บูฟอร์ด, จอร์เจีย และสิงคโปร์ : พีอาร์ที ออโตพาร์ท (PRT) แบรนด์ในเครือเอดีดี กรุ๊ป (ADD Group) ที่เป็นผู้ส่งออกชิ้นส่วนสตรัทครบชุดรายใหญ่อันดับต้น ๆ ของโลก ประกาศว่าตนเป็นเจ้าแรกในตลาดเอเชียสำหรับส่วนประกอบรถรุ่นเอสยูวีที่สำคัญกว่า 380,000 คัน
ผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่นี้ครอบคลุมถึงรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์-วี 2019-2022 (Honda CR-V 2019-2022) ทั้งตำแหน่งหน้าขวาและหน้าซ้าย รวมถึงฮอนด้ารุ่นอีเอ็กซ์ (EX), อีเอ็กซ์-แอล (EX-L), แอลเอ็กซ์ (LX) และทัวริง (Touring) นอกจากนี้ ส่วนประกอบชุดใหม่นี้ยังครอบคลุมถึงชิ้นส่วนหน้าขวาและหน้าซ้ายของรถจี๊ป เชอโรกี (Jeep Cherokee) และเข้ากันได้กับรุ่นลิมิเต็ด (Limited), โอเวอร์แลนด์ (Overland), อัลติจูด (Altitude) และอื่น ๆ อีกมากมาย
อนึ่ง พีอาร์ทีได้จัดทำคลิปวิดีโอ 2 รายการเพื่อช่วยลูกค้าในการติดตั้ง ดังนี้
ฮอนด้า ซีอาร์-วี 2019-2022: https://youtu.be/m3kysNixyjM
จี๊ป เชอโรกี 2019-2022: https://youtu.be/mdNUeriRrTo
ประหยัดเวลาและเพิ่มสมรรถนะด้วย ชิ้นส่วนสตรัทครบชุดของพีอาร์ที
พีอาร์ทีออกแบบชิ้นส่วนสตรัทครบชุดมาเพื่อใช้เป็นอะไหล่แทนสตรัทกันสะเทือนแบบเดิมในโซลูชันแบบประกอบล่วงหน้า ซึ่งช่วยประหยัดเวลาในการซ่อมได้มากถึง 50% เมื่อเทียบกับการเปลี่ยนสตรัทแบบเดิม โดยอุปกรณ์ประกอบสตรัทดังกล่าวผลิตขึ้นโดยพีอาร์ทีภายใต้กระบวนการตรวจสอบคุณภาพตามมาตรฐานโออี (OE) ที่เข้มงวดที่สุดซึ่งกำหนดโดยเหล่าผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำ รวมถึงส่วนประกอบคุณภาพระดับ OEM โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้รถกลับมามีสมรรถนะตามเดิม
นอกจากนี้ พีอาร์ทียังออกแบบโช้คอัพและสตรัทมาเป็นพิเศษเพื่อให้ทำงานได้ในทุกสภาพอากาศเพื่อการขับขี่ที่มั่นคง ทนทาน พร้อมด้วยการทำงานของรถที่นุ่มนวลขึ้น โดยพีอาร์ทีอัดไนโตรเจนในโช้คอัพและสตรัทแต่ละตัวเพื่อกำจัดฟองอากาศ อันเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่และการควบคุมรถ ส่วนท่อคู่ของพีอาร์ทีก็ออกแบบมาโดยอัดก๊าซไนโตรเจนด้วยเช่นกันเพื่อให้สตรัทเย็นลงและป้องกันอาการแปลก ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับรถ เพื่อยืดอายุการใช้งาน
การลงทุนต่อเนื่อง
คุณบรูโน เบลโล (Bruno Bello) ผู้อำนวยการกลุ่มผลิตภัณฑ์และการตลาดระดับโลกของพีอาร์ที อธิบายว่า “ผลิตภัณฑ์ที่เราเป็นเจ้าแรกในตลาดเหล่านี้ถือเป็นเครื่องตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราในการนำเสนอโซลูชันแห่งนวัตกรรมแก่ลูกค้าทุกท่าน โดยเราในฐานะซัพพลายเออร์ OEM กำลังลงทุนอย่างต่อเนื่องในด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับทั้งตลาดโออีและตลาดอะไหล่ทดแทน”
