กลุ่มธุรกิจเรเว่ จัดทัพรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและยานยนต์เชิงพาณิชย์สุดล้ำจากบีวายดี และยนตรกรรมระดับลักชัวรีจากเดนซ่า ร่วมงาน Motor Expo 2024 ส่งท้ายปีกับไฮไลต์สุดพิเศษ นำรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่พร้อมราคาขายปลีกมาแนะนำรถยนต์พลังงานใหม่ 7 รุ่น ประกอบด้วย BYD ATTO 3, BYD DOLPHIN, BYD SEAL, BYD M6, BYD SEALION 6, BYD SEALION 7 และ BYD SHARK 6 ขณะที่บูธ “เดนซ่า” นำเสนอผลิตภัณฑ์ระดับลักชัวรี 3 รุ่น คือ DENZA D9, DENZA N7 และ DENZA Z9 GT ส่วนบูธ “เรเว่ คอมเมอร์เชียล วีฮิเคิลส์” นำยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ภายใต้แบรนด์บีวายดีมาอวดโฉม 4 รุ่น ได้แก่ BYD Q3B, BYD eMIXER, BYD T3 และ BYD eBUS
สัมผัสยานยนต์พลังงานทางเลือกใหม่เพื่อโลกยั่งยืนที่บูธ “บีวายดี”
บูธ “บีวายดี” ภายใต้แนวคิด “Futuristic Green Mobility” โลกแห่งอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จัดเต็มไฮไลต์สุดพิเศษในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41 กับการเปิดตัว BYD SEALION 7 และการเผยโฉม BYD SHARK 6 อย่างเป็นทางการ
BYD SEALION 7 ที่สุดของประสบการณ์การขับขี่แบบสปอร์ตรักษ์โลก
BYD SEALION 7 สร้างนิยามใหม่ให้กับรถยนต์กลุ่ม C-SUV ด้วยการผสานดีไซน์สปอร์ตเข้ากับความหรูหราอย่างลงตัว โดดเด่นด้วยรูปทรงแบบ Fastback และฐานล้อต่ำให้ภาพลักษณ์โฉบเฉี่ยว มอบประสบการณ์เหนือชั้นด้วยระบบส่งกำลังอัจฉริยะ 8 in 1 พร้อมเทคโนโลยีการประกอบแบตเตอรี่แบบ Cell-to-Body และระบบห้องโดยสารอัจฉริยะ BYD Intelligent Cockpit
ดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมหาสมุทร
รูปโฉมภายนอกของ BYD SEALION 7 ได้รับแรงบันดาลใจจากความพลิ้วไหวของสายน้ำและมวลอากาศ โดยด้านหน้ารถโดดเด่นด้วยดีไซน์ “Ocean X” กับรูปทรงตัว “X” ที่สะท้อนถึงความล้ำสมัยและทรงพลัง ไฟหน้าดีไซน์ “Double U” อันเป็นเอกลักษณ์ เสา A-pillar ที่ลาดเอียงเชื่อมต่อกับหลังคาแบบ Fastback อย่างไร้รอยต่อ พร้อมสปอยเลอร์หลังที่ผสานเข้ากับตัวรถอย่างลงตัว ให้ความรู้สึกสปอร์ตแบบรถ SUV Coupe ฝากระโปรงท้ายรูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมูเสริมความดุดัน ไฟท้ายทรงหยดน้ำแบบไดนามิกวางตัวในแนวนอนช่วยเพิ่มมิติความกว้างให้กับตัวรถ พร้อมไฟเบรกดวงที่สาม และการตกแต่งด้วยโครเมียม เสริมความหรูหราด้วยรายละเอียดไฟ Dot-Matrix ภายในไฟหน้าและไฟท้ายให้ความสะดุดตาเมื่อส่องสว่างบนท้องถนน
หรูหรา สะดวกสบาย ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว
ภายในห้องโดยสารของ BYD SEALION 7 ตกแต่งด้วยวัสดุสัมผัสนุ่มระดับพรีเมียมกว่า 80% ไม่ว่าจะเป็นคอนโซลหน้า คอนโซลกลาง และแผงประตู เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังแท้ Nappa ระบบกันเสียงรบกวนที่เหนือชั้นด้วยกระจกอะคูสติกสองชั้น พร้อมฟิล์ม PVB Resin ในกระจกบังลมหน้า พรมปูพื้นอะคูสติกแบบไร้รอยต่อ วัสดุฉนวนกันเสียงรอบคัน ซุ้มล้อบุวัสดุกันเสียง และฉนวนกันเสียงรอบมอเตอร์ ทั้งยังครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสบายมากมาย อาทิ
เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางและที่พักขาปรับไฟฟ้า 2 ทิศทาง พร้อมปรับดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่ง และ Welcome Seat เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เบาะนั่งคู่หน้าพร้อมระบบระบายอากาศ กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้าพร้อมระบบไล่ฝ้า กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ ระบบกรองอากาศ PM 2.5 ระดับ CN95 พร้อมระบบ IONIZER
หน้าจอเรือนไมล์ผู้ขับขี่แบบ LCD 3 มิติ ขนาด 10.25 นิ้ว หน้าจอสัมผัสระบบมัลติมีเดียขนาด 15.6 นิ้ว ระบบแสดงผลบนกระจกหน้า (W-HUD) ระบบเครื่องเสียง DYNAUDIO ลำโพง 12 ตำแหน่ง หลังคา Panoramic Glass Roof ช่วยลดความร้อนและกรองแสง UV กระจกบังลมหน้าและกระจกหน้าต่างด้านหน้าแบบเก็บเสียง กระจกส่วนตัวสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ไฟ Ambient Light ภายในห้องโดยสาร 128 สี ทั้งหมดนี้ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบและผ่อนคลายภายในห้องโดยสาร
ทรงพลัง แต่ยังคงความนุ่มนวล
BYD SEALION 7 มอบประสบการณ์การขับขี่ที่สมดุลทั้งความแม่นยำและความนุ่มนวลขณะขับขี่ มาพร้อมขุมพลัง Blade Battery ความจุ 82.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 390 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 690 นิวตัน-เมตร และระยะทางวิ่งสูงสุด 542กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบ Double Wishbone และด้านหลังแบบ Multi-link ทำงานร่วมกับระบบกันสะเทือนปรับอัตโนมัติตามความเร็วแบบ FSD (Frequency Selective Damping) ที่ปรับระดับความหนืดของโช้คอัพอัตโนมัติตามสภาพถนน
BYD SHARK 6 รถปิคอัพสมรรถนสูง พร้อมอวดโฉมแล้ววันนี้
BYD SHARK 6 ยกระดับรถกระบะแบบ Double Cab 5 ที่นั่งให้พร้อมรับมือทุกความท้าทาย ด้วยการผสานความสะดวกสบายเข้ากับความอเนกประสงค์ที่เหนือชั้น ตอบโจทย์ทุกการใช้งานทั้งการขับขี่ในชีวิตประจำวัน การบรรทุกสัมภาระ การลากจูง และการผจญภัยแบบออฟโรด
โครงสร้างแข็งแกร่ง ปลอดภัย ไม่เป็นรอง
โครงสร้างตัวถังของ BYD SHARK 6 ผลิตจากเหล็กความแข็งแก่รงสูงมากถึง 78% มอบความแข็งแกร่งและความทนทานที่เหนือกว่าพร้อมลดน้ำหนักตัวรถ ส่งผลให้มีเสถียรภาพการทรงตัวและการควบคุมรถที่ดียิ่งขึ้น มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ขนาดยาง 265/65 R18 ระบบช่วงล่างด้านหน้าและด้านหลัง แบบปีกนกคู่ท และดิสก์เบรกแบบมีครีบระบายความอากาศ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวลและมั่นคง
ห้องโดยสารที่ทั้งอัจฉริยะและสะดวกสบาย
ห้องโดยสารของ BYD SHARK 6 มาพร้อม หน้าจอเรือนไมล์ผู้ขับขี่แบบ LCD ขนาด 10.25 นิ้ว หน้าจอสัมผัสระบบมัลติมีเดียขนาด 15.6 นิ้ว และระบบแสดงผลบนกระจกหน้า (W-HUD) เบาะนั่งผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบพนักพิงดันหลัง 4 ทิศทาง กระจกหน้าต่างคู่หน้าแบบกันเสียงและกระจกส่วนตัวสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เพิ่มความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบาย จัดเต็มกับระบบเสียง DYNAUDIO ซึ่งเป็นระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียม ลำโพง 12 ตำแหน่ง ให้ประสบการณ์เสียงที่สมบูรณ์แบบ
ขุมพลังเหนือชั้น รองรับการใช้งานได้หลากหลาย
