27.8 C
Bangkok
Thursday, November 14, 2024
Mitsubishi
มอเตอร์ไซค์​ honda
previous arrow
next arrow

Motor Show 2024 กระหึ่ม!! ค่ายยานยนต์ ยุโรป-ญี่ปุ่น-จีน-อินเดีย-เวียดนาม 49 แบรนด์ร่วมงาน

บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงาน “บางกอก อินแตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 45 เชื่อตลาดรถยนต์และรถจักรยานยนต์จะกลับมาคึกคัก หลังผู้ผลิตรถชั้นนำทั้งยุโรป ญี่ปุ่น จีน อินเดีย และเวียดนาม ตบเท้าเข้าร่วมงานมากถึง 49 แบรนด์

ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 เปิดเผยว่า “งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “The Mobility of Joyful Experiences” : ประสบการณ์แห่งความสนุกของทุกการเดินทางเมื่อถนนแห่งเทคโนโลยียานยนต์และการดำรงชีวิตเดินทางมาบรรจบกัน ความสวยงามของยานยนต์เทคโนโลยีที่ท้าทายสะท้อนความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม เติมเต็มความสุข และประสบการณ์แห่งความสนุกของทุกการเดินทาง” พร้อมสนับสนุนเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และ สร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับประเทศ”

สำหรับการจัดงานในปีนี้ โดยรวมแล้วมีจำนวนผู้เข้าร่วมงานกลับมาเติบโตเทียบเท่าช่วงก่อนเกิดวิกฤตโควิด ถือเป็นการขยายตัวอย่างเห็นได้ชัด และเป็นสัญญาณที่ดีของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย แม้ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์จะลดลง แต่เชื่อว่า ด้วยจุดเด่นของงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ที่รวบรวมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องไว้ในงานเดียวจะเป็นตัวกระตุ้นให้ภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเติบโตขึ้นได้อย่างแน่นอน

ทั้งนี้ งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 ยังคงได้รับความร่วมมือจาก กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย, สมาคมวิศวะกรรมยานยนต์ไทย, สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย, สมาคมระบบขนส่งการจราจรอัจฉริยะ, และ ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยในพระ บรมราชูปถัมภ์ (ร.ย.ส.ท.) และบริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น เมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นอย่างดีในการจัดงาน

คุณจาตุรนต์ โกมลมิศร์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ สายกิจกรรมพิเศษ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และรองประธานจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 เปิดเผยว่า “งานในปีนี้ ได้รับความสนใจจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ชั้นนำเข้าร่วมงานกว่า 49 แบรนด์ และมีรถยนต์รุ่นใหม่ๆ เข้ามาเปิดตัวไม่น้อยกว่า 20 รุ่น ซึ่งในปีนี้ มีรถ Hyper Concept อย่าง Mercedes-Benz Vision ONE-ELEVEN และ Nissan Hyper Tourer Concept มาร่วมสร้างสีสันภายในงานอีกด้วย

นอกจากนี้ ยังมีรถไฮไลท์ภายในงาน อาทิ Lotus Eletre Blends Electric Hyper SUV รถสปอร์ตอเนกประสงค์ขุมพลังไฟฟ้า 100%, Lotus EMIRA ทั้งรุ่น I4 และ V6 Supercharged,  The NEW JEEP WRANGLER 2024, New Volvo EX30 รถ SUV ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ หรือจะเป็นรถสัญชาติจีน อย่าง CHANGAN ที่เปิดตัว LUMIN MINI EV ครั้งแรกในงาน ขณะที่ค่าย MG เตรียมเปิดราคา MG4 D Facelift อย่างเป็นทางการ ตามมาด้วย HONRI ที่เปิดตัว BOMA รถไฟฟ้าขนาด 4 ที่นั่ง เช่นเดียวกับรถสัญชาติเวียดนาม อย่าง VINFAST เปิดตัวรถ SUV ไฟฟ้า VF 7 และรถกระบะไฟฟ้าต้นแบบ VF wild

