“อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์” เผยพฤติกรรมผู้บริโภคหลังยุคโควิด-19 เปลี่ยนแปลงชัดเจน จับมือพันธมิตรธุรกิจ “คีนน์” พัฒนาที่อยู่อาศัยแบบ ไฮจีนิก โฮม และคอมมูนิตี้ (HYGIENIC HOME & COMMUNITY) ในโครงการอัลติจูด ซิมโฟนี เจริญกรุง เป็นโครงการนำร่องในการพัฒนา พร้อมเปิดบ้านเซกเม้นท์ใหม่ “อัลติจูด ฟอเรส” บนสองทำเลศักยภาพ รัชดาภิเษก อารีย์ ที่ใช้หลักจิตวิทยาในการสร้างบ้าน เจาะลึกความต้องการลูกค้าแบบ “ยูนีค” (UNIQUE) มูลค่ารวม 998 ล้านบาท รองรับความต้องการชมบ้านของผู้บริโภคยุค Now Normal ด้วยนวัตกรรมชมบ้านผ่าน REAL LIVE 720 องศา ได้ทุกโครงการของอัลติจูด เตรียมปิดยอดขายสิ้นปี 2,015 ล้านบาท
นายชยพล หรรรุ่งโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภายใต้แบรนด์ ‘ALTITUDE’ เปิดเผยว่า 1 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันพฤติกรรมผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้ปรับเปลี่ยนและเรียนรู้วิถีชีวิตแบบนาว์นอร์มอล (NOW NORMAL) มีผลกระทบมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการผันเปลี่ยนเข้าสู่ยุคดิจิทัล ทำให้ผู้คนนิยมอยู่อาศัยในบ้านมากขึ้น และออกจากบ้านน้อยลง เพื่อลดความเสี่ยง บริษัทฯ เล็งเห็นจุดเปลี่ยนสำคัญนี้จึงพัฒนาบ้าน ไฮจีนิก โฮม และคอมมูนิตี้ (HYGIENIC HOME & COMMUNITY) บ้านแห่งอนาคตเพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยที่ปลอดภัยมากกว่าเดิมสำหรับทุกคน ภายใต้แนวคิด EVERYONE CAN SAFE AT HOME โดยร่วมมือกับบริษัท คีนน์ ผู้นำนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม พัฒนานวัตกรรม ไฮจินิก โฮม ที่มีชื่อเสียงระดับโลกด้วยรางวัลเกียรติยศโดดเด่นในระดับอาเซียน โดยให้ อัลติจูด ซิมโฟนี เจริญกรุง เป็นโครงการนำร่องในการพัฒนา และนำไปใช้กับทุกโครงการที่กำลังก่อสร้าง
ด้านการพัฒนาโครงการเตรียมเปิดเซกเมนต์ใหม่ล่าสุด 2 โครงการ คือ อัลติจูด ฟอเรสต์ รัชดา พรีเมียมทาวน์โฮม จำนวน 39 ยูนิต มูลค่าเริ่มต้น 15 ล้านบาท และ อัลติจูด ฟอเรสต์ อารีย์-โมนูเมนต์ บ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่ เพียง 10 ยูนิต มูลค่าเริ่มต้น 28 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่หาได้ยากบนทำเลอารีย์ และเป็นโครงการใหม่บนทำเลศักยภาพใจกลางเมือง รวมมูลค่าทั้ง 2 โครงการ 998 ล้านบาท
คอนเซ็ปท์การออกแบบโครงการใช้หลักจิตวิทยาในการสร้างบ้าน เพื่อเจาะลูกค้ากลุ่ม “ยูนีค” (UNIQUE) ทั้ง 2 โครงการได้ผสาน 2 แนวคิดหลักที่เป็นคอนเซ็ปท์ ในการออกแบบโครงการเพื่อตอบโจทย์ความเป็นเอกลักษณ์ผู้อยู่อาศัย และให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในทุกแง่มุมของการใช้ชีวิต 1.MIND-SPACE พื้นที่ว่างเปล่า “พื้นที่ที่ให้ทุกวินาทีมีความหมาย” ให้คุณเติมเต็มด้วยจิตใจและเป็นตัวเองมากที่สุด 2.พร้อมด้วยเทคโนโลยี GREENERY SPHERE เทคโนโลยีสะอาดหมุนเวียน พร้อมด้วยเทคโนโลยีความสะอาดหมุนเวียน นวัตกรรมไฮจีนิกโฮม (HYGIENIC HOME) อีกทั้งเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกอีกมากมาย เพื่อการอยู่อาศัยที่ยั่งยืน ซึ่งมาพร้อมส่วนกลางที่เต็มอิ่มกับความสงบ โดยบ้านต้นไม้ที่ดีไซน์ด้วยกระจกทั้งหลังโอบล้อมต้นไม้ใหญ่ ดีไซน์ของบ้านที่ออกแบบมาอย่างเข้าใจทั้งทิศทางลม และการรับแสงแดดเป็นอย่างดี เป็นพื้นที่ที่ให้ลูกบ้านได้มาทำกิจกรรมร่วมกันในระยะยาว
