บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2568 มี EBITDA จำนวน 4,878 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และมีกำไรสุทธิจำนวน 2,614 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.1% ส่วนผลการดำเนินงานรวม 9 เดือนของปี 2568 OR มีรายได้จากการขายและให้บริการ 503,188 ล้านบาท ลดลง 6.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนตามราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับลดลง อย่างไรก็ตาม OR มีกำไรสุทธิ 9,226 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4,575 ล้านบาท คิดเป็น 98.4% โดยมี EBITDA รวม 15,914 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 24.5% สะท้อนการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ
หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยผลการดำเนินการในไตรมาส 3/2568 มีรายได้ขายและบริการ 153,600 ล้านบาท ลดลง 13,566 ล้านบาท หรือลดลง 8.1% จากไตรมาสก่อน มี EBITDA จำนวน 4,878 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 326 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยเพิ่มขึ้นจากกลุ่มธุรกิจ Mobility ที่กำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยหลักจากดีเซลและเบนซิน และมีกำไรสุทธิจำนวน 2,614 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 382 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 17.1%
ส่วนการดำเนินงาน 9 เดือนของปี 2568 OR มีกำไรสุทธิ 9,226 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4,575 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 98.4% รายได้จากการขายและให้บริการ 503,188 ล้านบาท ลดลง 34,866 ล้านบาท หรือลดลง 6.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนตามราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับลดลง ประกอบกับปริมาณจำหน่ายที่ลดลงเช่นเดียวกัน ส่วนกลุ่มธุรกิจ Global ลดลง 9.2% จากราคาจำหน่ายเฉลี่ยต่อลิตรที่ปรับลดลง แต่ภาพรวมปริมาณจำหน่ายปรับเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในฟิลิปปินส์
ขณะที่กลุ่มธุรกิจ Lifestyle เพิ่มขึ้น 5.2% จากทั้งธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจค้าปลีกอื่น ๆ ตามการขยายสาขา และมี EBITDA จำนวน 15,914 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,135 ล้านบาท คิดเป็น 24.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยกลุ่มธุรกิจ Mobility จากกำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยหลักจากเบนซินและดีเซล กลุ่มธุรกิจ Lifestyle ปรับเพิ่มขึ้นจากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะ Café Amazon ในช่วงไตรมาส 3/2568 มีปริมาณจำหน่ายรวม 109 ล้านแก้ว เพิ่มขึ้น 2 ล้านแก้วจากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 11 ล้านแก้ว หรือ 11.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนกลุ่มธุรกิจ Global ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยยังคงมีการเติบโตในประเทศ สปป. ที่มีกำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรสูงขึ้น ทำให้ผลประกอบการโดยรวมของกลุ่มธุรกิจต่างประเทศยังคงอยู่ในทิศทางบวก ส่งผลให้ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 OR มีกำไรสุทธิจำนวน 9,226 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4,575 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 98.4% คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.77 บาท
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจของ OR ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2568 มีปัจจัยที่อาจส่งผลการดำเนินการของ OR จากภาคการท่องเที่ยวที่แนวโน้มปรับตัวดีขึ้น โดย OR ยังคงมุ่งเน้นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลัก ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มธุรกิจ Mobility ทั้งในด้านการขายปลีกน้ำมันผ่านสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น โดยได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและประชาสัมพันธ์สร้างความเชื่อมั่นอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงเพิ่มปริมาณการจำหน่ายน้ำมันอากาศยาน