ขณะที่ค่ายรถจักรยานยนต์ Honda เปิดตัวสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ MOTOCOMPACTO ดีไซน์กระเป๋าเดินทาง กับ UNI-ONE วีลแชร์ไฟฟ้าแบบไม่ต้องพึ่งคนเข็น นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจากบรรดาค่ายรถต่างๆ ในการออกแบบและตกแต่งบูธ เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้เข้าชมงานให้เข้าไปเยี่ยมชมสินค้า ซึ่งการออกแบบบูธแต่ละค่ายต่างได้รับการพิจารณาอนุมัติโดยบริษัทแม่ในต่างประเทศ และใช้งบในการออกแบบก่อสร้างค่อนข้างสูง คาดว่า จะทำให้บรรยากาศของงานในปีนี้จะกลับมาเต็มไปด้วยสีสันเช่นเดิม

“อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อว่า การเข้ามาของผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน และเวียดนาม จะทำให้ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยมีสีสันมากขึ้น และเป็นโอกาสที่ดีของผู้บริโภคที่จะเลือกใช้รถยนต์ตามความต้องการได้ในราคาที่เหมาะสม และที่สำคัญผู้เข้าชมงานสามารถเลือกชมเลือกซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ทุกแบรนด์ ทุกรุ่น และทุกเคมเปญ ที่มีจำหน่ายในประเทศได้ภายในงานเดียวอีกด้วย”

ทำให้การจัดงานฯ ในครั้งนี้ ผู้จัดงานฯ มีการปรับเพิ่มวันสำหรับสื่อมวลชนหรือ Press Day เป็น 2 วันด้วยกันคือ 25 และ 26 มีนาคม 2567 เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานให้สื่อมวลชนทำงานกันอย่างเต็มที่ โดยที่ตารางเวลาสำหรับการนำเสนอของแต่ละแบรนด์ไม่อยู่ในช่วงเวลาเย็นเกินไป สำหรับตารางเวลาการนำเสนอของแต่ละแบรนด์ สามารถ download ทาง www.motorshow.in.th

“เป้าหมายการจัดงานในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าการเติบโตทั้งในด้านผู้เข้าชมงานและยอดจองรถภายในงานเพิ่มขึ้นประมาณ 15-20% จากปีที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจัยบวกในหลายด้าน โดยเฉพาะการเข้ามาของผู้ผลิตรถรายใหม่ๆ ดังนั้น เชื่อว่า งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ จะประสบความสำเร็จอย่างเช่นที่เคยผ่านมาได้อย่างแน่นอน” คุณจาตุรนต์ กล่าวทิ้งท้าย

คุณอโณทัย  เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่สายการผลิต บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และรองประธานการจัดงานฯ กล่าวว่า “สำหรับการจัดงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” ในครั้งนี้ ผมในฐานะรองประธานจัดงานรู้สึกเป็นเกียรติและขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างยิ่ง แน่นอนว่า ภายในงาน นอกจาก รถยนต์ รถยนต์จักรยานยนต์ และของตกแต่งที่มีให้เลือกชม เลือกซื้อกันแล้ว ทางผู้จัดยังได้เตรียมจัดกิจกรรมต่างๆ ไว้รองรับผู้เข้าชมอย่างมากมาย”

นอกจากนี้ ยังคงเป็นงานแสดงยานยนต์ที่ได้รับความสนใจจากทั่วโลก โดยในปีนี้มีสื่อจากทั่วโลกเข้ามาลงทะเบียนเพื่อเข้าชมงานมาแล้วมากกว่า 300 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่มีอยู่ประมาณ 200 ราย และคาดว่าจะสามารถกระจายข่าวสารของงานผ่านสื่อต่างๆ ครบทุกแพลตฟอร์มกว่า 1,000 สื่อทั่วโลก นั่นแสดงให้เห็นว่า งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ของไทยได้รับการยอมรับว่าเป็นงานอีเว้นท์ในระดับโลกอย่างแท้จริง