BYD SHARK 6 สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม DM-O ที่ล้ำสมัย มาพร้อมระบบขับเคลื่อนแบบปลั๊กอินไฮบริดอันทรงพลัง เครื่องยนต์ 1.5L ทำงานร่วมกับระบบ EHS และมอเตอร์ไฟฟ้า 3 in 1 ที่ติดตั้งด้านหลัง ให้กำลังรวมสูงสุด 321 กิโลวัตต์ และแรงบิดรวมสูงสุด 650 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใช้เวลาเพียง 5.7 วินาที และใช้ BYD Blade Battery ความปลอดภัยสูง ความจุแบตเตอรี 29.58 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ให้ระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าสูงสุด 100 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ พร้อมระบบกระจายแรงบิดแบบเรียลไทม์ มั่นใจได้ถึงการส่งกำลังที่เหมาะสมและการควบคุมที่แม่นยำในทุกสภาพถนน สามารถลากจูงได้สูงสุด 2,500 กิโลกรัม และรับน้ำหนักบรรทุกได้ถึง 790 กิโลกรัม ทั้งยังตอบโจทย์สายออฟโรดด้วยศักยภาพการปีนไต่ทางลาดชันได้สูงสุด 60% มุมปะทะ 31 องศา และลุยน้ำได้ลึกสูงสุด 700 มิลลิเมตร
ยลโฉมยนตรกรรมแห่งความหรูหราเหนือระดับที่บูธ “เดนซ่า”
บูธ “เดนซ่า” เสนอแนวคิด “Luxury Oasis” ที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์ระดับไฮเอนด์และสุนทรียะแห่งความสง่างาม โดยจัดแสดงรถยนต์พลังงานไฟฟ้าระดับลักชัวรี่ที่ถึง 3 รุ่น ได้่แก่
DENZA N7
รถครอสโอเวอร์ (Crossover) พลังงานไฟฟ้าดีไซน์ล้ำสมัย โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์แบบ Fastback Coupe พัฒนาบน e-Platform 3.0 พร้อมเทคโนโลยีอันก้าวล้ำ ทั้งระบบแบตเตอรี่แบบ CTB (cell-to-body) และระบบควบคุมแรงบิดอัจฉริยะ iTAC (Intelligence Torque Adaptation Control System) มาพร้อมดีไซน์หรูหรา กระจังหน้าแบบปิด ไฟหน้าดีไซน์แยกส่วน พร้อมไฟ DRL รูปแบบ Diamond Arrow และเซ็นเซอร์ LiDAR บริเวณกันชนหน้า ด้านข้างโดดเด่นด้วยมือจับประตูแบบซ่อนและเส้นโครเมียมรอบกรอบกระจก ยิ่งไปกว่านั้น N7 ยังรองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็วแบบ Dual-gun ที่สามารถชาร์จพร้อมกันสองพอร์ตด้วยเครื่องชาร์จเดียวด้วยกำลังไฟสูงสุดถึง 230 kW เพื่อการชาร์จที่รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยแบตเตอรี่มีความจุ 91.392 กิโลวัตต์ ให้ระยะทางการวิ่งที่ไกลสูงสุดถึง 702 ตามมาตรฐาน CLTC
DENZA Z9 GT
รถแฮทช์แบ็กทรงสปอร์ตระดับพรีเมียมและเป็นเรือธงรุ่นล่าสุดจากแบรนด์เดนซ่า โดดเด่นด้วยดีไซน์โฉบเฉี่ยว ดุดัน เน้นหลักอากาศพลศาสตร์ มีให้เลือกทั้งแบบรถยนต์ไฟฟ้าล้วนที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% บนแพลตฟอร์ม Intelligent e3 platform มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ที่ขับเคลื่อนล้อหลังอิสระซ้ายและขวาที่สามารถปรับทิศทางของล้อหลังที่ช่วยให้การบังคับรถได้อิสระมากยิ่งขึ้น มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ พร้อม Blade Battery 800V แบบปลั๊กอินไฮบริดที่ผสานพลังเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ พร้อมระยะทางวิ่งรวมสูงสุด 1,100 กม. ตามมาตรฐาน CLTC เสริมด้วยระบบช่วงล่างแพลตฟอร์ม DiSus-A ช่วงล่างถุงลมไฟฟ้าอัจฉริยระที่สามารถปรับระดับความนุ่มนวลและความสปอร์ตของช่วงล่างได้อย่างอิสระ อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบความสบายภายในห้องโดยสารและระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะอีกมากมาย อาทิ เช่น ระบบปรับเบาะให้รองรับสรีระเมื่อเข้าโค้ง ระบบตู้เย็นที่สามารถทำความเย็นจนถึง 0 องศา ภายใน 4.5 นาที AR-HUD หน้าจอสัมผัสมัลติมีเดียเฉพาะสำหรับผู้โดยสารตอนหน้า ฯลฯ
DENZA D9