ขณะเดียวกัน OR ยังคงเดินหน้าขยายเครือข่ายสถานีบริการ PTT Station และสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า EV Station PluZ ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้วกว่า 1,300 แห่งทั่วประเทศ เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ด้านกลุ่มธุรกิจ Lifestyle ปัจจุบันมีเครือข่ายธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม 4,729 สาขา ไม่ว่าจะเป็น Café Amazon, Pearly Tea และ Pacamara Coffee Roasters โดยเฉพาะ Café Amazon ที่มีเครือข่ายทั้งสิ้น 4,613 สาขา ทั้งในและต่างประเทศ สำหรับร้านค้าปลีกอื่น ๆ เช่น ร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ 7-Eleven และ จิฟฟี่ ในประเทศไทย 2,347 สาขา รวมทั้งร้านค้าปลีกด้านสินค้าสุขภาพและความงามภายใต้แบรนด์ found & found ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 12 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด พร้อมตั้งเป้าขยายสาขาเป็น 50 สาขาในปี 2569 ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศธุรกิจของ OR ในการสร้างประสบการณ์ครบวงจรสำหรับผู้บริโภค นอกจากนี้ ในกลุ่มธุรกิจ Global แม้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา แต่ยังคงมีการเติบโตในประเทศ สปป. ลาว ในขณะเดียวกันนโยบายการค้าและการลงทุนทั่วโลกที่มีความไม่แน่นอนจากผลของภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ อาจกระทบต่อภาวะตลาดและการตัดสินใจลงทุน ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ท้าทายและอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของ OR
นอกจากนี้ OR ยังคงมุ่งผลักดันกลยุทธ์ดิจิทัลของ OR ให้เป็นจริงอย่างเป็นรูปธรรม โดยล่าสุดได้ยกระดับแอปพลิเคชัน blueplus+ โฉมใหม่ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของ OR’s Ecosystem ด้วยรูปแบบที่ทันสมัย ใช้งานง่าย และจดจำได้ทันที โดยออกแบบโดยยึดผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง ทั้งในแง่การใช้งานและคุณค่าที่ได้รับ เช่น ระบบ Café Amazon Rewards ที่สะสมแต้มตามระดับสมาชิกเมื่อซื้อสินค้าหรือเครื่องดื่มที่ ร้าน Cafe Amazon เพื่อแลกรับของรางวัลสุดพิเศษ ฟังก์ชันจาก PTT Station ที่ให้ผู้ใช้ตรวจสอบราคาน้ำมัน ค้นหาสถานีบริการ และซื้อคูปองส่วนลดได้ทันที รวมไปถึง blueplus+ wallet ที่รองรับการชำระเงินแบบไร้เงินสด เป็นต้น ซึ่งจะช่วยยกระดับประสบการณ์ลูกค้า พร้อมต่อยอดสู่การให้บริการเฉพาะบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ล่าสุด OR ได้รับรางวัล Climate Action Excellence ตอกย้ำความเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยสู่อนาคตยั่งยืน สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ OR ในการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล โดย OR ยังคงเดินหน้าพัฒนาและยกระดับศักยภาพขององค์กรในทุกมิติ ทั้งด้านพลังงาน ค้าปลีก และดิจิทัล เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างคุณค่าร่วมให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน พร้อมมุ่งมั่นเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน
OR Reports Stronger Q3/2025 Performance, Expecting Continued Growth and Sustainable Business Expansion in Q4
PTT Oil and Retail Business Public Company Limited (OR) announced its Q3/2025 financial results, reporting an EBITDA of 4,878 million baht, up 7.2% from the previous quarter, and a net profit of 2,614 million baht, representing a 17.1% increase. For the first nine months of 2025, OR recorded total revenue from sales and services of 503,188 million baht, down 6.5% year-on-year due to lower global oil prices. Nevertheless, net profit surged to 9,226 million baht, up 4,575 million baht, or 98.4%, compared to the same period last year. EBITDA for the nine-month period reached 15,914 million baht, a 24.5% increase, reflecting efficient cost management and strong growth across all business segments.