สำหรับกิจกรรมที่ได้จัดเตรียมไว้ต้อนรับผู้เข้าชมงาน เรายังดงมีกิจกรรม Digital Motor Sport ซึ่งทางผู้จัดได้เตรียมเครื่องเล่น Simulator สเปคเดียวกับที่ใช้ในการแข่งขัน FIA Motor Sport Game ให้ผู้เข้าชมงานได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์การแข่งขันรถยนต์ในรูปแบบ eRacing อีกด้วย เนื่องจากในปีนี้ทาง FIA Motor Sport Game ได้เปลี่ยนเกมที่ใช้ในการแข่งขันจากเกม Gran Turismo มาเป็นเกม Assetto Corsa Competizione ซึ่งเป็นเกมแข่งขันรถยนต์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ดังนั้น การจัดการแข่งขันในปีนี้ ทางผู้จัดจึงเลือกใช้เกม Assetto Corsa Competizione

ในปีที่ผ่านมา ทางผู้จัดได้ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน ASIA PACIFIC MOTORSPORTS CHAMPIONSHIP 2023 ที่ประเทศมาเลเซีย เพื่อเตรียมความพร้อมให้นักกีฬา eRacing ของไทย ที่จะเข้าร่วมการแข่งขัน FIA Motor Sport Game ที่จะมีขึ้นในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้อีกด้วย

คุณพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านพัฒนาธุรกิจ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)  และรองประธานจัดงานฯ กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 45 ปี ของการจัดงาน เราได้พัฒนารูปแบบของการจัดงานมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจัดการพื้นที่ การปรับเปลี่ยนกฏกติกาในการออกแบบ รวมถึงระยะเวลาในการก่อสร้างบูธ ทั้งนี้ ก็เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานสามารถใช้ไอเดียในการจัดแสดงสินค้าของตนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งในแต่ละปีผู้เข้าชมงานจะได้สัมผัสกับดีไซน์และวิธีการนำเสนอสินค้าในรูปแบบใหม่ๆ จากผู้เข้าร่วมงานเป็นประจำทุกปี”   

การจัดงานครั้งนี้ นอกจากจะให้ความสำคัญกับการจัดการพื้นที่ และรูปแบบของงานแล้ว กรังด์ปรีซ์ยังให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้เข้าชมงานด้วยเช่นกัน โดยพัฒนาระบบต่างๆ ขึ้นมารองรับ และอำนวยความสะดวกให้ทั้งผู้เข้าชมงาน และผู้เข้าร่วมงานมาอย่างต่อเนื่อง และยังได้พัฒนา LINE Official Account หรือ Line OA ในชื่อ GrandPrix.Group ขึ้นมาต่อจากปีที่แล้ว เพื่อเพิ่มความสะดวกในการซื้อบัตร หรือใช้ในการลงทะเบียนเข้าชมงาน และที่ยังใช้เป็นช่องทางการสื่อสาร ระหว่างบริษัทฯ กับผู้บริโภคในการส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางด้านยานยนต์ รูปแบบการให้บริการใหม่ๆ ทั้งกลุ่ม Auto และกลุ่ม Lifestyle ที่บริษัทฯ พัฒนาขึ้นมาต่อเนื่องจากปีที่แล้ว เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต อีกทั้งยังมีการจัดทำระบบฐานข้อมูล Grand Prix Data Center และการนำ Ai ของระบบ FullLoop มาใช้วิเคราะห์พฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภค เพื่อให้บริษัทฯ นำมาพัฒนาสิ่งที่จะนำเสนอต่อผู้เข้าร่วมงาน และผู้เข้าชมงาน ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งบริษัทฯ ให้ความสำคัญของการดูแลและสร้างประสบการณ์ที่ดีหรือ Customer Experience (CX) มาโดยตลอด เพราะการสร้างความประทับใจในใจผู้บริโภคจะเป็นตัวเชื่อมโยงให้ผู้บริโภคกลับมาใช้บริการอีกครั้งในอนาคต

