“เอกา โกลบอล” ผู้นำตลาดนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์แห่งอนาคตช่วยยืดอายุอาหาร แรงไม่ตกหลังสบโอกาสทองเปิดโรงงานแห่งใหม่ที่อินเดีย ดักออเดอร์ตลาดอาหารและขนมหวานอินเดียพุ่งมากกว่าเท่าตัว ยกเป็นตลาดดาวรุ่งที่แข็งแกร่งทั้งเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุด และการบริโภคภายในประเทศที่มีศักยภาพ มั่นใจตลาดอินเดียหนุนยอดขายรวมของบริษัทฯ ทั้งปีนี้ เติบโตตามเป้า 10 – 15%
นายชัยวัฒน์ นันทิรุจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอกา โกลบอล จำกัด (EKA GLOBAL) ผู้นำตลาดนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร (Longevity Packaging) แบรนด์คนไทยเบอร์ใหญ่อันดับต้น ๆ ของโลก และดำเนินธุรกิจด้วยความภาคภูมิใจกว่าสองทศวรรษ เปิดเผยว่า ตลาดบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหารในประเทศอินเดีย เป็นตลาดที่น่าจับตามองและเป็นโอกาสของผู้ประกอบการผู้ผลิตอาหารในปี 2567 จากทิศทางการเติบโตที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีนัยสำคัญ โดยในช่วงหกเดือนแรกของปีนี้ มีอัตราการเติบโตของตลาดเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าเท่าตัวจากปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ มีปัจจัยสนับสนุนจากเศรษฐกิจอินเดียที่เติบโตอย่างรวดเร็ว เป็นแรงขับเคลื่อนและดึงเม็ดเงินลงทุนเข้าประเทศได้อย่างมหาศาล โดยเศรษฐกิจอินเดียเป็นหนึ่งในเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก มีขนาดเศรษฐกิจ (GDP) เติบโตเฉลี่ย 7% ต่อปีในช่วงสิบปีที่ผ่านมา และในไตรมาสแรกของปีนี้ เติบโตสูงถึง 7.76% จากปีก่อน ขณะที่แนวโน้มในอนาคตจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
“ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว และตลาดต่างประเทศอื่น ๆ รวมถึงตลาดเกิดใหม่เผชิญกับความไม่มั่นคง และมีความเสี่ยงต่อการลงทุน อินเดีย คือตลาดดาวรุ่งบนเวทีโลก ด้วยขนาดเศรษฐกิจที่เข้มแข็งและใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก เป็นรองจากสหรัฐอเมริกา จีน เยอรมัน และญี่ปุ่น และมีฐานผู้บริโภคในประเทศขนาดใหญ่ ทำให้อินเดียเป็นตลาดที่น่าสนใจและกำลังดึงเม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนทั่วโลก”
นายชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า ตลาดผู้บริโภคของอินเดีย ยังเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง ด้วยจำนวนประชากรที่มากกว่าพันล้านคน ซึ่งเป็นฐานผู้บริโภคขนาดใหญ่ นอกจากนี้ อินเดียยังมีกลุ่มประชากรวัยทำงานที่มีการศึกษาสูงและมีทักษะที่ดี เป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ
“มีรายงานตัวเลขรายได้หลังหักภาษีของประชากรอินเดียเฉลี่ยต่อคนเพิ่มขึ้นทุกปี และคาดการณ์ว่าในปี 2570 ประชากรกว่า 100 ล้านคน จะกลายเป็นคนร่ำรวยที่มีรายได้เฉลี่ยต่อปีสูงกว่า 10,000 ดอลลาร์ และทำให้ตลาดผู้บริโภคของอินเดียจะใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐฯ และจีน”
ทั้งนี้ ด้วยกำลังซื้อที่เข้มแข็งช่วยหนุนตลาดอาหารของอินเดียเติบโตอย่างต่อเนื่อง และหนุนความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ยืดอายุ “เอกา โกลบอล” เติบโตมากกว่า 100% ต่อปี โดยเฉพาะอาหารขนมหวานท้องถิ่นพร้อมรับประทาน (Ready-to-Eat) มีอัตราคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยบริษัทฯ มีฐานลูกค้าเอสเอ็มอีธุรกิจขนมหวานในอินเดียกว่า 300 – 400 ราย และมีคำสั่งเฉลี่ยต่อรายเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่าหมื่นชิ้นต่อเดือน
“พฤติกรรมการบริโภคของคนอินเดีย นอกจากการบริโภคอาหารมื้อหลักแล้วจะชื่นชอบและนิยมทานขนมหวาน พร้อมจิบน้ำชาระหว่างวัน เป็นกิจวัตรที่ทำเป็นปกติทุกวัน ที่ผ่านมาบริษัทฯ มองเห็นการเติบโตของผู้ประกอบเอสเอ็มอีในอินเดียที่มากขึ้นทุกปีจากระดับคำสั่งซื้อหลักพันชิ้นเป็นหมื่นชิ้นต่อเดือน”
สำหรับการลงทุนตั้งโรงงานแห่งใหม่ที่เมืองปูเน่ ประเทศอินเดีย มูลค่าการลงทุน 300 ล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดอินเดียของบริษัทฯ ขณะนี้ได้เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว (มี.ค. 67) นับเป็นจังหวะเหมาะสมอย่างยิ่ง และเข้ามารองรับคำสั่งซื้อที่เพิ่มสูงขึ้น โดยปัจจุบัน บริษัทฯ มีคำสั่งซื้อบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหารเฉพาะโรงงานแห่งใหม่ดังกล่าวจนเต็มกำลังการผลิตสูงสุด 300 ล้านชิ้นต่อปีแล้ว
