“พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น” เครือ “ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้” สยายปีก Next Level เดินหน้าตั้งบริษัทใหม่ “แฮมป์ตัน โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนซ์” บุกธุรกิจรับจ้างบริหารโรงแรม-ที่อยู่อาศัยใน 5 หัวเมืองใหญ่ กรุงเทพฯ-พัทยา-หัวหิน-เชียงใหม่-ภูเก็ต ชูจุดแข็งประสบการณ์กว่า 20 ปี การบริการระดับ 5 ดาว ความเข้มแข็งเครือข่ายผู้เข้าพักตลาด Long-Stay และความสำเร็จจากการบริหารโรงแรมให้มีอัตราเข้าพักทะลุ 70% แม้ช่วง COVID-19 นำร่องรับบริหารอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน The Hampton Suites, Hampton Residence ก่อนขยายสู่กลุ่มโรงแรม ตั้งเป้าขึ้นแท่นท็อป 5 และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใน 5 ปี
นางสาวจตุพร วิไลแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร เปิดเผยว่า จากทิศทางของเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ที่มุ่งมั่นขยายการเติบโตภายใต้วิสัยทัศน์ ORIGIN NEXT LEVEL บริษัทในฐานะผู้ให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร จึงได้ต่อยอดงานด้านบริการและเตรียมจัดตั้งบริษัท แฮมป์ตัน โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนซ์ จำกัด (HAMPTON HOTEL & RESIDENCE) ขึ้น เพื่อก้าวเข้าสู่ธุรกิจรับจ้างบริหารโรงแรมและที่อยู่อาศัย (Hotel & Residence Management Operator) อย่างเต็มตัว ตั้งแต่ 1.การบริหารจัดการสินทรัพย์ (Asset Management) ช่วยบริหารจัดการผู้เช่าหรือผู้เข้าพัก สร้างรายได้หรือผลตอบแทนให้เป็นไปตามเป้าหมายของเจ้าของโรงแรมหรือที่พักอาศัย (Owner) 2.การร่วมวางแผนตกแต่ง จัดหาบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้เช่าหรือผู้เข้าพัก เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้แก่ผู้เข้าพัก
“ในไทยยังไม่ค่อยมี Operator สัญชาติไทย การเข้าถึง Operator ชั้นนำจากต่างประเทศ ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่มากสำหรับเจ้าของโรงแรม หรือ Owner หลายๆ ราย เราจึงจะเป็น Operator สัญชาติไทยที่ให้บริการด้วยมาตรฐานการบริการระดับสากล ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย เพื่อเข้าไปให้บริการในตลาดที่ยังมีช่องว่างอยู่ เน้นเจาะตลาดโรงแรมและที่อยู่อาศัยใน 5 หัวเมืองสำคัญ ได้แก่ กรุงเทพฯ พัทยา หัวหิน เชียงใหม่ ภูเก็ต”
ทั้งนี้ บริษัทมีความแข็งแกร่ง 4 ด้านในการดำเนินธุรกิจดังกล่าว ได้แก่ 1.ประสบการณ์ของทีมงาน รวบรวมผู้บริหารและผู้มีประสบการณ์คลุกคลีในการบริหารจัดการดูแลธุรกิจโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์มายาวนานกว่า 20 ปี รวมถึงประสบการณ์บริหารโรงแรมสเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก ทองหล่อ (Staybridge Suites Bangkok Thonglor) ให้ยังมีอัตราเข้าพัก (Occupancy Rate) สูงถึง 70% เมื่อต้นปีที่ผ่านมา แม้ยังมีสถานการณ์คาบเกี่ยวกับผลกระทบจาก COVID-19 2.มาตรฐานการให้บริการ ใส่ใจเรื่องความปลอดภัย และการดูแลแบบอเนกประสงค์ มาตรฐานโรงแรม 5 ดาว มีบริการครบถ้วนสำหรับผู้เข้าพักระยะยาว (Long-Stay) เพียงขนกระเป๋ามา สามารถเข้าอยู่กับสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจร 3.ฐานข้อมูลลูกค้า มีเครือข่ายลูกค้ากลุ่ม Long-Stay แข็งแกร่ง ทั้งกลุ่มสถานทูต กลุ่มภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม โดยเฉพาะตลาดชาวญี่ปุ่น อาทิ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ กลุ่มอุตสาหกรรมขุดเจาะน้ำมัน-ก๊าซธรรมชาติ 4.การส่งต่อลูกค้า เป็นพันธมิตรกับกลุ่มบริษัทต่างชาติและบริษัทจัดหาที่พักสำหรับชาวต่างชาติ (Relocation Agent) เพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งต่อลูกค้าไปยังพื้นที่ต่างๆ
นางสาวจตุพร กล่าวว่า สำหรับระยะแรก บริษัทจะเข้ารับบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน (Investment Property) ภายใต้แบรนด์แฮมป์ตัน (Hampton) ก่อนเป็นกลุ่มแรก เนื่องจากเป็นตลาดที่ยังเติบโตสูง สังเกตได้จากโครงการ แฮมป์ตัน ศรีราชา (Hampton Sriracha) ที่มียอดขายสะสมแล้วกว่า 90% และเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ยังมีแผนการพัฒนาโครงการกลุ่ม Investment Property อย่างต่อเนื่อง เบื้องต้น บริษัทได้เข้าไปช่วยบริหารใน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการ เดอะ แฮมป์ตัน สวีท (THE HAMPTON SUITES) ศรีราชา และระยอง บนทำเลศักยภาพ EEC โดยบริษัทจะเข้าไปช่วยทั้งการจัดหาผู้เช่าให้แก่นักลงทุนที่ไม่มีเวลาปล่อยเช่า และอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตให้แก่ผู้เช่าในรูปแบบเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ ผสมผสานที่พักอาศัยรูปแบบและการให้บริการแบบโรงแรม (Residence Plus Hotel) และล่าสุด เตรียมเข้าไปบริหารโครงการแฮมป์ตัน เรสซิเดนซ์ เน็กซ์ ทู เอ็มโพเรียม (HAMPTON RESIDENCE NEXT TO EMPORIUM) ทำเลใจกลางสุขุมวิท พร้อมรับผลตอบแทนต่อเนื่อง นานสูงสุด 20 ปี ซึ่งกำลังจะเปิดให้จองยูนิตลงทุนออนไลน์ ทาง https://evenprop.com/hampton ภายในเดือน ส.ค.นี้
ขณะเดียวกัน บริษัทเตรียมรับบริหารโรงแรมใน pipeline ของบริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด ในเครือออริจิ้นอีก 11 โครงการ มูลค่ากว่า 25,000 ล้านบาท ตั้งเป้าบริหารโรงแรมนอกเครืออีก 30 แห่ง และส่งแฮมป์ตัน โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนซ์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายใน 5 ปีข้างหน้า
“5 ทำเลเป้าหมายสำคัญของเรา ยังเป็นที่ต้องการอย่างแข็งแกร่งของตลาด Business Long-Stay และเมื่อสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย ตลาดกลุ่มพักผ่อนหย่อนใจระยะยาว หรือ Leisure Long-Stay จะเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญด้วย โดยเฉพาะกลุ่มผู้เข้าพักจากประเทศจีน ธุรกิจ Operator จึงจะยิ่งมีความสำคัญในการรองรับความต้องการในอนาคต” นางสาวจตุพร กล่าว