G ที่ใหญ่เป็นอันดับสอง รองจากบรอดแบนด์มือถือ (eMBB)
ในสี่จากหกภูมิภาค มากกว่า 80% ของผู้ให้บริการการสื่อสารเปิดให้บริการ FWA แล้ว โดยมีจำนวนผู้ให้บริการ FWA ที่นำเสนอแพ็กเกจตามความเร็ว ด้วยการใช้พารามิเตอร์การรับส่งข้อมูลที่คล้ายคลึงกับเคเบิลหรือไฟเบอร์ เพิ่มขึ้นจาก 30% เป็น 43% ในช่วงปีที่ผ่านมา
สำหรับยุโรปตะวันตกมีการเติบโตอย่างรวดเร็วของการเปิดให้บริการ FWA ที่อิงตามความเร็ว โดย 52% ของผู้ให้บริการในภูมิภาคนี้ได้เปิดให้บริการ FWA ไปแล้ว เทียบกับ 32% จากเมื่อปีก่อน และในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมานี้ ยุโรปคิดเป็น 73% ของยอดการเปิดตัว 5G FWA ทั้งหมดทั่วโลก
จากคาดการณ์ว่าในสิ้นปี 2030 จะมีปริมาณการเชื่อมต่อเครือข่าย FWA ทั่วโลกถึง 350 ล้านการเชื่อมต่อ ซึ่งเกือบ 80% จะเป็นการเชื่อมต่อผ่าน 5G
รายงานยังกล่าวถึง AI รวมถึงแอปพลิเคชัน Generative AI ที่ถูกผสานรวมไว้ในสมาร์ทโฟน แล็ปท็อป นาฬิกา และผลิตภัณฑ์ FWA ที่อาจส่งผลต่อการรับส่งข้อมูลในเครือข่าย ผลักดันการเติบโตของปริมาณการใช้ดาต้าเน็ตบนมือถือให้สูงเกินกว่าการคาดการณ์พื้นฐาน ณ ปัจจุบัน
สถิติสำคัญอื่น ๆ ในรายงานฉบับนี้ยังรวมถึงการคาดการณ์ว่าภายในสิ้นปี 2024 จะมียอดผู้ใช้บริการ 5G ทั่วโลกสูงเกือบ 2.3 พันล้านราย คิดเป็น 25% ของผู้ใช้บริการมือถือทั้งหมดทั่วโลก และคาดว่ายอดผู้ใช้บริการ 5G จะเติบโตแซงหน้าผู้ใช้ 4G ทั่วโลกในช่วงปี 2027
คาดว่าการนำเทคโนโลยี 6G มาปรับใช้ช่วงแรก จะเริ่มในปี 2030 โดยจะเน้นไปที่การต่อยอดและขยายความสามารถของ 5G SA และ 5G Advanced
รายงาน 40 หน้านี้ ยังประกอบด้วยบทความยูสเคส 3 เรื่องหลัก ได้แก่:
– T-Mobile takes network slicing from pilots to real-world scenarios (with T-Mobile in the U.S. About network slicing use cases.)
– Premium FWA services enabled in Finland with 5G SA (with Elisa in Finland. About Elisa’s 5G SA FWA offering.)
– A multi-New Radio (NR) carrier strategy for best performance (with stc in the Kingdom of Saudi Arabia (KSA).
อ่านรายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับเต็ม เดือนพฤศจิกายน 2024 ได้ที่ลิงก์นี้
รายงานฉบับนี้อ้างอิงข้อมูลเชิงลึกเฉพาะจากอีริคสันและเครือข่ายพันธมิตร โดย Ericsson Mobility Report ถือเป็นแหล่งข้อมูลอ้างอิงสำคัญของอุตสาหกรรมสำหรับเครือข่ายข้อมูล ประสิทธิภาพการให้บริการ สถิติ และการคาดการณ์ มานับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2011
Ericsson Mobility Report Early Movers Pursue Performance-Based Business Models
– Global mobile network data traffic projected to grow almost 200 percent between 2024 and the end of 2030
– 6.3 billion global 5G subscriptions forecast by the end of 2030 – of which 60 percent are expected to be 5G SA
– Report includes case studies from T-Mobile (U.S.A.), Elisa (Finland), and stc (KSA)
5G Standalone (5G SA) and 5G Advanced are expected to be key focuses for communications service providers (CSPs) for the remainder of the decade as they deploy new capabilities to create offerings centered on value delivery rather than data volume. The analysis is included among a wealth of statistical network insights in the November 2024 edition of the Ericsson (NASDAQ: ERIC) Mobility Report, which extends the forecast period until the end of 2030.