M.L. Peekthong Thongyai, Chief Executive Officer of PTT Oil and Retail Business Public Company Limited (OR), announced the company’s Q3/2025 results. In Q3, OR generated revenue from sales and services of 153,600 million baht, down 13,566 million baht, or 8.1%, from the previous quarter. EBITDA rose to 4,878 million baht, an increase of 326 million baht, or 7.2%, driven primarily by the Mobility segment, where average gross profit per liter improved for both diesel and gasoline. Net profit reached 2,614 million baht, up 382 million baht, or 17.1%, compared to the prior quarter. For the first nine months of 2025, OR reported net profit of 9,226 million baht, up 4,575 million baht, or 98.4% year-on-year. Revenue from sales and services totaled 503,188 million baht, down 34,866 million baht, or 6.5%, year-on-year, mainly due to lower global oil prices and slightly reduced sales volumes. The Global business segment saw a 9.2% decline due to lower average selling prices per liter, although overall sales volumes increased, particularly in the Philippines. Meanwhile, the Lifestyle segment grew 5.2%, driven by both the food & beverage business and other retail operations, supported by branch expansion. OR’s EBITDA for the period reached 15,914 million baht, up 3,135 million baht, or 24.5% year-on-year across all business segments. In the Mobility segment, growth was supported by higher average gross profit per liter, mainly from gasoline and diesel. The Lifestyle segment benefited from strong performance in the food and beverage business, especially Café Amazon, which sold a total of 109 million cups in Q3/2025—up 2 million cups from the previous quarter and 11 million cups, or 11.2%, compared to the same period last year. The Global segment showed modest growth, driven by higher average gross profit per liter in Laos, keeping the overall performance of international operations on a positive trajectory. As a result, for the first nine months of 2025, OR reported net profit of 9,226 million baht, an increase of 4,575 million baht, or 98.4% year-on-year, translating to earnings per share of 0.77 baht.
For Q4/2025, OR expects its performance to benefit from an improving tourism sector, while continuing to focus on strengthening its core businesses. In the Mobility segment, OR is enhancing its fuel retail operations through PTT Stations, with ongoing promotional and public relations activities to build customer confidence. The company is also increasing aviation fuel sales. At the same time, OR continues to expand its PTT Station and EV Station PluZ networks, which now operate over 1,300 locations nationwide, supporting the transition to clean energy, a sector expected to experience continued growth. In the Lifestyle segment, OR currently operates 4,729 food and beverage retail outlets, including Café Amazon, Pearly Tea, and Pacamara Coffee Roasters. Café Amazon alone has 4,613 outlets domestically and internationally. Other retail operations include 2,347 convenience stores under the 7-Eleven and Jiffy brands across Thailand, as well as 12 health and beauty stores under the “found & found” brand, with plans to expand to 50 stores by 2026. These expansions strengthen OR’s business ecosystem and enhance its ability to deliver a seamless, comprehensive experience to consumers. In the Global segment, while operations have been affected by the Thailand-Cambodia border situation, growth continues in Laos. At the same time, global trade and investment uncertainties, such as U.S. import tariffs, may affect market conditions and investment decisions, representing additional challenges that could influence OR’s operations.
In addition, OR continues to actively advance its digital strategy, turning plans into tangible results. The company recently launched the upgraded blueplus+ app, the central hub of OR’s ecosystem, featuring a modern, intuitive design that is instantly recognizable. The application is fully consumer-centric, both in terms of usability and value. Key features include the Café Amazon Rewards program, which allows members to earn points based on their membership tier when purchasing products or beverages at Café Amazon, redeemable for exclusive rewards. It also integrates PTT Station functions, enabling users to check fuel prices, locate service stations, and purchase discount coupons instantly. Furthermore, the blueplus+ wallet supports cashless payments, enhancing the overall customer experience and providing a platform for efficient, personalized services.
Recently, OR was honored with the Climate Action Excellence Award, reinforcing its position as a leader in driving Thailand’s industries toward a sustainable future. This recognition reflects OR’s commitment to operating in a way that strengthens communities, the economy, and the environment in a balanced manner. The company continues to enhance its capabilities across all dimensions, including energy, retail, and digital, to achieve sustainable growth and create shared value for all stakeholders. OR remains steadfast in its mission to be a key driver of Thailand’s economic development, ensuring growth that is both stable and sustainable.
