GWM เปิดตัว ORA Good Cat GT รถยนต์ไฟฟ้า 100% ดีไซน์สปอร์ตจากแบรนด์ ORA ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ภายใต้แนวคิด “Next Level of the Future” ซึ่งถือเป็นรุ่นย่อยพิเศษที่เหนือชั้นไปอีกระดับของ ORA Good Cat ที่ผสมผสานความดุดันและความสง่างามได้อย่างลงตัว โดยการเปิดตัว ORA Good Cat GT ในครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดตัวในตลาดต่างประเทศนอกประเทศจีนเป็นครั้งแรก พร้อมประกาศราคาที่ 1,549,000 บาท โดยราคาหลังหักส่วนลดและสิทธิประโยชน์จากทางภาครัฐจะอยู่ที่ 1,286,000 บาท เปิดให้จองเป็นเจ้าของ 500 คันแรก ในวันที่ 29 มิถุนายน 2565 ตั้งแต่เวลา 20.00 น.ถึง 29 กรกฎาคม 2565 เวลา 23.59 น. เตรียมส่งมอบรถล็อตแรกในเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป จัดเต็มแคมเปญ ORA Good Cat GT PREMIERE DEAL อัดแน่นด้วยสิทธิประโยชน์มากมาย รวมมูลค่ากว่า 131,000 บาท
เกรท วอลล์ มอเตอร์ จัดงานเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นย่อยล่าสุดจากแบรนด์ ORA กับ ORA Good Cat GT อย่างเป็นทางการในวันนี้ที่ GWM Experience Center ณ ไอคอนสยาม พร้อมประกาศราคาจำหน่ายที่หลายคนตั้งตารอมานาน ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้า (xEV Leader) ในประเทศไทย เดินหน้าผลักดันประเทศไทยสู่สังคมยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคตด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะที่มาพร้อมความปลอดภัย สะดวกสบาย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยยึดผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง (User-centric) เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและบริการที่ดีเยี่ยม
มร. ไมเคิล ฉง ผู้จัดการทั่วไป เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลากว่าหนึ่งปีที่ดำเนินกิจการในประเทศไทย เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ขึ้นแท่นเป็นแบรนด์ผู้นำด้านรถยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีอัจฉริยะ เราตั้งใจจะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการวิจัยและพัฒนา รวมถึงเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์พลังงานใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยปีที่แล้วเราประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจากการเปิดตัวรถยนต์ไฮบริด 2 รุ่น ได้แก่ HAVAL H6 HEV และ HAVAL JOLION HEV รวมถึงรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% อย่าง ORA Good Cat ปัจจุบันรถยนต์ของเราได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนไทยรวม 8,277 คน มีผู้ลงทะเบียนใช้ GWM App เกือบ 100,000 ราย และมีผู้ติดตามทางโซเชียลมีเดียมากกว่า 500,000 คน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังพร้อมส่งเสริมระบบนิเวศในการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในไทยด้วยการสร้างระบบการชาร์จไฟฟ้าให้ครอบคลุมและบูรณาการยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสถานีชาร์จของเราเพิ่มเติมทั้ง G-charge Supercharging Station, Partner Station และ Destination Charging Station ซึ่งในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แผนที่การชาร์จใน GWM App ได้เชื่อมต่อกับสถานีชาร์จกว่า 500 สถานีของหน่วยงานด้านพลังงานทั้งสามแห่ง ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เป็นที่เรียบร้อย ครอบคลุมสถานีชาร์จสาธารณะของไทยมากกว่า 50%”
“ORA Good Cat ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle หรือ BEV) ของเกรท วอลล์ มอเตอร์ คันแรกที่เปิดตัวในประเทศไทย และประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามนับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนตุลาคม 2564 การันตีด้วยยอดจองสะสมล่าสุดรวมกว่า 3,000 คัน และยอดส่งมอบไปแล้วทั้งสิ้น 1,748 คัน เนื่องจากสถานการณ์การขาดแคลนชิปจากแหล่งผลิต ราคาวัตถุดิบสำคัญในการผลิตแบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้นกว่า 40 ถึง 500 เปอร์เซ็นต์ ความผันผวนของราคาน้ำมันในตลาดโลก การขนส่ง ตลอดจนสงครามรัสเซีย-ยูเครน และโรคระบาด ทำให้ต้นทุนการผลิตของรถยนต์ไฟฟ้าสูงขึ้นมาก