ปตท. มุ่งช่วยค่าพลังงานประชาชนต่อเนื่อง เคาะให้ส่วนลดราคาจำหน่ายก๊าซ NGV รอบใหม่ พร้อมเปิดขยายการช่วยเหลือให้แก่กลุ่มรถแท็กซี่ และกลุ่มรถโดยสารสาธารณะทั่วประเทศ จะมีผลตั้งแต่ 16 มิถุนายน 2566 ถึงสิ้นปี 2566 รวมวงเงินการช่วยเหลือตลอดปี 2566 กว่า 6,000 ล้านบาท โดยราคานี้เมื่อเปรียบเทียบกับเชื้อเพลิง LPG และดีเซลที่ค่าความร้อนเดียวกัน ก๊าซ NGV จะถูกกว่าถึง 24% และ 44% ตามลำดับ
ม.ล. ปีกทอง ทองใหญ่ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ปตท. เมื่อ 26 พฤษภาคม 2566 มีมติเห็นชอบให้ส่วนลดราคาก๊าซ NGV สำหรับกลุ่มรถแท็กซี่และกลุ่มรถโดยสารสาธารณะทั่วประเทศ โดยจำหน่ายราคา 14.62 บาท/กิโลกรัม และ 18.59 บาท/กิโลกรัม ตามลำดับ ซึ่งถือเป็นส่วนลดราคา NGV ณ เดือนมิถุนายน 2566 สำหรับกลุ่มแท็กซี่ที่ประมาณ 5.52 บาท/กิโลกรัม และส่วนลดรถโดยสารสาธารณะประมาณ 1.55 บาท/กิโลกรัม จากราคาขายปลีก NGV ตามโครงสร้างที่ภาครัฐกำหนดประมาณการเฉลี่ยที่ 20.14 บาท/กิโลกรัม โดยการช่วยเหลือกลุ่มรถโดยสารสาธารณะทั่วประเทศจะมีผลตั้งแต่ 16 มิถุนายน 2566 จนถึงสิ้นปี 2566 รวมวงเงินการช่วยเหลือตลอดปี 2566 กว่า 6,000 ล้านบาท โดยราคานี้เมื่อเปรียบเทียบกับเชื้อเพลิง LPG และดีเซลที่ค่าความร้อนเดียวกัน ก๊าซ NGV จะถูกกว่าถึง 24% และ 44% ตามลำดับ
ทั้งนี้ ปตท. มุ่งหวังว่าการช่วยเหลือในครั้งนี้ จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าพลังงานแก่กลุ่มรถโดยสารสาธารณะ ได้แก่ กลุ่มรถแท็กซี่ NGV และรถโดยสารสาธารณะ NGV ทั่วประเทศให้ได้รับสิทธิประโยชน์นี้ พร้อมเปิดขยายการช่วยเหลือกลุ่มรถแท็กซี่และกลุ่มรถโดยสารสาธารณะทั่วประเทศ โดยผู้ขอรับสิทธิ์ประเภทบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล สามารถลงทะเบียนออนไลน์ ตั้งแต่ 23 มิถุนายน-6 สิงหาคม 2566 และกรณีบุคคลธรรมดา ขอให้ยืนยันตัวตนเพิ่มเติมที่ศูนย์การค้าเซียร์ รังสิต จ.ปทุมธานี ระหว่าง 5 กรกฎาคม-15 สิงหาคม 2566 โดยสามารถติดตามรายละเอียดการรับสมัครเพิ่มเติมได้ที่ Line OA : PTT NGV เพื่อรับสิทธิ์ส่วนลดที่สถานีบริการ NGV ปตท. ที่ร่วมรายการทั่วประเทศ
ปตท. ในฐานะบริษัทพลังงานแห่งชาติ ยึดมั่นพันธกิจสร้างความมั่นคงทางพลังงาน พร้อมเป็นแรงสำคัญขับเคลื่อนอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของประเทศให้เดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2563 ถึงปัจจุบัน ได้ใช้งบประมาณกว่า 20,000 ล้านบาท เพื่อบรรเทาผลกระทบของภาคประชาชนจากวิกฤตโควิด-19 และสงครามรัสเซีย-ยูเครน อาทิ การสำรองน้ำมันเพื่อป้องกันการขาดแคลนในภาวะวิกฤติ การตรึงราคา NGV การช่วยเหลือราคา LPG แก่หาบเร่แผงลอยผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การสนับสนุนเงินเข้ากองทุนน้ำมัน และการขยายเทอมการชำระเงินแก่ กฟผ. เพื่อลดภาระค่า FT เป็นต้น