ภาพรวมตลาดรถยนต์เดือนเมษายน 2568 มีปริมาณยอดขาย 47,193 คัน เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ถือเป็นครั้งแรกที่มีสิถิติขายเพิ่มขึ้นในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งจำหน่ายเพิ่มขึ้น 3.6% ขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ยังคงลดลงที่ 0.6% คาดตลาดรถยนต์เดือนพฤษภาคม 2568 มีแนวโน้มดีขึ้น จากที่ได้รับอนิงส์จากงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46” ซึ่ง “โตโยต้า” มียอดจองภายในงานมากกว่า 9,600 คัน และได้ทยอยส่งมอบให้ลูกแล้วกว่า 7,600 คัน ในเดือนเมษยน 2568 ที่ผ่านมา
นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนเมษายน 2568 ยอดขายตลาดรวม 47,193 คัน เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขาย 17,917 คัน เพิ่มขึ้น 3.6% ในขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีปริมาณการขาย 29,276 คัน ลดลง 0.6% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขายทั้งหมด 13,896 คัน ลดลง 21.4%

ตลาดรถยนต์เดือนเมษายน 2568 มียอดขาย 47,193 คัน เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว กลุ่มตลาดรถยนต์นั่งปรับตัวดีขึ้น ด้วยยอดขาย 17,917 คัน เพิ่มขึ้น 3.6% จากปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ชะลอตัวลงเล็กน้อย ยอดขาย 29,276 คัน ลดลง 0.6% และตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขาย 13,896 คัน ลดลง 21.4% ในส่วนของตลาด xEV มียอดขายทั้งหมด 21,897 คัน คิดเป็นสัดส่วน 46.4% ของตลาดรถยนต์ทั้งหมด เติบโตขึ้น 43.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ยอดขายรถยนต์ HEV ลดลงที่ 13.4% ด้วยยอดขาย 8,892 คัน และยอดขายรถยนต์ BEV อยู่ที่ 11,280 คัน เพิ่มขึ้น 163.4%
ตลาดรถยนต์เดือนพฤษภาคม 2568 มีแนวโน้มจะปรับตัวดีขึ้นจากเดือนเมษายน ด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล และการทยอยส่งมอบรถยนต์จากช่วงงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46” ซึ่งโตโยต้าเองมียอดจองภายในงานมอเตอร์โชว์ มากกว่า 9,600 คัน โดยโตโยต้าได้ส่งมอบรถ สู่ลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลแล้วกว่า 7,600 คัน ในเดือนเมษยนที่ผ่านมา
“นอกจากนี้ โตโยต้าต้องขอขอบคุณภาครัฐสำหรับมาตรการที่จะช่วยกระตุ้นตลาดรถยนต์ เช่น โครงการสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย โดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ภายใต้โครงการค้ำประกันสินเชื่อเช่าซื้อ “บสย. SMEs PICK-UP” “กระบะพี่มีคลังค้ำ” ที่อาจมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการตัดสินใจซื้อเพื่อลงทุนในธุรกิจ” นายศุภกร กล่าวในที่สุด
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนเมษายน 2568
1.ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 47,193 คัน เพิ่มขึ้น 1%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 17,900 คัน ลดลง 7.8% ส่วนแบ่งตลาด 37.9%
อันดับที่ 2 บีวายดี 6,554 คัน เพิ่มขึ้น 630.7% ส่วนแบ่งตลาด 13.9%
อันดับที่ 3 อีซูซุ 5,616 คัน ลดลง 18.1% ส่วนแบ่งตลาด 11.9%
2.ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 17,917 คัน เพิ่มขึ้น 3.6%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 6,351 คัน เพิ่มขึ้น 15.5% ส่วนแบ่งตลาด 35.4%
อันดับที่ 2 บีวายดี 2,797 คัน เพิ่มขึ้น 311.3% ส่วนแบ่งตลาด 15.6%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 2,012 คัน ลดลง 41.5% ส่วนแบ่งตลาด 11.2%
3.ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 29,276 คัน ลดลง 0.6%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 11,549 คัน ลดลง 17% ส่วนแบ่งตลาด 39.4%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 5,616 คัน ลดลง 18.1% ส่วนแบ่งตลาด19.2%
อันดับที่ 3 บีวายดี 3,757 คัน เพิ่มขึ้น 1,631.3% ส่วนแบ่งตลาด12.8%
4.ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)
ปริมาณการขาย 13,896 คัน ลดลง 21.4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 6,410 คัน ลดลง 25.9% ส่วนแบ่งตลาด 46.1%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 4,865 คัน ลดลง 20.1% ส่วนแบ่งตลาด 35%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 1,622 คัน ลดลง 19.5% ส่วนแบ่งตลาด 11.7%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 2,879 คัน
โตโยต้า 1,190 คัน -– อีซูซุ 885 คัน -– ฟอร์ด 606 คัน – มิตซูบิชิ 164 คัน – นิสสัน 34 คัน
5.ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 11,017 คัน ลดลง 21.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 5,220 คัน ลดลง 28.6% ส่วนแบ่งตลาด 47.4%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 3,980 คัน ลดลง 21.1% ส่วนแบ่งตลาด 36.1%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 1,016 คัน เพิ่มขึ้น 1.3% ส่วนแบ่งตลาด 9.2%
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – เมษายน 2568
1.ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 200,386 คัน ลดลง 4.8%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 75,583 คัน ลดลง 3.4% ส่วนแบ่งตลาด 37.7%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 25,905 คัน ลดลง 17.2% ส่วนแบ่งตลาด 12.9%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 24,725 คัน ลดลง 19.8% ส่วนแบ่งตลาด 12.3%
2.ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 76,151 คัน ลดลง 8.1%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 25,976 คัน เพิ่มขึ้น 17.4% ส่วนแบ่งตลาด 34.1%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 12,896 คัน ลดลง 26.9% ส่วนแบ่งตลาด 16.9%
อันดับที่ 3 บีวายดี 6,965 คัน ลดลง 19.5% ส่วนแบ่งตลาด 9.1%
3.ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 124,235 คัน ลดลง 2.6%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 49,607 คัน ลดลง 11.6% ส่วนแบ่งตลาด 39.9%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 25,905 คัน ลดลง 17.2% ส่วนแบ่งตลาด 20.9%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 11,829 คัน ลดลง 10.4% ส่วนแบ่งตลาด 9.5%
4.ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)
ปริมาณการขาย 63,758 คัน ลดลง 14%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 28,479 คัน ลดลง 16% ส่วนแบ่งตลาด 44.7%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 22,899 คัน ลดลง 16.9% ส่วนแบ่งตลาด 35.9%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 6,556 คัน ลดลง 17.5% ส่วนแบ่งตลาด 10.3%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 12,266 คัน
โตโยต้า 4,735 คัน – อีซูซุ 4,299 คัน – ฟอร์ด 2,442 คัน – มิตซูบิชิ 646 คัน – นิสสัน 144 คัน
5.ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 51,492 คัน ลดลง 15.1%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 23,744 คัน ลดลง 17.9% ส่วนแบ่งตลาด 46.1%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 18,600 คัน ลดลง 20.4% ส่วนแบ่งตลาด 36.1%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 4,114 คัน ลดลง 14.2% ส่วนแบ่งตลาด 8%