“โรงงานแห่งใหม่ที่อินเดียจะรองรับการขายภายในอินเดีย ซึ่งมีกำลังการผลิตสูงสุดเป็น 1 ใน 3 ของกำลังการผลิตในไทย และปีนี้ อินเดียเป็นตลาดสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัทฯ ซึ่งจะช่วยหนุนยอดขายรวมทั้งปีนี้ของบริษัทฯ เติบโตกว่า 10 – 15% แตะ 1,200 ล้านบาท ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน”
India’s growing longevity packaging boosts Eka Global’s business
Eka Global, a leading longevity packaging producer, is confident of achieving this year’s 10-15% growth target, driven by the opening of its new plant in India. The increasing production capacity enables the company to cope with the rising Indian food and sweet industry whose growth has doubled due to higher domestic consumption in India.
Mr. Chaiwat Nantiruj, Group CEO, Eka Global, disclosed that India’s longevity packaging market has been growing quickly, presenting immense opportunity for food producers. During the first six months this year, the market has already doubled its size from last year.
Key growth drivers are the rapid economic growth in India that draws more foreign investment and income into the country. India is currently one of the most promising economy with significant 7% GDP growth per annum during the past 10 years. In the first quarter alone, the country saw 7.76% economic expansion, and this trend continues strong.
“While global economy is dull, Chinese economy slows down, and many new markets are facing high uncertainty and investment risks, India becomes the rising star. Its economy is very healthy and huge, ranking the world’s 5th largest economy after the US, China, Germany and Japan. Its large population makes India a highly interesting market that attracts more investment from all over the world,” said Chaiwat.
Indian consumer market has very high potential, said Chaiwat. With over one billion population, the local consumer base is huge. More importantly, the country has significantly high working-aged and high-education population, which is crucial to support economic growth.
“Reports showed that per capita income after tax in India has constantly increased every year. It is expected by 2027, more than 100 million Indian population will be those with over 10,000 US dollar income per year. This will make Indian the world’s third largest consumer market after the US and China,” added Chaiwat.
High purchasing power has contributed largely to the growing food industry, which also drives Eka Global’s longevity packaging demand to grow over 100% per year. Orders from ready-to-eat local sweet manufacturers have significantly increased. At present, Eka Global has 300-400 SME customers producing sweet and each has placed more than 10,000 pieces of packaging per month.
“Indian consumers have unique consumption behavior. In addition to main meals, they love eating sweet and drinking tea all day. This has contributed largely to the continuous growth, especially among SMEs. We have observed this group of customers increasing their packaging order from thousands to tens of thousands pieces per month.”
Eka Global has invested 300 million baht in its new plant in Pune, India, to support this market trend. Beginning commercial operation in March this year, this new plant has enabled Eka Global to timely increase its production capacity and handle increasing order. At present, the company has already received order to complete its maximum production capacity which is over 300 million pieces per year.
“Our new Indian plant will serve local market. This plant’s capacity equals one third of the production capacity at our Thai plants. This year, India will be a key market that drives Eka Global’s expansion and enables us to achieve our sales growth target of 10-15%. This convinces us that our total sales will reach 1.2 billion baht as planned,” said Chaiwat.