While the rate of mobile network traffic data growth is declining – estimated at 21 percent year-on year for 2024 – it is still expected to grow almost three-fold by the end of 2030 from present day numbers.
The report highlights how early-mover service providers are already offering value delivery models based on differentiated connectivity – guaranteed uninterrupted high-end connectivity when you need it most – to create new monetization and growth opportunities. Related case studies from T-Mobile in the U.S. and Elisa in Finland are included.
Fredrik Jejdling, Executive Vice President, Head of Business Area Networks, Ericsson, says: “Service differentiation and performance-based opportunities are crucial as our industry evolves. This is highlighted in the November 2024 Ericsson Mobility Report, which includes detailed analysis, statistical insights, and customer use cases. The shift towards high-performing programmable networks, enabled by openness and cloud, will empower service providers to offer and charge for services based on the value delivered, not merely data volume. This report offers valuable insights into what our industry can achieve and the steps necessary to get there.”
report underlines the global potential for differentiated connectivity development by highlighting that, beyond China, 5G mid-band is currently only deployed at about 30 percent of sites globally.
Of about 320 CSPs currently offering commercial 5G services, less than 20 percent are 5G SA. The densification of mid-band and 5G SA sites is seen as a key catalyst to capitalize on the full potential of 5G, including programmable and intelligent network capabilities.
Almost 60 percent of the 6.3 billion global 5G subscriptions forecast by the end of 2030 are expected to be 5G Standalone (SA) subscriptions.
On global mobile data traffic, 5G networks are expected to carry about 80 percent of total mobile data traffic by the end of 2030 – compared to 34 percent by the end of 2024.
Fixed Wireless Access (FWA) continues to grow in popularity globally as the second largest 5G use case after enhanced Mobile Broadband (eMBB).
In four out of six regions, more than 80 percent of CSPs now offer FWA. The number of FWA service providers offering speed-based tariff plans – with downlink and uplink data parameters similar to cable or fiber offerings – has increased from 30 percent to 43 percent in the last year alone.
Western Europe has witnessed rapid growth in FWA speed-based offerings with 52 percent of CSPs in the region now doing so compared to 32 percent a year ago. Europe alone accounts for 73 percent of all 5G FWA launches globally in the past 12 months.
Of the 350 million projected global FWA connections by the end of 2030, almost 80 percent are forecast to be over 5G.
The report also addresses how AI, including Generative AI Applications – already integrated across smartphones, laptops, watches and FWA products – could impact uplink and downlink network traffic, driving potential mobile traffic growth beyond current baseline predictions.
Other featured report statistics include the projection that global 5G subscriptions are expected to reach almost 2.3 billion by the end of 2024, amounting to 25 percent of all global mobile subscriptions. 5G subscription numbers are expected to overtake the global number of 4G subscriptions during 2027.
The first 6G deployments are expected in 2030, building on and scaling the capabilities of 5G SA and 5G Advanced.
The 40-page report includes three case study articles:
– T-Mobile takes network slicing from pilots to real-world scenarios (with T-Mobile in the U.S. About network slicing use cases.)
– Premium FWA services enabled in Finland with 5G SA (with Elisa in Finland. About Elisa’s 5G SA FWA offering.)
– A multi-New Radio (NR) carrier strategy for best performance (with stc in the Kingdom of Saudi Arabia (KSA).
Read the full November 2024 Ericsson Mobility Report via this link.
Based on unique Ericsson and partner network insights, the Ericsson Mobility Report has been the key industry reference for network data, performance, statistics, and forecasts since its launch in 2011.