‘เนอวานา ไดอิ’ เผยรายได้รวมไตรมาสแรกปี 2565 เติบโต 47% เป็น 1,089 ล้านบาท จากตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวราบฟื้นตัวต่อเนื่อง หนุนยอด Backlog และส่วนกำไรเบ็ดเสร็จรวมพุ่งสูง 163% เป็น 161 ล้านบาท เป็นผลจากการขายที่ดินเพื่อการปรับโครงสร้างการใช้ประโยชน์ของสินทรัพย์
นายศรศักดิ์ สมวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) หรือ ‘NVD’ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาสแรก ปี 2565 ว่า บริษัทรับรู้รายได้รวมทั้งสิ้น 1,089 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และ 31% จากไตรมาสที่ผ่านมา ได้รับอานิสงค์จากยอด Backlog ที่แข็งแกร่ง ณ สิ้นปี 2564 จากสถานการณ์โควิดที่คลี่คลายและการฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวราบอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ รายได้ในไตรมาสแรกมาจาก 2 ส่วนงาน คือ 1) รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 1,021 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และ 2) รายได้จากสัญญาก่อสร้าง 68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่มาจากสัญญาก่อสร้างกับลูกค้าผู้พัฒนาอสังหารายอื่น
“ไตรมาส 1/2565 เป็นไตรมาสที่เนอวานามีรายได้สูงเป็นอันดับสาม เมื่อเทียบกับไตรมาสอื่นที่ผ่านมา เราโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินจำนวน 23 ไร่ บริเวณด้านใต้ของถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ โดยกระแสเงินสดจากการขายที่ดินครั้งนี้ จะนำไปซื้อที่ดินใหม่เพื่อพัฒนาโครงการให้เหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันมากกว่า ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้าง Backlog ใหม่ แต่ยังช่วยให้เนอวานา นำเสนอทางเลือกและรูปแบบที่อยู่อาศัยให้ผู้บริโภค ในทำเลศักยภาพสูงย่านกรุงเทพกรีฑาได้อย่างครบครัน”
ในไตรมาส 1/2565 เนอวานา รายงานกำไรเบ็ดเสร็จรวมจำนวน 161 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 163% จาก 61 ล้านบาท ในไตรมาส 1/2564 และลดลงจาก 500 ล้านบาท ในไตรมาส 4/2564 เป็นผลจากการ ขายที่ดิน และการปรับโครงสร้างการใช้ประโยชน์ของสินทรัพย์ ตามที่กล่าวมาข้างต้น
นายศรศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “เนอวานา ยังคงระมัดระวังในการทำธุรกิจ ถึงแม้ตลาดอสังหาแนวราบจะเริ่มฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังมีปัจจัยลบจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นและผลกระทบของสงครามรัสเซีย-ยูเครน เราจะหันมาให้ความสำคัญกับการปั้นแบรนด์ที่มีอยู่พร้อมทั้งเปิดตัวแบรนด์ใหม่ เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าและตลาดทุกเซกเมนต์”
โดยในปี 2565 เนอวานา มีแผนที่จะเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่จำนวน 7 โครงการ มูลค่ารวมทั้งสิ้น 11,000 ล้านบาท ในหลายทำเลของกรุงเทพได้แก่ กรุงเทพกรีฑา บางนา เอกมัย-รามอินทรา และรัตนาธิเบศร์พร้อมทั้งขยายโครงการ Nirvana ELEMENT บางนา เป็นโครงการบ้านเดี่ยวของบริษัทที่ขายดีที่สุดโครงการหนึ่งในย่านบางนาอีกด้วย
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนซื้อที่ดินแปลงใหม่เพื่อพัฒนาโครงการทาวน์โฮมระดับบน (High-end Townhome) เพื่อมารองรับโครงการ Nirvana DEFINE ศรีนครินทร์-พระราม 9 ที่คาดว่าจะปิดโครงการได้ภายใน 2-3 ไตรมาสข้างหน้า เนอวานา ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าอย่างต่อเนื่องในการบริหารสินทรัพย์พร้อมๆไปกับการเฟ้นหาที่ดินศักยภาพสูง เพื่อสร้างมูลค่าสูงสุดให้แก่บริษัท เพื่อการพัฒนาให้เกิดการเติบโตของรายได้และผลกำไรอย่างต่อเนื่อง