“ในปีนี้ ยังจับมือร่วมกับ TikTok Thailand ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 สำหรับทำ TikTok Motor Show Official ขึ้นมา และมีกิจกรรม TikTok Hashtah Challenge ให้ได้ร่วมสนุกกันด้วย ซึ่งในปีนี้ได้กำหนดให้ใช้ Hashtag ดังนี้คือ  #MotorShow2024 , #GrandPrixMotorShow, #TikTokรักรถ ให้ได้ร่วมสนุกชิงรางวัลกันด้วย”

คุณปิยนุช แจ่มศิริพรหม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้า/ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวถึงอีกหนึ่งไฮไลท์ของงาน “นอกจากนี้ ผู้จัดยังได้ขยายพื้นที่จัดแสดงไปยังอาคาร อิมแพค ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 รวมพื้นที่จัดแสดงภายในอาคารกว่า 76,000 ตารางเมตร จากเดิมอยู่ที่ 60,000 ตารางเมตร โดยใช้งบลงทุนกว่า 300 ล้านบาท ถือว่าพิเศษและยิ่งใหญ่มากกว่าทุกๆ ปี  โดยในส่วนของ ฟอรัม ฮอลล์ 4 เป็นส่วนพื้นที่ของการจัดแสดงยานยนต์ มอเตอร์โฮม อุปกรณ์กรณ์ตกแต่งรถยนต์ Glamping Zone  และไฮเปอร์คาร์ ซุปเปอร์คาร์ คลาสสิคคาร์ ที่หาชมได้ยาก อาทิ Lamborghini Countach LPI 800-4 ที่มีเพียง 112 คัน ทั่วโลกเท่านั้น และคันสุดท้ายนำมาจัดแสดงให้ได้ยลโฉมกัน นอกจากนี้ยังมี Lamborghini Aventador LP770-4 SVJ 63 Roadster  Lamborghini Gallardo LP570-4 Squadra Corse Rolls-Royce Phantom Tempus Rolls-Royce Dawn Landspeed NISSAN GTR T-spec Mclaren 720S และ Mclaren Speedtail มีราคากว่า 400 ล้านบาท เป็นไฮไลท์ สำคัญหนึ่งของการจัดงานในครั้งนี้ มูลค่าที่นำมาจัดแสดงรวมกว่า 1,300 ล้านบาท บนพื้นที่ 11,600 ตารางเมตร นอกจากนี้ยังนำบูธสินค้าลิขสิทธ์์ Line Friend มาไว้ที่งาน เอาใจแฟนๆหมี Brownและผองเพื่อน ให้ได้มาเช็คอินถ่ายรูปสวยๆกัน พร้อมสนุกกับตู้คีบ กาชาปองอีกด้วย”

ราคาบัตรเข้าชมงานยังคงราคา 100 บาท พิเศษสุดสำหรับแฟนพันธุ์แท้ร่วมสัมผัสความเหนือระดับในงานกับ VIP Diamond Lounge ประสบการณ์ที่จะทำให้การชมงานพิเศษมากขึ้น ตลอดช่วงการจัดงานทั้ง 14 วัน ในราคา 999 บาท สามารถเข้าชมงานได้ทุกวัน พักผ่อนทาน ของว่างและเครื่องดื่ม มีที่จอดรถและรับของที่ระลึก ร่วมรับสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลรถยนต์ ไฟฟ้า LUMIN และมอเตอร์ไซค์ 4 คัน จาก HONDA YAMAHA KAWASAKI และ SUZUKI สำหรับผู้ซื้อบัตรเข้าชม สำหรับผู้จองซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ภายในงาน ฯ ลุ้นรับรางวัลรถยนต์ MG4 Electric D Vesion และรถจักรยานยนต์ ZEEHO AE6+

งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 จัดขึ้นที่ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม 7 เมษายน 2567 โดยเปิดให้เข้าชมงานเวลาตั้งแต่เวลา 12.00 22.00 น. ในวันธรรมดา และจะเปิดให้เข้าชมงานตั้งแต่เวลา  11:00 -22.00 น. ในวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ

Related Articles

Stay Connected

269FansLike
2,760SubscribersSubscribe
- Advertisement -spot_img

Latest Articles