New Mitsubishi Xpander HEV และ Xpander Cross HEV รถยนต์อเนกประสงค์ครอบครัวขนาดเล็ก 7 ที่นั่ง เป็นรถที่ผสานเอาจุดเด่นของ SUV และ Crossover เข้าไว้ด้วยกัน มาพร้อมแนวคิด E:Motion คือประสานเทคโนโลยีใหม่ 3 ประเด็น ได้แก่ HEV, 7 Drive Mode และ AYC (Active Yaw Control) แต่แฝงความเป็นรถเอสยูวีที่ใช้งานได้อเนกประสงค์ จะขับหล่อในวันทำงานหรือขับเท่พาคนรู้ใจไปเที่ยวในวันพิเศษ และจะขับดุ่ยๆ ลุยบนเส้นทางเรียบทางเดิร์ต (Dirt) ก็สบายใจ
หล่อเข้มสไตล์สปอร์ต
ตัวบอดี้ออกแบบตามหลักไดนามิค ชีลด์ เอกลักษณ์เฉพาะตัว Mitsubishi กระจังหน้าใหญ่ มาพร้อมสัญลักษณ์ HEV ไฟหน้า, ไฟส่องสว่าง Daytime Running Light, ไฟตัดหมอก ไฟท้าย พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED และติดตั้ง Automatic Headlight ระบบควบคุมการเปิด/ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ บนหลังคาเสริมเท่ด้วยราวหลังคาสีดำ, เสาอากาศทรงครีบปลาฉลาม
โฉบเฉี่ยวขึ้นกว่าเดิม ด้วยชุดแต่งกระจังหน้า, กันชนหน้า/หลัง, แผงข้างประตู และซุ้มล้อ ขณะที่ล้ออัลลอยลายใหม่แนวสปอร์ตทูโทนยางขนาด 205/55 R17
ห้องโดยสารฟีเจอร์ครบจัดเต็มทุกฟังก์ชัน
ห้องโดยสารสีทูโทน ดำ-บรอนซ์เงิน ออกแบบและตกแต่งในขั้นเนียบเพราะใช้วัสดุคุณภาพดี มาตรวัดดิจิทอล พวงมาลัยสามก้าน EPS แบบมัลติฟังค์ชัน สั่งการควบคุมเครื่องเสียง ครูสคอนโทรล ส่วนจอแสดงข้อมูลขับขี่แบบ LCD ขนาด 8 นิ้ว หน้าจอกลางคอนโซลระบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Bluetooth, Apple CarPlay และ Android Auto เชื่อมต่อทุกความบันเทิง ระบบปรับอากาศแบบดิจิทอลแยกส่วนหน้า/หลัง
กระจกมองหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ แถมยังมีเบรกมือไฟฟ้ามาให้ด้วย พร้อมระบบ Brake Auto Hold ช่วยให้ไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง ขณะจอดชั่วคราวหรือติดไฟแดง เพิ่มความสะดวกสบาย ด้วยช่องชาร์จกระแสไฟ ช่อง USB ทั้งด้านหน้า และหลัง
ขุมพลังไฮบริด เบนซิน 1.6 ลิตร ผสานมอเตอร์ขับเคลื่อนไฟฟ้า
ขุมพลังเบนซินใหม่แบบ 4 สูบ MIVEC DOHC 16 วาล์ว 1.6 ลิตร ให้กำลัง 95 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 14.0 กก.-ม. (134 นิวตันเมตร) พร้อมระบบวาล์วแปรผันด้านไอดี ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 116 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 22.9 กก.-ม. (255 นิวตันเมตร) ถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติที่พัฒนาขึ้นใหม่เพื่อรถ EV โดยเฉพาะ พร้อมโหมดขับขี่ 7 รูปแบบ โดยผู้ขับขี่สามารถเลือกใช้งานตามชอบสไตล์และสภาพของเส้นทาง (7 Drive Mode) ประกอบด้วยโหมด Charge, EV, Normal, Wet, Gravel, Tarmac และ Mud
เช่นเคยและเช่นเดิมกับระบบ AYC (Active Yaw Control) ช่วยและปรับสมดุลขณะเข้าโค้ง ระบบจะควบคุมการทำงานล้อด้านในโค้งกับล้อด้านนอกโค้งให้หมุนสัมพันธ์กัน เพื่อรักษาเสถียรภาพการเข้าโค้ง ระบบ AYC จะทำงานตั้งแต่ความเร็ว 15 กม./ชม.
ช่วงล่างแน่นอุ่นใจระบบความปลอดภัยครบครัน
ระบบช่วงล่างพัฒนาขึ้นมาใหม่ เพื่อให้ New Xpander HEV และ New Xpander Cross HEV ขับสนุกให้อามรณ์ขับแบบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ระบบรองรับด้านหน้าอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชันบีม ขณะที่ระบบเบรกปรับมาใช้ดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ ระยะความสูงใต้ท้องรถถูกลดลงจากเดิม 220 มม. มาเป็น 205 มม. เพื่อให้การยึดเกาะถนนหนึบแน่นมากขึ้น
ขณะที่ระบบความปลอดภัย มิตซูบิชิขึ้นชื่ออยู่แล้วว่า มีมาให้ครบทุกฟังก์ชัน ไล่เรียงตั้งแต่ ระบบเบรก ABS, ระบบช่วยเบรก BA, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control, ระบบกระจายแรงดันเบรก Eletric Brake Force, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Active Stability Control, ระบบล็อคประตูอัตโนมัติ Speed Sening Door Locking, กล้องมองภาพด้านหลัง Rear View Camera เป็นต้น
คุณสมบัติเด่น New Xpander HEV และ New Xpander Cross HEV
อย่างไรก็ตาม จากที่ขับทดสอบสมรรถนะมา 2 ครั้ง ทั้งในสนามออฟโรด และบนทางออนโรดแบบใช้งานจริง 3 New Xpander HEV และ New Xpander Cross HEV มีจุดเด่นของเทคโนโลยี 3 อย่างที่โดดใจ สรุปรวบยอดง่ายๆ คือ
1.ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด (HEV System) มอบการขับขี่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และน่าตื่นเต้นเร้าใจ ให้ความคล่องตัว ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจากระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด ได้รับการถ่ายทอดและพัฒนามาจากความสำเร็จของระบบรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEVs)
2.โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ (7 Drive Mode) ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับโหมดการขับขี่ได้ตามต้องการ ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ปลอดภัย มั่นใจได้ในทุกเส้นทาง ลุยได้ในทุกสภาพถนน
3.ระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) เทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส มอบการขับขี่ที่ปลอดภัยและมั่นใจ ควบคุมรถอย่างคล่องตัวโดยเฉพาะขณะเข้าโค้ง
New Mitsubishi Xpander HEV และ New Mitsubishi Cross HEV ราคาช่วงแนะนำ 912,000-946,000 บาท ตอนนี้ขยับขึ้นมาเป็น 933,000 บาท และ 946,000 บาท