รถตู้อเนกประสงค์ (MPV) ที่มาพร้อมดีไซน์สะท้อนความโมเดิร์นและความหรูหรา เทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมถึงระบบความปลอดภัยและระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ มอบประสบการณ์อันเป็นเอกลักษณ์และความมั่นใจให้กับทุกการเดินทาง มาพร้อมกับสมรรถนะอันเป็นเลิศจากมอเตอร์ไฟฟ้าทรงพลังที่ให้กำลังสูงสุดถึง 275 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 470 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อนด้วยพลังงานจาก BYD Blade Battery ขนาด 103.36 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 580 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC โดยเรเว่ ออโตโมทีฟ ภายใต้กลุ่มธุรกิจเรเว่ได้เปิดตัว DENZA D9 อย่างเป็นทางการไปเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา พร้อมทั้งประกาศราคาจำหน่ายแนะนำสำหรับ 2 รุ่นย่อย ได้แก่ DENZA D9 Performance AWD ราคา 2,699,900 บาท และ DENZA D9 Premium ราคา 1,999,900 บาท ซึ่งเป็นราคาพิเศษเฉพาะผู้ที่จองตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคม พ.ศ. 2567 และรับรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เท่านั้น
ชมนวัตกรรมยานยนต์เพื่อการพาณิชย์และร่วมกิจกรรมพิเศษที่บูธ “เรเว่ คอมเมอร์เชียล วีฮิเคิลส์”
ครั้งแรกของเรเว่ คอมเมอร์เชียล วีฮิเคิลส์ ภายใต้กลุ่มธุรกิจเรเว่ ที่มาร่วมจัดแสดงในงานมหกรรมยานยนต์ โดยนำเสนอยานยนต์พลังงานไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ 4 รุ่น ประกอบด้วย
BYD Q3B
รถหัวลากพลังงานไฟฟ้า 100% มาพร้อมเทอร์มินอลไฟฟ้าแทรคเตอร์สูงสุด 50,500 กก. GCW MAXให้ระยะทางสูงสุด 200 กม. ต่อหนึ่งรอบการชาร์จ แรงบิดสูงสุด 90 นิวตันเมตร และช่วงล่างกันสะเทือน
BYD eMIXER
รถผสมคอนกรีตไฟฟ้าที่มาพร้อมกับห้องโดยสารซึ่งสามารถปรับได้ด้วยระบบไฟฟ้าและไฮดรอลิก กระจกไฟฟ้าและเบาะคนขับสามารถปรับระดับได้ด้วยระบบไฮดรอลิก โช้คอัพ แผงหลังคาสามารถปรับได้ พวงมาลัยปรับระดับได้ ระบบกันสะเทือนและเหล็กกันโคลง ครบที่สุด สำหรับ BYD eMixer
BYD T3
รถตู้ไฟฟ้าสำหรับงานเชิงพาณิชย์โดยเฉพาะ ตอบโจทย์การขนส่งในเมืองด้วยดีไซน์ที่กะทัดรัด คล่องตัว รองรับน้ำหนักของสินค้าได้กว่า 799 กิโลกรัมบนพื้นที่ความจุ 3,800 ลิตร เสริมด้วยแผ่นรองพื้นอลูมิเนียมอัลลอย ที่มีลักษณะพื้นผิวกันลื่น เพื่อความทนทานและความปลอดภัย ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 100 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 180 นิวตัน-เมตร มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ปราศจากมลพิษและเสียงรบกวน มาพร้อม Blade Battery ความจุ 44.9 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ให้ระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าสูงสุด 280 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTC
BYD eBUS
รถบัสไฟฟ้า 100% สำหรับการขนส่งสาธารณะ ภายในกว้างขวางรองรับผู้โดยสารได้ถึง 42 คน ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กำลังสูงสุด 125 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 550 นิวตัน-เมตร ทำความเร็วได้สูงสุด 80 กม./ชม. และสามารถขึ้นทางลาดชันได้ถึง 25% มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอรอนฟอสเฟตขนาด 348 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งได้ระยะทางมากกว่า 250 กม. ที่ความเร็วคงที่ 40 กม./ชม. และรองรับการชาร์จเร็วแบบ DC 100 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จเพียง 3-3.5 ชั่วโมง