“จากความสำเร็จของ อัลติจูด คราฟ บางนา ซึ่งยอดขายแรงต่อเนื่องจากปลายปีที่ผ่านมา สร้างยอดขายในปัจจุบัน ณ สิ้นไตรมาส 1/64 รวมทั้งสิ้น 540 ล้านบาท พร้อมปิดโครงการโฮมออฟฟิศ พรูฟ พระราม 9 และบ้านเดี่ยวสุดหรู อัลติจูด มาสเตอรี่ พหลโยธิน 24 โดยโปรเจคที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและพร้อมอยู่พร้อมโอน 5 โครงการปลายปีนี้ ได้แก่ อัลติจูด พรูฟ สาทร,อัลติจูด ซิมโฟนี เจริญกรุง, อัลติจูด สาทร-ท่าพระ, อัลติจูด คราฟ บางนา ทาวน์โฮม และอัลติจูด มาสเตอรี สุขุมวิท คาดว่าจะปิดยอดขายปลายปีนี้ให้ได้ตามเป้าหมาย 2,015 ล้านบาท”
นอกจากนั้น เพื่อตอบรับสถานการณ์ในปัจจุบันที่โลกเกิดวิกฤตการระบาดของไวรัสตั้งแต่ปีที่ผ่านมา อัลติจูดได้ปรับกลยุทธ์การขายวิถีใหม่ ‘REAL LIVE 720 DEGREE’ หรือ นวัตกรรมเรียลไลฟ์ 720 องศา ภายใต้แนวคิด ANYONE CAN BUY ANYWHERE & ANYTIME ซึ่งเป็นนวัตกรรมเยี่ยมชมโครงการที่สามารถสัมผัสประสบการณ์เสมือนจริง 720 องศา ทั้งการชมบ้านตัวอย่าง ชมส่วนกลางเสมือนจริงได้รอบทิศทาง และสามารถทำ POP UP SPACE ออกแบบบ้านตามไลฟ์สไตล์ที่ชอบด้วยตัวเอง นับเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ของรูปแบบการขายให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ที่เหนือกว่าของการซื้อที่อยู่อาศัย
โดยนำร่องนวัตกรรมชมบ้านแบบเรียลไลฟ์ 720 องศา กับแบรนด์น้องใหม่ ‘อัลติจูด คราฟ บางนา (PREMUIM AFFORDABLE TOWNHOME) เปิดตัวเมื่อปลายปี 2563 ถือว่าประสบความสำเร็จในการขายก่อนเปิดโครงการจริง (EARLY BIRD ยอดขายถึงปัจจุบันกว่า 540 ล้านบาท พร้อม SOLD OUT จำนวน 125 ยูนิต เป็นการขายคละแบบบ้าน 3 แบบ จากทั้งหมด 402 ยูนิต ในโครงการ โดยมีมูลค่าโครงการรวม 1,469 ล้านบาท และเตรียมนำนวัตกรรมนี้ไปใช้กับทุกโครงการที่จะเปิดใหม่
นายขวัญชัย เจริญยิ่งถาวรชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า จากการดำเนินธุรกิจด้วยกลยุทธ์ TURNKEY ASSET DEVELOPMENT ตั้งแต่ต้นปี 2563 เป็นต้นมา และใช้แนวคิด “CUSTOMIZE LIVING” ผ่านการสร้างโปรดักส์ เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นและดีไซน์ ให้เหมาะกับชีวิตที่สุด และช่วยให้นักลงทุนเพิ่มศักยภาพของสินทรัพย์ได้ จึงทำให้อัลติจูดประสบความสำเร็จในการสร้างยอดขายจากการรุกตลาดคอนโดและพรีเมียมทาวน์โฮม ล่าสุดเพื่อเสริมความแข็งแกร่งและวางเป้าหมายครอบคลุมทุกเซกเมนต์มากยิ่งขึ้น อัลติจูดจึงมีแผนรุกตลาดบ้านเดี่ยว และทาวน์โฮมในระดับราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งเป็นระดับราคาที่มีดีมานต์ในตลาด และมีศักยภาพในการซื้อเห็นได้จากความสำเร็จจากการปิดขายโฮมออฟฟิศอย่าง อัลติจูด พรูฟ พระราม 9 ในระดับราคา 13.9-17.9 ล้านบาท และบ้านเดี่ยว อัลติจูด มาสเตอรี่ พหลโยธิน ในระดับราคา 28 ล้านบาท
“ในปีนี้เป็นปีของตลาดของลูกค้าซื้ออยู่เอง โดยเฉพาะในเซกเมนต์ระดับบนราคาที่ผู้ซื้อมีศักยภาพตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป นับเป็นที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์การซื้อเพื่ออยู่อาศัยอย่างแท้จริง อัลติจูดเชื่อมั่นว่า จากจุดเด่นและความแข็งแกร่งในการลด Pain Point และการช่วยลดต้นทุนการใช้ชีวิต ทั้งหมดมาจากความเข้าใจถึงความต้องการลูกค้าอย่างแท้จริงจนพัฒนาสินค้าได้อย่างตรงจุด สู่การออกแบบที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยได้จริง” นายขวัญชัย กล่าวปิดท้าย