จนทำให้หลายบริษัททั้งในและต่างประเทศปรับขึ้นราคา เกรท วอลล์ มอเตอร์ มีการพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนถึงเรื่องนี้ และอาจต้องพิจารณาถึงการปรับราคา ORA Good Cat ให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ด้วยนโยบายการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐและการลดลงของภาษีสรรพสามิต เราจะทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ในภาคอุตสาหกรรมเพื่อปรับราคาให้เหมาะสมที่สุด โดยเรายังคงมุ่งมั่นรับฟังเสียงของผู้บริโภคอย่างสม่ำเสมอ เพื่อนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่มาพร้อมนวัตกรรมล้ำสมัย พร้อมตอบสนองการใช้งานและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น” มร. ไมเคิล ฉง กล่าวเสริม
นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) เผยว่า “ORA เป็นแบรนด์ที่ก่อตั้งมานาน 4 ปี พร้อมสร้าง ORA ให้เป็น ‘รถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่เป็นที่รักของผู้ใช้ทั่วโลก’ โดยคำนึงถึงความต้องการลูกค้าทั้งความสวยงาม การขับขี่ที่ดี มีเทคโนโลยีอัจฉริยะ และห่วงใยผู้ใช้งาน จนทำให้มีผู้ใช้ ORA เกือบ 282,000 คนทั่วโลกในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดย ORA GOOD CAT ยังขึ้นแท่นเป็นแชมป์ในตลาดเซ็กเมนต์รถยนต์ไฟฟ้า 100% หลังจากเปิดตัวในประเทศไทยไปเพียงไม่กี่เดือนจนถึงปัจจุบัน สำหรับ ORA Good Cat GT | Next Level of the Future ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ไทยในวันนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่มีการเปิดตัวในตลาดต่างประเทศนอกประเทศจีน โดยนับเป็นรุ่นย่อยพิเศษที่เหนือชั้นไปอีกระดับของ ORA Good Cat ซึ่งพัฒนาจากรุ่นแรกได้อย่างครอบคลุม โดดเด่นทั้งดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่มาพร้อมความไฮเอนด์ล้ำสมัย (Wild & Elegance) เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะและสมรรถนะที่เหนือชั้น โดยการเปิดตัวและประกาศราคาอย่างเป็นทางการในประเทศไทยของ ORA Good Cat GT นับเป็นการตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้เป็นอย่างดี สุดท้ายนี้ เราขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจและสนับสนุน เกรท วอลล์ มอเตอร์ มาเป็นอย่างดีโดยตลอด”
เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ประกาศราคารถยนต์ ORA Good Cat GT ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการที่ราคา 1,549,000 บาท ภายใต้นโยบาย “ONE PRICE” จะเป็นราคาเดียวกันในทุกช่องทางการจำหน่ายทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม ภายใต้นโยบายการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐและการลดลงของภาษีสรรพสามิต ราคาจำหน่ายของ ORA Good Cat GT ภายใต้นโยบายดังกล่าว จะปรับราคาลงอยู่ที่ 1,286,000 บาท
สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังเพื่อประสิทธิภาพการขับขี่ในทุกเส้นทาง
ORA Good Cat GT เจ้าเหมียวไฟฟ้าสไตล์สปอร์ต มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่า ด้วยพละกำลังสูงสุด 171 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ความเร็วสูงสุด 152 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 8.5 วินาที (ด้วยระบบขับขี่แบบสปอร์ต) เสริมด้วยระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท (MacPherson Strut) พร้อมเหล็กกันโคลง และระบบช่วงล่างด้านหลังแบบทอร์ชันบีม (Torsion Beam) บน GWM LEMON E PLATFORM ที่เป็นแพลตฟอร์มที่ถูกพัฒนาเพื่อใช้งานกับรถไฟฟ้า (BEV) โดยเฉพาะ ORA Good Cat GT มีระบบขับขี่ทั้งหมด 5 แบบ ได้แก่ 1) มาตรฐาน 2) สปอร์ต 3) ECO 4) ECO+ และ 5) อัตโนมัติ ซึ่งผู้ขับขี่สามารถปรับได้เองตามความต้องการและลักษณะการขับขี่ รวมถึงปริมาณแบตเตอรี่คงเหลือ ตลอดจนความสามารถการกู้คืนพลังงาน (Energy Regeneration) ที่ปรับได้ถึง 3 ระดับ ได้แก่ น้อย มาตรฐาน และมาก
ยืนหนึ่งดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยวไม่แพ้ใคร หรูหราล้ำสมัยทั้งภายในและภายนอก
