ตลาดรถยนต์เมืองไทยประจำเดือนสิงหาคมโต 2565 ฮอตฮิต! เติบโตทะลุ 60% ในทุกตลาด ทำยอดจำหน่ายรวม 68,208 คัน เติบโต 61.7% โดยเฉพาะเก๋งไซส์เล็กที่ให้ความคล่องตัวและประหยัดน้ำมันขายดิบขายดี ทั้งนี้ ได้รับปัจจัยบวกจากค่ายรถทยอยเปิดรถรุ่นใหม่ พร้อมจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย แม้สถานการณ์ราคาน้ำมันจะแพงก็ตาม
นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนสิงหาคม 2565 เติบโตทะลุ 60% ทุกตลาดโดยมีตัวเลขการขายรวมทั้งสิ้น 68,208 คัน เพิ่มขึ้น 61.7% ประกอบด้วยรถยนต์นั่ง 22,530 คัน เพิ่มขึ้น 62.7% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 45,678 คัน เพิ่มขึ้น 61.2% และรถกระบะขนาด 1 ตันในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน 36,528 คัน เพิ่มขึ้น 67%
นายสุรศักดิ์ เปิดเผยว่า “ตลาดรถยนต์เดือนสิงหาคม มีปริมาณการขาย 68,208 คัน เพิ่มขึ้น 61.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 62.7% ส่วนตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเจริญเติบโตเช่นเดียวกันที่ 61.2% แม้จะอยู่ในช่วงกลางฤดูฝนซึ่งปกติเป็นช่วง Low Season แต่มีงานขายรถยนต์ที่สำคัญช่วงกลางปี BIG Motor Sales ช่วยกระตุ้นตลาด พร้อมด้วยการเปิดตัวรถยนต์รุ่นสำคัญภายในงาน และแคมเปญส่งเสริมการขายจากทุกค่ายรถยนต์ ที่นอกจากกระตุ้นยอดขายภายในงาน ยังขยายไปสู่ลูกค้าที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศอีกด้วย ช่วยสร้างความคึกคักให้กับตลาดรถยนต์ได้เป็นอย่างมาก สนับสนุนด้วยความต้องการเป็นเจ้าของรถยนต์ของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อความสะดวกปลอดภัยในการเดินทางยุค Covid-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่มีความคล่องตัว และประหยัดน้ำมัน”
![](https://carlifeway.com/wp-content/uploads/2022/09/August-Car-Market-2565-Every-Segment-Grow-Past-60-Pitchfork-Sold-68208-Units-Grow-61.7-2.jpg)
นายสุรศักดิ์ กล่าวถึงแนวโน้มตลาดรถยนต์ในเดือนกันยายนว่า “มีแนวโน้มการเจริญเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง จากการทยอยส่งมอบรถที่รับจองในงาน BIG Motor Sales ของทุกค่ายรถยนต์ ตลอดจนการส่งมอบรถจากแคมเปญในช่วงนี้สู่ลูกค้าทั่วประเทศ นอกจากนี้ ด้วยสภาพการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เป็นตัวผลักดันให้ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ซึ่งใช้ในการประกอบธุรกิจมีตัวเลขการขายที่ดีอย่างต่อเนื่อง แต่อาจมีปัจจัยลบจากสถานการณ์น้ำท่วมที่กำลังเกิดขึ้นในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ส่งผลชะลอการตัดสินใจซื้อของลูกค้าในช่วงนี้ด้วยเช่นกัน”
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เดือนสิงหาคม 2565
- ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 68,208 คัน เพิ่มขึ้น 61.7%
- อันดับที่ 1 โตโยต้า 23,356 คันเพิ่มขึ้น 88.9% ส่วนแบ่งตลาด 34.2%
- อันดับที่ 2 อีซูซุ15,858 คันเพิ่มขึ้น 43.7% ส่วนแบ่งตลาด 23.2%
- อันดับที่ 3 ฮอนด้า 7,071 คัน เพิ่มขึ้น 32.3% ส่วนแบ่งตลาด 10.4%
- ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 22,530 คัน เพิ่มขึ้น 62.7%
- อันดับที่ 1 โตโยต้า 7,405 คัน เพิ่มขึ้น 100.5% ส่วนแบ่งตลาด 32.9%
- อันดับที่ 2 ฮอนด้า 5,817 คัน เพิ่มขึ้น 18.6% ส่วนแบ่งตลาด 25.8%
- อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 1,592 คัน เพิ่มขึ้น 54.4% ส่วนแบ่งตลาด 7.1%
- ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 45,678 คัน เพิ่มขึ้น 61.2%
- อันดับที่ 1 โตโยต้า 15,951 คัน เพิ่มขึ้น 84.0%ส่วนแบ่งตลาด 34.9%
- อันดับที่ 2 อีซูซุ 15,858 คัน เพิ่มขึ้น 43.7% ส่วนแบ่งตลาด 34.7%
- อันดับที่ 3 ฟอร์ด 4,674 คัน เพิ่มขึ้น 132.3% ส่วนแบ่งตลาด 10.2%
- ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณขาย 36,528 คัน เพิ่มขึ้น 67.0%
- อันดับที่ 1 อีซูซุ 14,633 คัน เพิ่มขึ้น 51.8% ส่วนแบ่งตลาด 40.1%
- อันดับที่ 2 โตโยต้า 13,923 คัน เพิ่มขึ้น 79.6% ส่วนแบ่งตลาด 38.1%
- อันดับที่ 3 ฟอร์ด 4,674 คัน เพิ่มขึ้น 132.3% ส่วนแบ่งตลาด 12.8%
- ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 5,808 คัน
- โตโยต้า 2,380 คัน
- อีซูซุ 1,666 คัน
- ฟอร์ด 1,151 คัน
- มิตซูบิชิ 519 คัน
- นิสสัน 92 คัน
- ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 5,808 คัน
- ตลาดรถกระบะ (Pure Pick up) ปริมาณการขาย 30,720 คัน เพิ่มขึ้น 58.4%
- อันดับที่ 1 อีซูซุ12,967 คันเพิ่มขึ้น 44.9% ส่วนแบ่งตลาด 42.2%
- อันดับที่ 2 โตโยต้า 11,543 คัน เพิ่มขึ้น 73.8% ส่วนแบ่งตลาด 37.6%
- อันดับที่ 3 ฟอร์ด 3,523 คัน เพิ่มขึ้น 99.9% ส่วนแบ่งตลาด 11.5%