BMW Motorrad Thailand ฉลอง 100 ปีของแบรนด์ BMW Motorrad ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำมอเตอร์ไซค์ระดับโลก พร้อมความสำเร็จมากมายตลอดหนึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ภายใต้ปรัชญา ‘Make Life A Ride’ และยังคงยึดมั่นในจิตวิญญาณแห่งนวัตกรรม ด้วยแนวคิดที่มองการณ์ไกลและการพัฒนาแนวคิดยนตรกรรมที่ล้ำยุคอย่างต่อเนื่อง ผสานกับความก้าวหน้าล่าสุดของเทคโนโลยีการขับขี่ ในโอกาสนี้ ยังได้เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ 4 รุ่นใหม่ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองมรดกอันยาวนาน BMW Motorrad และความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศของแบรนด์ โดย BMW R 18 และ BMW R nineT รุ่นพิเศษฉลอง 100 ปี ผลิตขึ้นเพียง 1,923 คันในแต่ละรุ่นทั่วโลก เพื่อรำลึกถึงปี ค.ศ. 1923 (พ.ศ. 2466) มีการเปิดตัว BMW R 32 มอเตอร์ไซค์รุ่นแรกจากแบรนด์ BMW Motorrad นอกจากนั้น BMW R nineT Urban G/S และ BMW R nineT Scrambler ยังมาพร้อมสีตัวถังภายนอกแบบใหม่ ช่วยเสริมรูปลักษณ์ให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้นกว่าเดิม
เรื่องราว BMW Motorrad เริ่มต้นจากหัวหน้านักออกแบบ Max Friz ผู้สร้างสรรค์มอเตอร์ไซค์ BMW รุ่นแรก ถูกเปิดตัวที่งานเยอรมันมอเตอร์โชว์ ปี ค.ศ. 1923 (พ.ศ. 2466) ณ ประเทศเยอรมนี ในปีถัดมา Rudolf Schleicher ได้สร้างผลงานชิ้นสำคัญในการพัฒนาเครื่องยนต์ BMW R 37 นำไปสู่การเปิดตัวมอเตอร์ไซค์สปอร์ตรุ่นแรก BMW Motorrad ปี ค.ศ. 1937 (พ.ศ. 2467) Ernst Jakob Henne ยังทำลายสถิติความเร็วบนท้องถนนกับ BMW 500 Kompressor สามารถทำความเร็วสูงถึง 279.503 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และปี ค.ศ. 1939 (พ.ศ. 2482) Georg ‘Schorsch’ Meier ยังสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยการเป็นผู้ชนะจากต่างประเทศคนแรกในการแข่งขัน Senior TT มอเตอร์ไซค์ BMW Kompressor
มร. มิเกล ญาเบรส-โปห์ล ผู้อำนวยการ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และผู้นำเข้าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “เส้นทางอันยาวนานของ BMW Motorrad ตอกย้ำแรงผลักดันอันไม่หยุดยั้งที่นำไปสู่ความสำเร็จของแบรนด์ แม้ต้องพบกับความท้าทายต่าง ๆ นับครั้งไม่ถ้วน BMW Motorrad ไม่เคยหยุด ความกระตือรือร้นและแรงบันดาลใจ พร้อมมุ่งมั่นที่จะปฏิวัติท้องถนนด้วยแนวคิดนวัตกรรมสองล้อ ในช่วงหนึ่งศตวรรษที่ผ่านมาคือก้าวย่างสำคัญของเราในการเฉลิมฉลองปรัชญา ‘Make Life A Ride’ ช่วยผลักดันให้ BMW Motorrad เติบโตขึ้นทุกวันนับตั้งแต่การก่อตั้งบริษัท เพื่อร่วมเดินทางอันสุดพิเศษสู่ศตวรรษหน้าของ BMW Motorrad เราขอเชิญชวนแฟน ๆ มาร่วมสานต่อเรื่องราวแห่งตำนานของผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์ระดับโลกกับมอเตอร์ไซค์ 4 รุ่นใหม่ จะมาสร้างความตื่นเต้นให้เหล่าสาวก BMW Motorrad ชาวไทยในปีนี้”
BMW R 18 รุ่นพิเศษฉลอง100 ปี (สี Classic Chrome) ราคา 1,219,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
BMW R 18 รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ที่สื่อถึงแก่นแท้ของมอเตอร์ไซค์ในแบบดั้งเดิม การออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจากต้นกำเนิดของแบรนด์ BMW Motorrad จึงมอบกลิ่นอายความคลาสสิกได้อย่างถึงอารมณ์ด้วยชิ้นส่วนแฮนด์เมดต่าง ๆ ที่ล้วนตอกย้ำถึงความเรียบง่ายที่ยังคงตอบโจทย์การใช้งานในทุกองค์ประกอบ สัดส่วนที่ลงตัวของ BMW R 18 รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี ยังได้รับแรงบันดาลใจจากมอเตอร์ไซค์คลาสสิกรุ่นพี่อย่าง BMW R 5 ถ่ายทอดออกมาเป็นเอกลักษณ์ความงามที่ก้าวข้ามกาลเวลาด้วยดีไซน์เปลือยสะกดสายตา