ORA Good Cat GT โดดเด่นด้วยการออกแบบอย่างประณีต สะกดทุกสายตา โดยดีไซน์ภายนอกอันเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าเหมียวไฟฟ้าสไตล์สปอร์ต ORA Good Cat GT สวยทุกองศาด้วยมิติตัวรถ 1,848 x 4,254 x 1,596 มม. (กว้าง x ยาว x สูง) สะท้อนความเท่อย่างมีชั้นเชิงผ่านกระจังหน้าแบบสปอร์ตลายคาร์บอนไฟเบอร์ และสปอยเลอร์ดีไซน์โฉบเฉี่ยวพร้อมตราสัญลักษณ์ GT ด้านหลัง ร้อนแรงต่อเนื่องด้วยล้ออัลลอยทูโทนขนาด 18 นิ้ว มาพร้อมกับดิสก์เบรคคาลิปเปอร์สีแดง พร้อมดึงดูดทุกสายตาบนท้องถนนด้วยสีพิเศษ อะควาเกรย์ (Aqua Grey)
นอกจากนั้น ยังโดดเด่นทุกสัมผัส ด้วยการตกแต่งภายในแบบทูโทนสีดำและสีแดงเป็นเอกลักษณ์ ตั้งแต่พวงมาลัย เบาะนั่ง คอนโซล ไปจนถึงพนักพิงศีรษะที่มีตราสัญลักษณ์ GT และเข็มขัดนิรภัยสีแดง มาพร้อมหน้าจอ Interactive Double Screen พาดยาวบริเวณคอนโซลของตัวรถ มีขนาด 17.25 นิ้ว ที่มีความละเอียดสูง แบ่งออก 2 หน้าจอ คือ หน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบดิจิทัล (Full TFT) ขนาด 7 นิ้ว และหน้าจอระบบมัลติมีเดียพร้อมระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว ลำโพงรอบทิศทาง จำนวน 6 ตัว ภายในห้องโดยสารใช้วัสดุคุณภาพสูง ให้สัมผัสที่นุ่มนวลมีระดับ พร้อมอุปกรณ์ในห้องโดยสารที่ออกแบบสวยงามอย่างพิถีพิถัน สร้างมิติใหม่แห่งสุนทรียภาพในการขับขี่ เพิ่มความผ่อนคลายและลดความเหนื่อยล้าตลอดการเดินทาง ด้วยเบาะที่นั่งที่ถูกออกแบบมาอย่างถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ และตกแต่งอย่างประณีตใส่ใจในทุกรายละเอียด มีระบบเบาะนวดไฟฟ้าและระบบระบายอากาศ เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า พนักพิงเบาะด้านหลังพับได้แบบ 60:40 ด้านเบาะที่นั่งคนขับสามารถปรับด้วยไฟฟ้าได้ถึง 6 ทิศทาง มาพร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง และฟังก์ชั่น Welcome Seat ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเข้า-ออกจากรถได้อย่างสะดวกสบาย ขณะที่เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับด้วยไฟฟ้าได้ 4 ทิศทาง ตามมาด้วยหลังคาพาโนรามิคซันรูฟอัจฉริยะ เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า เพิ่มพื้นที่แสงสว่าง และเปิดมุมมองรับชมวิวทิวทัศน์ได้มากยิ่งขึ้น ส่วนประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้า มาพร้อมระบบแฮนด์ฟรี ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่ยกของหนัก มีฟังก์ชั่นอินเทอร์เน็ตเพื่อความบันเทิงในรถยนต์ อาทิ การเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน ฟังเพลง วิดีโอได้อีกด้วย เพิ่มความสะดวกสบายถึงขีดสุดด้วยระบบสั่งการด้วยเสียงอัจฉริยะได้ในประโยคเดียว ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมเครื่องปรับอากาศ ซันรูฟ ระบบนำทาง และมัลติมีเดีย เป็นต้น ปิดท้ายด้วยการเชื่อมต่อโครงข่ายระยะไกล ช่วยให้สามารถควบคุมการเปิด-ปิดการชาร์จ เครื่องปรับอากาศ ปิดหน้าต่างได้จากระยะไกล และสามารถดูสถานะของรถได้ผ่านระบบ GWM App
สร้างประสบการณ์ในการขับขี่แบบใหม่ด้วยเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะ เพื่อความปลอดภัยขั้นสุด
เพิ่มดีกรีความล้ำสมัยเกินต้านด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกทั้งฟังก์ชันการอัปเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA) การตอบโต้ด้วยเสียงอัจฉริยะผ่านระบบปัญญาประดิษฐ์ (Voice Command) ระบบความบันเทิงแบบมัลติมีเดียรองรับลูกเล่นมากมาย เช่น Apple CarPlay, Siri, Android Auto และ Google Assistant ครอบคลุมไปจนถึงเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะเพื่อเพิ่มความมั่นใจ และช่วยลดความเสี่ยงบนท้องถนน อาทิ ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (Auto Reversing Assistance) ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ 3 รูปแบบ (Integrated Intelligent Parking) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Adaptive Cruise Control with Intelligent Cornering) กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา (360° Surround Camera) และระบบช่วยเบรกฉุกเฉินบนทางตรงและทางแยก (Auto Emergency Braking + Intersection) เป็นต้น
ผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ GWM Application หรือเว็บไซต์ WWW.GWM.CO.TH หรือ Official Facebook Page: GWM Thailand