กลุ่มธุรกิจเรเว่ ขอเชิญชวนผู้บริโภคร่วมชมและสัมผัสนวัตกรรมยานยนต์พลังงานทางเลือกใหม่เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41 โดยผู้ที่จองรถบีวายดี เดนซ่า และยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ทุกรุ่น พบกับบีวายดีและเดนซ่าได้ที่บูธ A06 และเรเว่ คอมเมอร์เชียล วีฮิเคิลส์ ที่บูธ R03 อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้ถึง 10 ธันวาคม 2567 เวลา 12.00 – 22.00 น. (วันธรรมดา) และ 11.00 – 22.00 น. (วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ)
REVER showcases BYD passenger and commercial NEVs, and DENZA luxury vehicles, launching BYD SEALION 7 while unveiling BYD SHARK 6 at 41st Thailand International Motor Expo 2024
RÊVER Group reinforces its leadership in the new energy vehicle industry with a comprehensive showcase of cutting-edge BYD passenger and commercial vehicles, alongside DENZA luxury models, at the 41st Thailand International Motor Expo 2024. The company aims to make a significant impact at the year-end event with a range of special highlights, including the unveiling of new electric vehicle models and their recommended retail prices.
– The all-electric BYD SEALION 7 C-SUV Sport is available in two variants: the Premium, with a recommended retail price of 1,249,900 baht, and the AWD Performance, priced at 1,399,900 baht. As a special Motor Expo 2024 Early Bird offer, customers can purchase the SEALION 7 Premium for 1,149,900 baht and the AWD Performance for 1,249,900 baht.
– The domestically produced BYD ATTO 3 is offered in two variants: the Dynamic, with a recommended retail price of 759,900 baht, and the Extended Range, priced at 899,900 baht.
– The BYD DOLPHIN is available in two variants: the Standard Range, with a recommended retail price of 569,900 baht, and the Extended Range, priced at 709,900 baht.
– The BYD SEAL is offered in three variants: the Dynamic, with a recommended retail price of 999,900 baht, the Premium at 1,099,900 baht, and the AWD Performance at 1,199,900 baht.
– The BYD SEALION 6 DM-i is available in two variants: the Dynamic, with a recommended retail price of 969,900 baht, and the Premium, priced at 1,069,900 baht.
– The 7-seater BYD M6 is offered in two variants: the Dynamic, with a recommended retail price of 799,900 baht, and the Extended Range, priced at 899,900 baht.
The company has also unveiled the BYD SHARK 6 Plug-in Hybrid pickup truck for the first time in Thailand. A total of 27 vehicles will be on display across three booths, showcasing superior automotive technology and allowing visitors to experience cutting-edge innovations for a sustainable future. Exclusive offers and premium gifts await customers who place orders during the event, which runs from November 29th to December 10th, 2024.
