27.1 C
Bangkok
Thursday, July 4, 2024
https://www.thaihonda.co.th/honda/
https://www.mercedes-benz.co.th/th/passengercars/finance/offers.html?gagcmid=GA_16621475037_153239610427_662308114214&gad_source=1&gclid=Cj0KCQjwir2xBhC_ARIsAMTXk857jTSdUXpkaXpWmnd52hYaIiSYB7ZK87GyAU_rQMaBpJNjvCX4NOoaAkfEEALw_wcB&gclsrc=aw.ds#contact
https://www.bitec.co.th/th/event/fast-auto-show-thailand-2024
https://www.thaihonda.co.th/honda/
benz900x192px_1
Fast Auto Show Thailand 2024
previous arrow
next arrow

ตลาดรถยนต์เดือนพฤษภา’67 ชะลอตัว ยอดขาย 49,871 คัน ลดลง 23.4%

4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา โดยมีข้อสังเกตุรถยนต์ประเภท HEV มาแรงมียอดขาย 10,986 คัน เติบโตขึ้น 92.1% ขณะที่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าลดลง ไม่ต่างจากรถยนต์ รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ และรถยนต์กระบะ

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนพฤษภาคม 2567 ยอดขายตลาดรวม 49,871 คัน ลดลง 23.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขาย 18,686 คัน ลดลง 28.1% ในขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีปริมาณการขาย 31,185 คัน ลดลง 20.2% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขายทั้งหมด 17,651คัน ลดลง 35.4% 

ตลาดรถยนต์เดือนพฤษภาคม 2567 มียอดขาย 49,871 คัน ลดลง 23.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์นั่ง ชะลอตัวที่ 28.1% ด้วยยอดขาย 18,686 คัน ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ชะลอตัวเช่นกันที่ 20.2% ด้วยยอดขาย 31,185 คัน และตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน มียอดลดลงถึง 35.4% ด้วยยอดขาย 17,651 คัน ในส่วนของตลาดรถยนต์ xEV มียอดขายทั้งหมด 17,228 คัน คิดเป็นสัดส่วน 34.5% ของตลาดรถยนต์ทั้งหมด เติบโตขึ้น 17.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยรถยนต์ประเภท HEV มียอดขาย 10,986 คัน เติบโตขึ้น 92.1% ขณะที่ยอดขายรถยนต์ BEV อยู่ที่ 5,573 คัน ลดลง 28.8%

ตลาดรถยนต์ในเดือนมิถุนายน มีแนวโน้มจะดีขึ้นจากเดือนพฤษภาคม แต่มีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากสภาวะเศรษฐกิจในภาพรวม รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ยังคงฟื้นตัวช้า และอัตราการปฏิเสธสินเชื่อยังคงตัวในระดับสูง

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนพฤษภาคม 2567

1.ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 49,871 คัน ลดลง 23.4%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 19,504 คัน ลดลง 8.4% ส่วนแบ่งตลาด 39.1%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 7,883 คัน ลดลง 40.6% ส่วนแบ่งตลาด 15.8%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า 6,527 คัน ลดลง 2.5% ส่วนแบ่งตลาด 13.1%

2.ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 18,686 คัน ลดลง 28.1%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 5,761 คัน ลดลง 30.3% ส่วนแบ่งตลาด30.8%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า 3,610 คันลดลง 18.2% ส่วนแบ่งตลาด 19.3%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 1,572 คัน เพิ่มขึ้น 4.4% ส่วนแบ่งตลาด 8.4%

3.ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 31,185 คัน ลดลง 20.2%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 13,743 คัน เพิ่มขึ้น 5.5% ส่วนแบ่งตลาด 44.1%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 7,883 คัน ลดลง 40.6% ส่วนแบ่งตลาด 25.3%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า 2,917 คัน เพิ่มขึ้น  27.8% ส่วนแบ่งตลาด 9.4%

4.ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 17,651 คัน ลดลง 35.4%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 7,855 คัน ลดลง 23% ส่วนแบ่งตลาด 44.5%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 6,873 คัน ลดลง 43.3% ส่วนแบ่งตลาด 38.9%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด 1,699 คัน ลดลง 43.2% ส่วนแบ่งตลาด  9.6%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 2,819 คัน

โตโยต้า 1,016 คัน – อีซูซุ 898 คัน – ฟอร์ด 543 คัน – มิตซูบิชิ 331 คัน – นิสสัน 31 คัน

5.ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 14,832 คัน ลดลง 33.9%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 6,839 คัน ลดลง 20.8% ส่วนแบ่งตลาด 46.1%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 5,975 คัน ลดลง 40.6% ส่วนแบ่งตลาด 40.3%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด 1,156 คัน ลดลง 49.4% ส่วนแบ่งตลาด  7.8%

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2567

1.ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 260,365 คัน ลดลง 23.8%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 97,736 คัน ลดลง 15.7% ส่วนแบ่งตลาด 37.5%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 39,183 คัน ลดลง 46.9% ส่วนแบ่งตลาด   15%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า 37,374 คัน ลดลง 4.3% ส่วนแบ่งตลาด 14.4%

2.ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 101,589 คัน ลดลง 17.9%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 27,892 คัน ลดลง 36.1% ส่วนแบ่งตลาด 27.5%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า  21,250 คัน ลดลง 18.2% ส่วนแบ่งตลาด 20.9%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 8,191 คัน ลดลง 0.4% ส่วนแบ่งตลาด  8.1%

3.ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 158,776 คัน ลดลง 27.1%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 69,844 คัน ลดลง 3.5% ส่วนแบ่งตลาด 44%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 39,183 คัน ลดลง 46.9% ส่วนแบ่งตลาด    24.7%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า 16,124 คัน เพิ่มขึ้น 23.2% ส่วนแบ่งตลาด 10.2%

4.ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 91,765 คัน ลดลง 41%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 41,750 คัน ลดลง 30.1% ส่วนแบ่งตลาด 45.5%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 34,445 คัน ลดลง 49% ส่วนแบ่งตลาด 37.5%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด 9,645 คัน ลดลง 42.9% ส่วนแบ่งตลาด 10.5%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 16,255 คัน

โตโยต้า 5,999 คัน – อีซูซุ 5,110 คัน – ฟอร์ด 3,694 คัน – มิตซูบิชิ 1,255 คัน – นิสสัน 197 คัน

5.ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 75,510 คัน ลดลง 40.8%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 35,751 คัน ลดลง  27.8% ส่วนแบ่งตลาด 47.3%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 29,335 คัน ลดลง  49.1% ส่วนแบ่งตลาด 38.8%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด 5,951 คัน ลดลง  49.6% ส่วนแบ่งตลาด  7.9%

Related Articles

Stay Connected

269FansLike
2,760SubscribersSubscribe
- Advertisement -spot_img

Latest Articles