27.9 C
Bangkok
Wednesday, December 25, 2024
musubishi900x192px_2024
Honda_900x192px 2024
มอเตอร์ไซค์​ honda
AD Banner_900x180
FORD900x192px_1
Mitsubishi_900x192px_2
previous arrow
next arrow

ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย ไตรมาส 2 ปี 2566 ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) รายงานดัชนีราคาที่อยู่อาศัยใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย ไตรมาส 2 ปี 2566 พบว่า ดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ฯ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ค่าดัชนีมีค่าเท่ากับ 129.7 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2566 ส่วนดัชนีราคาภาพรวมห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 2 ปี 2566  มีค่าดัชนีเท่ากับ 155.1 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสที่ผ่านมาติดต่อกัน 2 ไตรมาส ภาพรวมดัชนีราคาคอนโดฯเปิดขายใหม่ ปรับเพิ่มขึ้นสูงกว่าบ้านจัดสรร และเพิ่มขึ้นแรงต่อเนื่อง

ดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย (บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์)

ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์  เปิดเผยว่า ดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไตรมาส 2 ปี 2566 พบว่าค่าดัชนีมีค่าเท่ากับ 129.7 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) ที่มีค่าดัชนีเท่ากับ 127.3 และเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2566 (QoQ) พบว่า ดัชนีราคาบ้านจัดสรรก็มีการเพิ่มขึ้น ร้อยละ 1.1  ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าราคาบ้านจัดสรรในไตรมาส 2 ปี 2566 ได้มีการปรับราคาขึ้นจากปีที่แล้วและจากไตรมาสก่อนหน้า

ดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ที่เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เป็นโครงการใหม่ที่เปิดตัวในช่วงปี 2564-2565 มีต้นทุนค่าพัฒนาโครงการสูงขึ้นจากราคาวัสดุก่อสร้าง ค่าที่ดินและค่าแรงงานที่เพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับราคาสูงขึ้นตาม แต่ในไตรมาส 2 ปี 2566 พบว่าราคาบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการใช้กลยุทธ์โปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขายโดยการให้ของแถมมากที่สุด เช่น ฟรีแอร์ ปั๊มน้ำ แท้งก์น้ำ จัดสวน ปูหญ้า ฯลฯ โดยเมื่อแยกรายละเอียดพบว่า

ดัชนีราคาบ้านจัดสรรตามพื้นที่ กรุงเทพฯ มีค่าดัชนีเท่ากับ 127.9 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ขณะที่ 3 จังหวัดปริมณฑล (นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ) มีค่าดัชนีเท่ากับ 130.5 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0  เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) และ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 1.2 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) (ดูตารางที่ 1 และแผนภูมิที่ 1 – 3) โดยมีรายละเอียดดังนี้

ดัชนีราคาบ้านเดี่ยว ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไตรมาส 2 ปี 2566 มีค่าดัชนีเท่ากับ 129.1 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5

เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องกัน 4 ไตรมาส ตั้งแต่ ไตรมาส 3 ปี 2565 ถึงไตรมาส 2 ปี 2566 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ซึ่งเพิ่มสูงกว่าภาพรวมของบ้านจัดสรร ทั้งจากการเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยในพื้นที่กรุงเทพฯ มีค่าดัชนีเท่ากับ 126.5เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) และ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.6 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) พบว่า ไตรมาส 2 ปี 2566  บ้านเดี่ยวในกรุงเทพฯ มีการปรับตัวขึ้นอย่างชัดเจน ในพื้นที่ 3 จังหวัดปริมณฑล (นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ) มีค่าดัชนีเท่ากับ 130.1 เพิ่มขึ้น ร้อยละ 3.0 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) และ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ทั้งนี้ ได้พบการเปลี่ยนแปลงของราคาบ้านเดี่ยวที่มีการปรับตัวขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนต่อเนื่องกันถึง 5 ไตรมาสตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2565 ถึงไตรมาส 2 ปี 2566 (ดูตารางที่ 2 และแผนภูมิที่ 1 – 3)

ดัชนีราคาทาวน์เฮ้าส์ ในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล ไตรมาส 2 ปี 2566 มีค่าดัชนีเท่ากับ 129.9 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ทั้งนี้ พบการเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาเพิ่มขึ้นต่อเนื่องกัน 3 ไตรมาส ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2565 ถึงไตรมาส 2 ปี 2566 โดย กรุงเทพฯ มีค่าดัชนีเท่ากับ 128.8 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) แต่ลดลงร้อยละ -0.5 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตามราคาทาวน์เฮ้าส์ยังน่าจะเป็นทิศทางขาขึ้น เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงราคาเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนต่อเนื่องกัน 3 ไตรมาส ตั้งแต่ ไตรมาส 4 ปี 2565 ถึง ไตรมาส 2 ปี 2566 และในพื้นที่ 3 จังหวัดปริมณฑล (นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ) มีค่าดัชนีเท่ากับ 130.6 ลดลง ร้อยละ -1.7 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) แต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ทั้งนี้ดัชนีราคาทาวน์เฮ้าส์ได้สะท้อนว่าราคาโดยภาพรวมของทาวน์เฮ้าส์ยังคงต่ำกว่าปีก่อน แต่เริ่มเห็นการปรับเพิ่มของราคาทาวน์เฮ้าส์ในไตรมาส 2 ปี 2566 (ดูตารางที่ 3 และแผนภูมิที่ 1 – 3)