At the “BYD” Booth, 7 new energy vehicles are on display, including the BYD ATTO 3, BYD DOLPHIN, BYD SEAL, BYD M6, BYD SEALION 6, BYD SEALION 7, and the BYD SHARK 6. “DENZA” Booth presents 3 luxury models: the DENZA D9, DENZA N7, and DENZA Z9 GT. The RÊVER Commercial Vehicles Booth show cases 4 BYD commercial electric vehicles: the BYD Q3B, BYD eMIXER, BYD T3, and BYD eBUS.
Mr. Liu Xueliang, General Manager of Asia-Pacific Auto Sales Division at BYD Auto Industry Company Limited, stated: “As a leading technology company dedicated to creating innovations that enhance lives, BYD is delighted to once again join forces with our long-term partner, RÊVER, at the 41st Thailand International Motor Expo 2024. This year is particularly special as we have three dedicated booths showcasing new energy vehicles from BYD, DENZA, and our Commercial Vehicles division. This provides Thai consumers with an unparalleled opportunity to experience our comprehensive range of passenger and commercial vehicles firsthand, while also portraying our complete new energy vehicle ecosystem.”
Mr. Pratarnwong Phornprapha, Chief Executive Officer of the RÊVER Group, said: “The year 2024 marks a significant milestone for RÊVER as we continue to advance our ‘NEW ENERGY FOR ALL’ strategic vision, driving Thailand towards becoming a NEV Nation. We offer a diverse range of new energy vehicles, with BYD as our flagship brand, which continues to perform exceptionally well, defying market trends. This is evidenced by its 7% year-on-year growth in October. Furthermore, DENZA, officially launched in Thailand in early November, has made a remarkable impact, securing 823 orders for its debut model, the DENZA D9, within just three days. This underscores strong consumer demand and reinforces RÊVER’s leadership position in the Thai market. We are confident that the launch and pricing announcement of the BYD SEALION 7, along with the unveiling of the BYD SHARK 6 at the 41st Thailand International Motor Expo 2024, will invigorate the industry and contribute to economic growth in the final quarter of the year.”
Ms. Pratarnporn Phornprapha, Vice Chief Executive Officer of the RÊVER Group, remarked: “Our products and services will deliver an exceptional experience to all visitors across all three booths. In addition to showcasing high-quality vehicles from BYD and DENZA, in line with our previously announced comprehensive business expansion plan, RÊVER remains focused on enhancing both sales and after-sales services to deliver a superior customer experience. We are also expanding our network of showrooms and service centers nationwide to strengthen the ecosystem and instill confidence in Thai consumers considering new energy vehicles. This is crucial for transitioning Thailand towards a cleaner, more sustainable future for everyone.”
Experience NEVs for a sustainable world at the BYD booth
The BYD booth, themed “Futuristic Green Mobility,” presents a vision of a future powered by environmentally friendly energy. Key highlights at the 41st Motor Expo include the launch of the BYD SEALION 7 and the unveiling of the BYD SHARK 6.
BYD SEALION 7: The ultimate eco-friendly sport driving experience
The BYD SEALION 7 redefines the C-SUV segment, seamlessly blending sporty design with luxurious touches. Its striking fastback silhouette and low stance create a dynamic presence, while the intelligent 8-in-1 powertrain, Cell-to-Body battery technology, and BYD Intelligent Cockpit deliver a superior driving experience.
Ocean-inspired design
The BYD SEALION 7’s exterior draws inspiration from the fluidity of water and air. The front features the distinctive “Ocean X” design, with an “X” shape embodying modernity and power. Signature “Double U” headlights, a sloping A-pillar seamlessly integrated with the fastback roofline, and an integrated rear spoiler contribute to a sporty SUV coupé aesthetic. A trapezoidal tailgate adds a touch of aggression, while dynamic horizontal waterdrop-shaped taillights enhance the vehicle’s width. A third brake light and chrome accents add a touch of refinement, and dot-matrix detailing within the headlights and taillights catches all eyes on the road.
