กระทรวงพลังงาน ร่วมกับ กฟผ. ชวนออกโรดทริปสร้างประสบการณ์ใหม่ ทดลองขับรถอีวี 4 เส้นทาง หัวหิน–สัตหีบ–เขื่อนศรีนครินทร์–เขาใหญ่ ภายใต้กิจกรรม “EV GO ทริปปิดดีล” โชว์ศักยภาพรถ EV และสถานีชาร์จ EleX by EGAT ที่ครอบคลุม สานแนวคิด “ทราบแล้วเปลี่ยน” ให้ความมั่นใจคนไทยหันมาใช้รถอีวี
ภายในงาน มีศาสตราจารย์ ดร.พิสุทธิ์ เพียรมนกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานนายสมบูรณ์ หน่อแก้ว รองปลัดกระทรวงพลังงาน และนายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการ กฟผ. ณลานกิจกรรมENGY Patio กฟผ.สำนักงานกลาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี แลบะตัวแทนจากค่ายรถยนต์เข้าร่วมงาน ได้แก่ Audi, BMW, GWM, Mercedes-Benz, MG, NETA, NISSAN และ VOLVO
นายสมบูรณ์ หน่อแก้ว รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ทั่วโลกตื่นตัวกับเทรนด์การใช้นวัตกรรมพลังงานไฟฟ้าเข้ามาทดแทนพลังงานรูปแบบเดิมเพื่อเยียวยาสภาวะโลกรวน สำหรับประเทศไทย คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติได้ออกนโยบาย 30@30 ผลักดันให้ไทยก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ตั้งเป้าผลิตยานยนต์ไร้มลพิษ (Zero Emission Vehicle : ZEV) ให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 30 ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดภายในปี ค.ศ. 2030 สำหรับปีนี้ รัฐบาลจึงออกมาตรการกระตุ้นและจูงใจให้ผู้ขับขี่หันมาใช้รถอีวี ทั้งเงินอุดหนุนและมาตรการลดภาษีการซื้อยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี กระทรวงพลังงานได้เตรียมพร้อมด้านการผลิตและจัดส่งพลังงานไฟฟ้ารองรับไว้แล้ว โดยวางโครงข่ายสถานีชาร์จไฟฟ้าให้ครอบคลุม หลากหลาย และที่สำคัญ คือ สามารถชาร์จได้ในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้ประชาชนมั่นใจและกล้าหันมาเปลี่ยนใช้รถอีวีได้เร็วขึ้นกว่าที่เราตั้งเป้าหมายไว้ในปี ค.ศ. 2030
ศาสตราจารย์ ดร.พิสุทธิ์ เพียรมนกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะทำงานสร้างความตระหนักรู้การใช้พลังงานอย่างยั่งยืน กล่าวเสริมว่า กระทรวงพลังงานได้จัดตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนการสร้างความตระหนักรู้เรื่องการอนุรักษ์พลังงานขึ้นเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนรู้ถึงคุณค่าของพลังงานและชวนเปลี่ยนพฤติกรรมลดใช้พลังงานอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านแคมเปญ “ทราบแล้วเปลี่ยน” โดยเริ่มเปลี่ยนจากสิ่งใกล้ตัวจนเกิดเป็นพลังเล็ก ๆ เมื่อหลายคนปรับเปลี่ยนพร้อมกัน ผลลัพธ์ที่ได้จะยิ่งใหญ่มากขึ้น “ทราบแล้วเปลี่ยน” จึงชวนภาคีเครือข่ายมาร่วมกันจัดกิจกรรมใหม่ๆโดยเริ่มจาก“EV GO ทริปปิดดีล”ที่กฟผ. ชวนคนไทยให้มั่นใจเปลี่ยนมาใช้รถอีวี
ในส่วนของ กฟผ. นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า “กฟผ. สนับสนุนประเทศไทยให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี ค.ศ. 2050 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net zero emissions) ในปี ค.ศ.2065 เราจึงดำเนินงานทุกมิติให้สอดรับและบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ ในขณะเดียวกันก็สนับสนุนและผลักดันให้ผู้ใช้ไฟฟ้าปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ให้สอดคล้องกับเทรนด์รักษ์โลก การเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้าจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 1 ใน 3 เมื่อเทียบกับรถที่ใช้น้ำมัน กฟผ. จึงเร่งขยายสถานีชาร์จไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ EleX by EGAT ให้ครอบคลุมเส้นทางหลักทุกภูมิภาค
ปัจจุบันมีสถานีชาร์จไฟฟ้าของ กฟผ. และพันธมิตรบนเครือข่าย EleXA เปิดให้บริการแล้ว 80 แห่งทั่วประเทศ และกำลังเพิ่มจำนวนสถานีให้มีมากกว่า 100 แห่งภายในสิ้นปีนี้ เพื่อรองรับเทรนด์อีวีที่คาดว่าจะคึกคักมากขึ้นอีกในปีหน้า โดยมีแอปพลิเคชัน EleXA ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้รถอีวี ตั้งแต่การค้นหาและใช้ระบบนำทางพาไปยังสถานีชาร์จ ตรวจสอบสถานะความพร้อมและจองใช้งานสถานี รวมถึงชำระเงินและอีกหลายฟังก์ชั่นที่ช่วยให้การใช้รถอีวีเป็นเรื่องง่ายในชีวิตยุคใหม่ รวมทั้ง กฟผ. ได้ร่วมกับ Charging Operator อีก 4 Platform แสดงผลสถานะสถานีแบบ Real-Time ร่วมกัน และเพื่อตอกย้ำความมั่นใจนำไปสู่การปรับพฤติกรรมและกล้าเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์แห่งอนาคต กฟผ. จึงได้คิกออฟกิจกรรม “EV GO ทริปปิดดีล” ภายใต้แคมเปญ “ทราบแล้วเปลี่ยน” ของกระทรวงพลังงาน เพื่อชวนคนไทยที่สนใจได้สัมผัสประสบการณ์และคุ้นเคยกับไลฟ์สไตล์ใหม่เรียนรู้การออกแบบเส้นทาง ทดลองขับขี่รถอีวีอย่างชาญฉลาดและปลอดภัย รวมถึงได้ทดลองใช้ Mobile Application และสถานีชาร์จไฟฟ้าใน 4 เส้นทาง ได้แก่ หัวหิน สัตหีบ เขื่อนศรีนครินทร์ และเขาใหญ่ นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมทริปจะได้ทำกิจกรรม CSR สุดกรีน ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างสังคมคาร์บอนต่ำไปกับโครงการปลูกป่าล้านไร่อย่างมีส่วนร่วมของ กฟผ. เตรียมล้อหมุนกันได้ในช่วงวันที่ 21 พ.ย. ถึง 2 ธ.ค. 2565 นี้”
ผู้สนใจร่วมกิจกรรม “EV GO ทริปปิดดีล” ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง Facebook กฟผ.การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และสมัครได้ที่ www.egatevgo.com ตั้งแต่วันนี้ ถึง 15 พ.ย.2565 รีบสมัครด่วน รับจำนวนจำกัด”