สำหรับรายการส่งเสริมการขายบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายในไตรมาสนี้ พบว่าร้อยละ 39.4 เป็นของแถมมากที่สุด เช่น ฟรีแอร์ ปั๊มน้ำ แท้งก์น้ำ มิเตอร์น้ำ มิเตอร์ไฟฟ้า จัดสวน ปูหญ้า และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 38.7  รองลงมาร้อยละ 37.8 ให้ฟรีค่าใช้จ่ายในวันโอนฯ ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 38.1 และร้อยละ 22.9 เป็นการให้ส่วนลดเงินสด ลดลงจากไตรมาสก่อนซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 23.2 (ดูแผนภูมิที่ 4)

ดัชนีราคาห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย 

สำหรับ ดัชนีราคาภาพรวมห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 2 ปี 2566  พบว่ามีค่าดัชนีเท่ากับ 155.1 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3  เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสที่ผ่านมาติดต่อกัน 2 ไตรมาส โดยมีข้อสังเกตว่าการปรับตัวของดัชนีราคาห้องชุดใหม่ได้มีทิศทางการปรับตัวขึ้นอย่างชัดเจนในพื้นที่จังหวัดกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นโครงการใหม่ที่ทยอยสร้างเสร็จในปี 2564 – 2565 ซึ่งมีต้นทุนค่าพัฒนาโครงการสูงขึ้นจากราคาวัสดุก่อสร้าง ค่าที่ดินและค่าแรงงานที่เพิ่มขึ้น จึงทำให้ต้องปรับราคาสูงขึ้นตาม เช่นเดียวกันกับบ้านจัดสรร ในขณะที่ดัชนีราคาห้องชุดในพื้นที่จังหวัดปริมณฑลยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องมา 3 ไตรมาสแล้ว ตั้งแต่ไตรมาส 4  ปี 2565 ถึง ไตรมาส 2 ปี 2566  ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการเก่าที่มีการเปิดขายมาก่อนปี 2564 เนื่องจากต้นทุนการผลิตยังคงต้นทุนเดิมที่ราคาวัสดุก่อสร้างยังไม่ปรับขึ้น ค่าแรงงานยังไม่ปรับตัวขึ้น และเกิดจากการการลดราคาเพื่อกระตุ้นยอดขายของผู้ประกอบการ

เมื่อแยกตามพื้นที่ พบว่า ดัชนีราคาห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย ในไตรมาส 2 ปี 2566 ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีค่าดัชนีเท่ากับ 158.4 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.1 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ซึ่งเพิ่มสูงกว่าภาพรวมของดัชนีห้องชุด และมีการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องกัน 2 ไตรมาส ตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2566 ถึง ไตรมาส 2 ปี 2566 ทั้งจากการเปรียบเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ 2 จังหวัดปริมณฑล (สมุทรปราการ และ นนทบุรี) มีค่าดัชนีเท่ากับ 141.1 จุด ลดลงร้อยละ -1.6 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) และลดลงร้อยละ -0.3 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) โดยเป็นการลดลงต่อเนื่องกัน 3 ไตรมาส ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2565 ถึง  ไตรมาส 2 ปี 2566 ทั้งจากการเปรียบเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (ดูตารางที่ 1 และ แผนภูมิที่ 1 – 2)

สำหรับรายการส่งเสริมการขายห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายในไตรมาสนี้พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 37.7 เป็นของแถม ซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่มีสัดส่วนร้อยละ 35.1 สำหรับรูปแบบการส่งเสริมการขาย รองลงมาเป็นการให้ส่วนลดเงินสด มีสัดส่วนร้อยละ 34.7 ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 39.9 และการให้ส่วนลดฟรีค่าใช้จ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์ มีสัดส่วนร้อยละ 27.5 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 25.0 (ดูแผนภูมิที่ 3)

วิธีการจัดทำข้อมูล

ดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย ประกอบด้วย  ดัชนีราคาบ้านเดี่ยว และดัชนีราคาทาวน์เฮ้าส์ในโครงการบ้านจัดสรรสร้างใหม่ที่ยังอยู่ระหว่างการขาย ซึ่งโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย หมายถึง โครงการที่มีมูลค่าราคาขายน้อยที่สุด โดยในการจัดทำดัชนีราคานี้จะไม่นับรวมบ้านมือสอง

พื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลรวบรวมข้อมูล กรุงเทพฯ และปริมณฑล ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ เพียง 4 จังหวัด 

การสุ่มตัวอย่างเพื่อการจัดทำดัชนีราคานี้ จะใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling) จำนวน 245 ตัวอย่าง โดยราคาขายที่นำมาจัดทำดัชนีราคานี้ เป็นราคาขายที่แท้จริง ซึ่งได้หักมูลค่ารายการส่งเสริมการขายออกจากราคาที่ประกาศขายแล้ว โดยใช้ราคาปี 2555 เป็นปีฐาน

ดัชนีราคาห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย หมายถึง ราคาห้องชุดในโครงการอาคารชุด ที่มีหน่วยเหลือขายตั้งแต่ 6 หน่วยขึ้นไป โดยในการจัดทำดัชนีราคานี้จะไม่นับรวมห้องชุดมือสอง

พื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลรวบรวมข้อมูล กรุงเทพฯ และปริมณฑล ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ เพียง 3 จังหวัด 

การสุ่มตัวอย่างเพื่อการจัดทำดัชนีราคานี้ จะใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling) จำนวน 150 ตัวอย่าง ราคาขายที่นำมาจัดทำเป็นดัชนีนี้ เป็นราคาขายที่แท้จริง ซึ่งได้หักลบมูลค่ารายการส่งเสริมการขายออกจากราคาที่ประกาศขายแล้ว โดยใช้ราคาปี 2555 เป็นปีฐาน

Related Articles

Stay Connected

269FansLike
2,760SubscribersSubscribe
- Advertisement -spot_img

Latest Articles