Luxurious, comfortable, and private Interior
The BYD SEALION 7’s cabin is crafted with over 80% premium soft-touch materials on the dashboard, center console, and door panels. Nappa leather seats, superior noise insulation with acoustic double-glazed windows and PVB resin film in the windshield, seamless acoustic floor mats, comprehensive sound-deadening materials throughout the vehicle, including the wheel arches and motor compartment, create a serene environment. A wealth of amenities further enhances comfort and convenience, including an 8-way power-adjustable driver’s seat with 2-way power lumbar and 4-way power bolster support, memory function, and welcome seat; a 6-way power-adjustable front passenger seat; ventilated front seats; power-folding and heated side mirrors; auto-dimming rearview mirror; CN95-grade PM2.5 air filtration system with an ionizer; a 10.25-inch 3D LCD instrument cluster; a 15.6-inch multimedia touchscreen; a heads-up display (W-HUD); a 12-speaker Dynaudio sound system; a panoramic glass roof with heat and UV protection; acoustic windshield and front windows; privacy glass for rear passengers; and 128-color ambient lighting.
Powerful yet refined performance
The BYD SEALION 7 delivers a balanced driving experience with both precision and comfort. It’s equipped with an 82.5 kWh Blade Battery, an electric motor generating a maximum power of 390 kW, a peak torque of 690 Nm, and a maximum range of 542 km (NEDC standard). The double wishbone front suspension and multi-link rear suspension work in conjunction with the Frequency Selective Damping (FSD) system, which automatically adjusts shock absorber stiffness based on road conditions, ensuring a smooth and responsive ride.
BYD SHARK 6: High-performance pickup truck makes its debut
The BYD SHARK 6 elevates the 5-seater double cab pickup truck, seamlessly blending comfort and versatility to meet diverse needs. It’s designed to excel in daily driving, cargo hauling, towing, and off-road adventures.
Robust and safe construction
The BYD SHARK 6 boasts a body structure composed of 78% high-strength steel, providing exceptional strength and durability while minimizing weight. This results in improved stability and handling. Equipped with 18-inch alloy wheels and 265/65 R18 tires, double wishbone front and rear suspension, and ventilated disc brakes, the SHARK 6 delivers a smooth and confident driving experience.
Intelligent and comfortable cabin
The BYD SHARK 6’s interior features a 10.25-inch LCD instrument cluster, a 15.6-inch multimedia touchscreen, and a heads-up display (W-HUD). The driver’s seat is 8-way power-adjustable with 4-way lumbar support. Acoustic front windows and privacy glass for rear passengers enhance privacy and comfort. A premium 12-speaker Dynaudio sound system delivers an immersive audio experience.
Superior power and versatility
Built on the advanced DM-o platform, the plug-in hybrid BYD SHARK 6 features a 1.5L engine which works in conjunction with an EHS system and a rear-mounted 3-in-1 electric motor, delivering a combined output of 321 kW and a total torque of 650 Nm. It accelerates from 0-100 km/h in just 5.7 seconds. Equipped with a safe and reliable 29.58 kWh Blade Battery, the SHARK 6 offers a pure electric range of up to 100 km (NEDC standard). Its intelligent all-wheel-drive system with real-time torque distribution ensures optimal power delivery and precise control in all road conditions. With a towing capacity of up to 2,500 kg and a payload capacity of up to 790 kg, the SHARK 6 is ready for any task. Its off-road capabilities are equally impressive, with a maximum climbing gradient of 60%, an approach angle of 31 degrees, and a wading depth of up to 700 mm.
Experience unparalleled luxury at the DENZA booth
The DENZA booth, themed “Luxury Oasis,” embodies the brand’s high-end identity and refined aesthetics. It showcases three luxurious electric vehicles:
DENZA N7
This cutting-edge electric crossover boasts a sleek fastback coupé design built on the e-Platform 3.0. Featuring advanced technologies such as CTB (cell-to-body) battery construction and iTAC (Intelligence Torque Adaptation Control System), the DENZA N7 offers a luxurious experience. Its sophisticated design includes a closed-off grille, split headlights with Diamond Arrow DRLs, and LiDAR sensors integrated into the front bumper. Flush door handles and chrome window surrounds accentuate the side profile. The DENZA N7 also supports dual-gun fast charging, allowing simultaneous charging through two ports with a single charger at up to 230 kW. With a 91.392 kWh battery, it offers a maximum range of 702 km (CLTC standard).