หัวใจหลักของ BMW R 18 รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี คือเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 4 จังหวะ 2 สูบขนาดใหญ่ ระบายความร้อนด้วยอากาศและน้ำมัน ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ให้ทรงพลังทั้งในด้านดีไซน์และประสิทธิภาพ มาพร้อมความจุ 1,802 ซีซี ส่งพละกำลังสูงสุด 67 กิโลวัตต์ (91 แรงม้า) ที่ 4,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 158 นิวตันเมตร ที่ 3,000 รอบต่อนาที ให้ความเร็วสูงสุดมากกว่า 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ยังใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยเพลา มาพร้อมกับชุดเกียร์ 6 สปีด แบบ claw-shift และคลัทช์เดี่ยวแบบแห้ง และยังโดดเด่นด้วยมาตรฐานการผลิตคุณภาพสูงและความประณีตในรายละเอียดต่าง ๆ เช่น การเชื่อมข้อต่อระหว่างโครงสร้างเหล็กและการขึ้นรูปชิ้นส่วนเหล็กหล่อต่าง ๆ นอกจากนี้ สวิงอาร์มหลังยังได้รับแรงบันดาลใจจาก BMW R 5 ยึดต่อกับเพลาหลังด้วยข้อต่อสลักเกลียวแบบดั้งเดิม
ระบบช่วงล่าง BMW R 18 รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี ยังคงความคลาสสิกด้วยการใช้ช่วงล่างแบบเทเลสโคปิกแทนการควบคุมด้วยไฟฟ้า โดยมีคานรับน้ำหนักกลางที่ปรับตั้งค่าความหนืดและการยุบตัวของสปริงได้ เพื่อการควบคุมที่เฉียบคมและนุ่มสบาย ระยะยุบตัวโช้คหน้า 120 มิลลิเมตร และระยะยุบตัวโช้คหลัง 90 มิลลิเมตร ระบบเบรกของ BMW R 18 รุ่นพิเศษฉลอง 100 ปี มาพร้อมดิสก์เบรกคู่ที่ล้อหน้า ดิสก์เบรกเดี่ยวที่ล้อหลัง และคาลิปเปอร์เบรกแบบตายตัว 4 ลูกสูบ พร้อมล้อซี่ลวดที่เสริมลุคให้สะดุดตายิ่งขึ้น
BMW R 18 รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี ยังพิเศษด้วยโหมดการขับขี่ที่เหนือระดับกว่ารุ่นอื่น ๆ ในเซกเมนต์เดียวกัน มาพร้อม 3 โหมด ได้แก่ ‘Rain’ ‘Roll’ และ ‘Rock’ เลือกปรับได้ตามความชอบเฉพาะตัว พกพาเทคโนโลยีด้านการขับขี่ที่ครบครันมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นการเสริมความปลอดภัยด้วยฝาถังน้ำมันเชื้อเพลิงพร้อมระบบล๊อก ระบบควบคุมการทรงตัวแบบอัตโนมัติ (ASC) ระบบช่วยออกตัวในทางลาดชัน (Hill Start Control) ระบบเกียร์ถอยหลัง (Reverse Gear) ระบบสัญญาณกันขโมย ระบบป้องกันรถกระชาก (Anti-hopping Clutch) เสริมความล้ำสมัยด้วยระบบสตาร์ทแบบไร้กุญแจ (Keyless Ride) นอกจากนี้ ไฟหน้า Adaptive LED แบบใหม่ พร้อมระบบไฟส่องสว่างตอนกลางวันยังช่วยสร้างเอกลักษณ์ที่เฉพาะตัวให้แก่รถมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้
ดีไซน์รุ่นนี้นำเอกลักษณ์ความคลาสสิกมาผสานเข้ากับดีไซน์แบบร่วมสมัย สืบทอดรายละเอียดต่าง ๆ จาก BMW R 5 ที่ได้สร้างตำนานไว้ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างเหล็กกล้าสองชั้น ถังน้ำมันทรงหยดน้ำ เพลาแบบเปิดเปลือย พร้อมเสริมลูกเล่นดีไซน์ด้วยการทำสีแบบลายเส้นบนตัวถัง ส่วนโครงสร้างเฟรมและถังน้ำมันสร้างเส้นสายที่เชื่อมต่อกันตั้งแต่หน้ารถจนถึงซุ้มล้อหลัง สร้างความสง่างามด้านดีไซน์จากมุมข้าง
BMW R 18 รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี มาในสี Classic Chrome และยังอวดโฉมรูปลักษณ์ที่งดงาม พร้อมตัวเลือกการออกแบบโครเมียมอันสง่างามซึ่งมีส่วนประกอบโครเมียมต่าง ๆ บริเวณคันโยกมือและเท้า ที่จับแฮนด์ ฝาครอบเครื่องยนต์ด้านหน้า และกระจก คุณสมบัติอื่นที่เป็นเอกลักษณ์เพิ่มเติมของรถมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ ได้แก่ ท่อไอเสีย Akrapovic ชุบโครเมียมทรงตรงแบบเจาะรูสไตล์ใบพัดลวดลายโลโก้ BMW และเบาะนั่งบุนวมสีแดง Oxblood
