25.8 C
Bangkok
Thursday, December 5, 2024
Mitsubishi
มอเตอร์ไซค์​ honda
AD Banner_900x180
FORD900x192px_1
Honda_900x192px 2024
previous arrow
next arrow

ตลาดรถยนต์ไตรมาสแรกแผ่ว ยอดขายรวม 1.6 แสนคัน ลดลง 24.6%

ภาพรวมตลาดรถยนต์เมืองไทยเดือนมีนาคม 2567 ด้วยยอดขาย 56,099 คัน ลดลง 29.8% ซึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจชะลอตัว แถมไฟแนนซ์เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ส่งผลให้ภาพรวมสถิติยอดขายสะสมไตรมาสแรกของปี 2567 ด้วยปริมาณการขาย 163,756 คัน ลดลง 24.6% คาดการณ์เริ่มไตรมาส 2 เดือนเมษายน นี้ มีแนวโน้มยอดขายที่สดใส เนื่องจากได้รับอานิงส์จากการเปิดรถยนต์รุ่นใหม่ พร้อมแคมเปญกระตุ้นการขาย และการจัดงานใหญ่ Bangkok International Motor Show 2024

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนมีนาคม 2567 ด้วยยอดขาย 56,099 คัน ลดลง 29.8% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 22,342 คัน ลดลง 25.1% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 33,757 คัน ลดลง 32.6% และรถกระบะขนาด 1 ตัน มียอดขายที่ 19,648 คัน ลดลง 45.5%

              ตลาดรถยนต์เดือนมีนาคม 2567 มีปริมาณการขาย 56,099 คัน ลดลง 29.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ยอดขายที่ลดลง เป็นผลมาจากการชะลอตัวอย่างต่อเนื่องของภาคเศรษฐกิจโดยรวม ส่งผลให้กำลังซื้อยังคงจำกัด และควบคู่ไปกับความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ทั้งนี้ ตลาดรถยนต์นั่ง มีอัตราการเติบโตลดลงที่ 25.1% และตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ มีอัตราการเติบโตลดลงที่ 32.6% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

ในขณะเดียวกัน HEV มียอดขาย 12,689 คัน เพิ่มขึ้น 68.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ดันตลาด xEV เดือนมีนาคมเติบโตขึ้น 19.5% ในส่วนของ BEV ยอดขายเดือนมีนาคมอยู่ที่ 5,167 คัน เติบโตลดลง 25.6% และ PHEV ยอดขาย 897 คัน เติบโตลดลง 27.1%

              ตลาดรถยนต์ในเดือนเมษายน 2567 มีแนวโน้มที่จะดีขึ้น เนื่องจากกระแสการท่องเที่ยวในประเทศมีแนวโน้มดีขึ้น จากช่วงเทศกาลสงกรานต์ สามารถเพิ่มเม็ดเงินหมุนเวียนภายในประเทศ และถือเป็นหนึ่งในปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจในภาพรวม และรวมถึงการเริ่มส่งมอบรถยนต์ใหม่ที่จองในงาน บางกอก มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 เป็นปัจจัยบวกและเริ่มส่งผลดีต่อตลาดรถยนต์

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมีนาคม 2567

1.ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 56,099 คัน ลดลง 29.8%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 21,582 คัน ลดลง 16.1% ส่วนแบ่งตลาด 38.5%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 8,861 คัน ลดลง 48.3% ส่วนแบ่งตลาด 15.8%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า 8,219 คัน ลดลง 19.3% ส่วนแบ่งตลาด 14.7%

2.ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 22,342 คัน ลดลง 25.1%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 6,606 คัน ลดลง 33.6% ส่วนแบ่งตลาด 29.6%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า  4,869 คัน ลดลง 31% ส่วนแบ่งตลาด 21.8%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 2,039 คัน เพิ่มขึ้น 14% ส่วนแบ่งตลาด 9.1%

3.ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 33,757 คัน ลดลง 32.6%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 14,976 คัน ลดลง 5% ส่วนแบ่งตลาด 44.4%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 8,861 คัน ลดลง 48.3% ส่วนแบ่งตลาด 26.2%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า 3,350 คัน เพิ่มขึ้น 7% ส่วนแบ่งตลาด 9.9%

5.ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 19,648 คัน ลดลง 45.5%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 8,629 คัน ลดลง 34.1% ส่วนแบ่งตลาด 43.9%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 7,865 คัน ลดลง 50.4% ส่วนแบ่งตลาด 40%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด 1,744 คัน ลดลง 57.2% ส่วนแบ่งตลาด 8.9%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 3,436 คัน

โตโยต้า 1,262 คัน – อีซูซุ 1,160 คัน –ฟอร์ด 682 คัน –มิตซูบิชิ 298 คัน – นิสสัน 34 คัน

6.ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 16,212 คัน ลดลง 45.3%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 7,367 คัน ลดลง 31.5% ส่วนแบ่งตลาด 45.4%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 6,705 คัน ลดลง 50.4% ส่วนแบ่งตลาด 41.4%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด 1,062 คัน ลดลง 63.3% ส่วนแบ่งตลาด  6.6%

สถิติการจำหน่ายรถยนต์เดือนมกราคม – มีนาคม 2567

1.ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 163,756 คัน ลดลง 24.6%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 58,810 คัน ลดลง 21.7% ส่วนแบ่งตลาด 35.9%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า  25,104 คัน ลดลง 3.3% ส่วนแบ่งตลาด 15.3%

อันดับที่ 3 อีซูซุ 24,444 คัน ลดลง 48.2% ส่วนแบ่งตลาด 14.9%

2.ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 65,615 คัน ลดลง 15.4%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 16,631 คัน ลดลง 40.8% ส่วนแบ่งตลาด 25.3%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า 14,198 คัน ลดลง 20.2% ส่วนแบ่งตลาด 21.6%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 4,954 คัน ลดลง 5.1% ส่วนแบ่งตลาด 7.6%

3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 98,141 คัน ลดลง 29.7%      

อันดับที่ 1 โตโยต้า 42,179 คัน ลดลง 10.3% ส่วนแบ่งตลาด 43%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 24,444 คัน ลดลง 48.2% ส่วนแบ่งตลาด 24.9%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า 10,906 คัน เพิ่มขึ้น 33.4% ส่วนแบ่งตลาด 11.1%

4.ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 56,425 คัน ลดลง 44.4%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 25,248 คัน ลดลง 35.7% ส่วนแบ่งตลาด 44.7%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 21,481 คัน ลดลง 50.6% ส่วนแบ่งตลาด 38.1%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด 5,931 คัน ลดลง 46.3% ส่วนแบ่งตลาด 10.5%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 9,814 คัน

โตโยต้า 3,648 คัน – อีซูซุ 3,168 คัน – ฟอร์ด  2,139 คัน – มิตซูบิชิ 732 คัน – นิสสัน 127 คัน

5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 46,611 คัน ลดลง 44%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 21,600 คัน ลดลง 33.6% ส่วนแบ่งตลาด 46.3%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 18,313 คัน ลดลง 50.9% ส่วนแบ่งตลาด 39.3%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด 3,792 คัน ลดลง 49.3% ส่วนแบ่งตลาด 8.1%

Related Articles

Stay Connected

269FansLike
2,760SubscribersSubscribe
- Advertisement -spot_img

Latest Articles