DENZA Z9 GT
This premium sports hatchback, DENZA’s latest flagship model, features a striking, aggressive design optimized for aerodynamics. Available as a fully electric vehicle or a plug-in hybrid, the DENZA Z9 GT offers impressive performance. The all-electric version utilizes the Intelligent e3 platform and boasts three electric motors, including independent left and right rear motors enabling advanced torque vectoring for enhanced handling. The plug-in hybrid version combines a 2.0-liter turbocharged gasoline engine with an 800V Blade Battery, providing a total range of up to 1,100 km (CLTC standard). The DiSus-A intelligent air suspension system allows for customizable ride comfort and sportiness. The DENZA Z9 GT also offers a wealth of luxurious amenities and intelligent driving assistance features, including adaptive cornering seats, a refrigerator capable of reaching 0°C in 4.5 minutes, an AR-HUD, and a dedicated front passenger multimedia touchscreen.
DENZA D9
This modern and luxurious multi-purpose vehicle (MPV) offers a unique and confident travel experience with its comprehensive technology, amenities, safety features, and intelligent driving assistance systems. Powered by a high-performance electric motor delivering up to 275 kW and 470 Nm of torque, the D9 draws energy from a 103.36 kWh BYD Blade Battery, providing a maximum range of 580 km (NEDC standard). RÊVER Automotive, under the RÊVER Group, officially launched the DENZA D9 in early November, announcing recommended retail prices for two variants: the DENZA D9 Performance AWD at 2,699,900 THB and the DENZA D9 Premium at 1,999,900 THB. These special prices are exclusive to customers who book between November 1st, 2024, and December 31st, 2024, and receive their vehicle by December 31st, 2024.
Explore commercial vehicle innovations and special activities at the RÊVER Commercial Vehicles booth
RÊVER Commercial Vehicles, under the RÊVER Group, makes its debut at the Thailand International Motor Expo, showcasing four commercial electric vehicles:
BYD Q3B
This pure electric tractor unit boasts a maximum gross combination weight (GCW) of 50,500 kg and a range of up to 200 km per charge. It offers a maximum torque of 90 Nm and a robust suspension system.
BYD eMIXER
This electric concrete mixer truck features an electrically and hydraulically adjustable cabin, power windows, a hydraulically adjustable driver’s seat, adjustable shock absorbers, an adjustable roof panel, an adjustable steering wheel, a robust suspension system, and stabilizer bars, offering a comprehensive suite of features.
BYD T3
This commercial electric van is ideal for urban transportation. Its compact and agile design allows for efficient maneuverability, while its spacious cargo area can accommodate up to 799 kg of goods in a 3,800-liter capacity. Reinforced with an anti-slip aluminum alloy floor, the T3 prioritizes durability and safety. Powered by a 100-kW electric motor with a maximum torque of 180 Nm, it offers a quiet and emission-free driving experience. Its 44.9 kWh Blade Battery provides a maximum electric range of 280 km (WLTC standard).
BYD eBUS
This electric bus is designed for public transportation, offering a spacious interior with a capacity of up to 42 passengers. Powered by dual electric motors delivering a total output of 125 kW and a maximum torque of 550 Nm, the eBUS can reach speeds of up to 80 km/h and climb gradients of up to 25%. Equipped with a 348-kWh lithium iron phosphate battery, it offers a range of over 250 km at a constant speed of 40 km/h. It supports 100 kW DC fast charging, allowing for a full charge in just 3-3.5 hours.
RÊVER Group cordially invites everyone to experience the future of sustainable mobility at the 41st Thailand International Motor Expo 2024. Visit booth A06 for BYD and DENZA, and booth R03 for the RÊVER Commercial Vehicles, in Challenger Hall, IMPACT Muang Thong Thani, from November 29th to December 10th, 2024. Special offers are available for customers who place orders for BYD, DENZA, and commercial vehicles during the event. Opening hours are 12:00 PM to 10:00 PM on weekdays and 11:00 AM to 10:00 PM on weekends and public holidays.
