โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) เผยตัวเลขยอดจำหน่ายประจำเดือนพฤษภาคม 2024 ของรถยนต์ OMODA & JAECOO จำนวน 20,512 คันทั่วโลก เพิ่มขึ้น 12.8% จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ตอกย้ำความแข็งแกร่งของแบรนด์รถยนต์ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก โดย JAECOO 7 รถยนต์ออฟโรดระดับไฮเอนด์ทะลุเป้าหมายเติบโตกว่า 84.9% สะท้อนสปิริตแห่งการผจญภัยสุดขั้วของผู้ขับขี่
นอกจากนี้ Chery Group ยังทำยอดขายทะลุ 1.1 ล้านคัน ในครึ่งปีแรกของ 2024 ในเดือนมิถุนายนทำยอดขายไป 200,412 คัน พร้อมคว้ารางวัล 500 องค์กรของจีนที่เป็น “Brand Value” ที่ประเมินโดย Brand Finance ซึ่งพิจารณาจากดัชนีสัดส่วนมูลค่าแบรนด์ที่เกี่ยวข้องกับการรับรู้ด้านความยั่งยืน ประกอบกับประสิทธิภาพการบริหารจัดการขององค์กร ด้วยมูลค่ากว่า 53,689 ล้านหยวน สำหรับเบื้องหลังความสำเร็จในครั้งนี้มาจากการพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่งของแบรนด์ในตลาดที่มีศักยภาพ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง และการบริการหลังการขายผู้ขับขี่ทั่วโลก
ผู้นำรถยนต์แห่งอนาคตสู่เป้าหมายตลาดโลก
หลังจากการบุกตลาดและก่อสร้างโรงงานในยุโรปครั้งแรกที่ประเทศสเปน OMODA & JAECOO ยังคงขยายตลาดยุโรปอย่างต่อเนื่องด้วยการเข้าร่วมงาน Madrid Auto Show ในสเปน และ Turin Auto Show และ Naples Auto Show ในอิตาลี เพื่อโชว์สมรรถนะรถยนต์สุดล้ำระดับโลก ในฐานะแบรนด์ที่เกิดใหม่จากการขยายฐานการผลิตในยุโรปด้วยมาตรฐานการผลิตที่เข้มงวด แสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์การขึ้นแท่นเป็นแบรนด์ระดับโลก โดย OMODA & JAECOO มีแผนขยายไปยังอิตาลี โปแลนด์ และฮังการี
นอกจากภูมิภาคยุโรปที่ถือเป็นตลาดที่สำคัญสำหรับ OMODA & JAECOO ในเป้าหมายการขยายธุรกิจไปทั่วโลกแล้ว OMODA & JAECOO ยังได้รับการตอบรับอย่างดีโดยเฉพาะรถยนต์ JAECOO จากงาน Malaysia International Motor Show 2024 และในงานแถลงข่าวเปิดตัวแบรนด์ในตุรกีที่ได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญจากหลากหลายวงการมาร่วมเป็นสักขีพยานการเริ่มต้นยุคแห่งออฟโรดพลังงานใหม่ของ JAECOO
อย่างไรก็ตาม OMODA & JAECOO ยังมุ่งดำเนินการวิจัยและวางแผนอย่างละเอียดในทุก ๆ ตลาด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการวางกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ การขายและบริการ การรับประกัน รวมถึงการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมรองรับความต้องการของผู้ขับขี่ที่แตกต่างกัน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี โดยในอนาคต OMODA & JAECOO มุ่งมั่นในหลักการการพัฒนาระยะยาวอย่างยั่งยืน และแนวคิด “In somewhere, for somewhere” เพื่อการเติบโตไปด้วยกัน ผ่านการร่วมมือกับผู้ขับขี่ทั่วโลกเป็นผู้นำด้านยนตรกรรมในยุคใหม่
ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีคุณภาพระดับสากล
การเติบโตอย่างต่อเนื่องของแบรนด์มาจากจุดแข็งของผลิตภัณฑ์และความสามารถในการผลิตที่มีคุณภาพ OMODA & JAECOO จึงไม่หยุดพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐานสากลด้วย “เป้าหมายระดับโลก การวิจัยและพัฒนาระดับโลก และโรงงานผลิตระดับโลก – Global Vision, Global R&D, and Global Manufacturing” เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ที่หลากหลายทั่วโลก โดยแบรนด์ได้พัฒนาให้อยู่ระดับเดียวกับรถยนต์ระดับเฟิร์สคลาสจากนานาชาติ คุณภาพรถยนต์เป็นไปตามมาตรฐานสากลที่สามารถใช้ขับขี่ได้ในทุกภูมิภาคทั้งยุโรป อเมริกากลางและอเมริกาใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภูมิภาคอื่น ๆ
นอกจากนี้ OMODA & JAECOO มีศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงลึกตามความต้องการของผู้ใช้งานทั่วโลกซึ่งเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ยืดหยุ่นปรับตัวตามแต่ละพื้นที่ให้ได้มาตรฐานระดับสากล อย่างไรก็ตาม หลังจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ยังคงอัปเดตประสิทธิภาพรถยนต์อยู่เสมอทั้ง OMODA C5, OMODA E5, JAECOO J7 และ JAECOO J8 และผ่านการทดสอบบนท้องถนนจริง โดยเฉพาะ OMODA C5 ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาวจาก E-NCAP ของยุโรป และมาตรฐานความปลอดภัย A-NCAP 5 ดาว ของออสเตรเลีย ที่ถือเป็นการรับรองมาตรฐานด้านความปลอดภัยของรถยนต์ใหม่ระดับ 5 ดาวที่น่าเชื่อถือและเข้มงวดที่สุดสองรายการในโลก
ด้วยประสบการณ์การผลิตรถยนต์กว่า 20 ปีของ Chery Automobile บริษัทแม่และการสั่งสมองค์ความรู้ทางเทคนิคอย่างลึกซึ้ง OMODA & JAECOO จึงได้เปิดตัวเทคโนโลยีไฮบริดเจเนอเรชัน 3 ที่เน้นการพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ “ออฟโรด + พลังงานใหม่” ซึ่งรองรับการใช้งานในเครื่องยนต์ไฮบริด ระบบส่งกำลังไฮบริด และระบบจัดการแบตเตอรี่ไฮบริดโดยเฉพาะ เพื่อบรรลุการจัดการประสิทธิภาพความร้อนของเครื่องยนต์ (Thermal Efficiency) กำลังขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า (Electric Drive Power) และมาตรฐานความปลอดภัย ถือเป็นการปฏิวัติวงการยานยนต์พลังงานใหม่แบบออฟโรดโดยสิ้นเชิง OMODA & JAECOO ยังมุ่งเดินหน้ายกระดับผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ด้วยการใช้เทคโนโลยีไฮบริดเจเนอเรชัน 3 เป็นไปตามมาตรฐานของรถยนต์พลังงานใหม่ ที่ส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยรถยนต์คุณภาพสูงในตลาดยานยนต์ทั่วโลก
ในการขยายแบรนด์ในระดับโลก OMODA & JAECOO ยังคงเดินหน้าสร้างความมั่นใจและความแข็งแกร่งในคุณภาพรถยนต์ทุกคัน เพื่อแข่งขันในอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งในยุโรปและทั่วโลกได้ในยุคพลังงานใหม่ และเมื่อเรามองไปในอนาคต OMODA & JAECOO เชื่อว่าจะยังคงรักษาโมเมนตัมการพัฒนาที่รวดเร็วต่อไป ควบคู่กับการได้รับความชื่นชอบและยอมรับจากผู้ใช้งานมากขึ้นเรื่อย ๆ ต่อไป
ผู้ขับขี่ชาวไทย โอโมดา แอนด์ เจคู ได้เตรียมจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า 100% OMODA C5 EV และ JAECOO 6 EV รถยนต์ออฟโรดไฟฟ้าพรีเมียม ในไตรมาส 3 นี้ ตามมาด้วยรถยนต์ JAECOO 7 PHEV รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) จากแบรนด์ JAECOO พร้อมเตรียมเปิดศูนย์บริการมากกว่า 36 แห่ง ครอบคลุมทุกภูมิภาค ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ที่จะสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ขับขี่ในประเทศไทยอย่างเต็มที่ เพื่อส่งมอบบริการที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน และเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าทุกคน