BMW R nineT รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี (สี Classic Chrome) ราคา 1,099,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
BMW R nineT Urban G/S (สี Imperial Blue Metallic) ราคา 809,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
BMW R nineT Scrambler (สี Manhattan Metallic Matt) ราคา 809,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
มอเตอร์ไซค์ตระกูล R nineT ใหม่ มาใน 3 รุ่น ได้แก่ BMW R nineT รุ่นพิเศษฉลอง 100 ปี BMW R nineT Urban G/S และ BMW R nineT Scrambler โดยทั้ง 3 รุ่นล้วนขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ระบายความร้อนด้วยอากาศและน้ำมัน ความจุเครื่องยนต์ 1,170 ซีซี ได้รับการพัฒนาให้มีคุณสมบัติตามมาตรฐานมลพิษ EU-5 ส่งพละกำลังสูงสุด 80 กิโลวัตต์ (109 แรงม้า) ที่ 7,250 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 116 นิวตันเมตรที่ 6,000 รอบต่อนาที ให้ความเร็วสูงสุดมากกว่า 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทั้งสามรุ่นมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 5.1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร และรองรับน้ำมันเบนซินค่าออกเทน 95 ถึง 98 นอกจากนั้น ระบบคลัทช์แห้งแผ่นเดียวทำงานด้วยระบบไฮโดรลิก และระบบเกียร์ 6 สปีด พร้อม Helical gear teeth ได้รับการติดตั้งมาเพื่อให้การส่งกำลังที่เหนือกว่าอีกด้วย
โหมดการขับขี่แบบ Pro ติดตั้งมาเป็นมาตรฐานในทั้ง 3 รุ่น ประกอบด้วยโหมดการขับขี่มาตรฐาน Rain และ Road เพิ่มเติมด้วยโหมด Dyna สำหรับ BMW R nineT รุ่นพิเศษฉลอง 100 ปี ส่วน BMW R nineT Urban G/S และ R nineT Scrambler มาพร้อมโหมด Dirt โดยขณะขับขี่ด้วยโหมด Dyna หรือ Dirt ผู้ขับขี่จะได้สัมผัสความสปอร์ตยิ่งขึ้น ระบบ Dynamic Brake Control หรือ DBC และ ABS Pro จะทำงานขณะขับขี่บนถนนที่มีแรงเสียดทานสูง ระบบ Dynamic Traction Control หรือ DTC ช่วยเสริมความปลอดภัยยิ่งขึ้นเมื่อเร่งความเร็ว ขณะที่ระบบป้องกันการลื่นไถลล้อหลัง (MSR) จากการชะลอตัวหรือลดเกียร์ ช่วยให้ควบคุมรถได้มั่นคงและแม่นยำยิ่งขึ้น แม้ขณะเบรกในสภาวะการขับขี่ที่ยากลำบาก
การออกแบบ BMW R nineT Urban G/S และ R nineT Scrambler ใหม่ ยังคงรักษาองค์ประกอบอันเป็นเอกลักษณ์ของมอเตอร์ไซค์โรดสเตอร์ด้วยไฟหน้า LED มาพร้อมไฟส่องสว่างตอนกลางวัน ไฟเลี้ยวแบบ LED ล้อซี่ลวดสีทอง และยางล้อออฟโรด ขณะที่ BMW R nineT รุ่นพิเศษฉลอง 100 ปี มากับไฟส่องสว่างแบบ LED พร้อมไฟหน้าแบบปรับได้และไฟส่องสว่างตอนกลางวัน ระบบทำความร้อนที่แฮนด์ (Heated Grips) และโช๊คหน้าแบบกลับหัวซึ่งสามารถปรับได้ยังช่วยเสริมการควบคุมรถและเสถียรภาพให้ดีขึ้น
BMW R nineT รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่งดงามด้วยสี Classic Chrome และชุดแต่ง Option 719 Wheel classic และ Option 719 Billet pack shadow คุณภาพสูง ขณะที่ BMW R nineT Urban G/S และ BMW R nineT Scrambler มาในสีฟ้า Imperial Blue Metallic และสี Manhattan Metallic Matt ตามลำดับ
ทั้งนี้ สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่และแคมเปญฉลอง 100 ปี BMW Motorrad ได้ที่ www.bmw-motorrad.co.th หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ BMWMotorradTH เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวอื่น ๆ