28.9 C
Bangkok
Tuesday, November 5, 2024
https://www.thaihonda.co.th/honda/
https://www.thaihonda.co.th/honda/
https://www.thaihonda.co.th/honda/
https://www.thaihonda.co.th/honda/
previous arrow
next arrow

วีโร่ เปิดทีมกลยุทธ์ Mobility ช่วยแบรนด์เพิ่มประสิทธิภาพอินไซต์คว้าโอกาสเติบโตในอุตสาหกรรมยานยนต์, Ride-hailing และท่องเที่ยวในไทยและอาเซียน

วีโร่ บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำด้านการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ และการตลาดดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศเปิดตัวทีมกลยุทธ์และแนวทางการสื่อสารสำหรับแบรนด์แวดวง Mobility ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นำเสนอประสบการณ์ความเชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์การสื่อสารระดับชั้นแนวหน้าของวงการมาช่วยให้แบรนด์และองค์กรเจาะสู่กลุ่มอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการเดินทางหรือ Mobility โดยเฉพาะ ประกอบด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญและผู้นำทีมจากวีโร่ในไทยและเวียดนามรวมทั้งสิ้น 10 คน โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้แบรนด์ต่างๆ ใช้ประโยชน์จากโซลูชันและกลยุทธ์การสื่อสารที่ล้ำหน้าของวีโร่เป็นแนวทางในการขยายโอกาสการเติบโตไปสู่ธุรกิจด้าน Mobility ที่พัฒนาอย่างรวดเร็วในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สำหรับภาคธุรกิจด้าน Mobility นั้น ครอบคลุมอุตสาหกรรมยานยนต์ โลจิสติกส์ การท่องเที่ยวและการบริการต้อนรับ เทคโนโลยีการเดินทาง และการให้บริการยานพาหนะผ่านแอปพลิเคชัน (ride-hailing) ซึ่งเป็นภาคธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูง ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจ ส่งเสริมการสร้างงาน รวมถึงมีบทบาทในการแก้ไขปัญหาด้านการขนส่ง ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมโยงผู้คนให้เข้าถึงกัน และส่งเสริมการท่องเที่ยวไปในตัว การมาถึงของระบบขนส่งขั้นสูง ยานยนต์ไฟฟ้า (EVs) และโซลูชันด้าน Smart Mobility จึงเป็นช่วงเวลาสู่โอกาสการเติบโตครั้งสำคัญ ที่จะช่วยเร่งการเติบโตและพลิกโฉมภาคธุรกิจด้าน Mobility ของภูมิภาคให้รุดหน้าไปได้ไกลมากยิ่งขึ้น 

ปรางทอง จิตรเจริญกุล, ทราน คิม ฮวง เยน และวิวัฒน์ คำไสว ผู้นำทีม Mobility ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของวีโร่

ปรางทอง จิตรเจริญกุล, ทราน คิม ฮวง เยน และวิวัฒน์ คำไสว ผู้นำทีม Mobility ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของวีโร่

รายงานของ Deloitte Global Automotive Consumer Study ปี 25651 พบว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยินดีจ่ายค่าบริการสำหรับเทคโนโลยีขั้นสูงและแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล หากข้อมูลดังกล่าวสามารถช่วยปรับปรุงความปลอดภัยบนท้องถนน บำรุงรักษายานพาหนะ และช่วยประหยัดเวลาได้มากขึ้น ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคดังกล่าวตอกย้ำถึงความต้องการโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมในภาคธุรกิจด้าน Mobility

นอกจากนี้ เทรนด์เรื่องความยั่งยืนก็เป็นสิ่งที่ผู้คนให้ความสำคัญกันมากขึ้น โดยรัฐบาลประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้สนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าอย่างแข็งขัน และต่างตั้งเป้าที่จะเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาค รัฐบาลไทยเองก็ได้ดำเนินโยบายและออกมาตรการส่งเสริมการลงทุน เพื่อเร่งการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ให้เป็นไปตามเป้าหมายของประเทศในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 26082 ขณะที่ Fitch Solutions คาดการณ์ว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดในไทยในปี 2566 จะเพิ่มขึ้น 20.7% อยู่ที่ 38,800 คัน3

นอกจากนี้ บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ ก็ให้ความสำคัญเรื่องความยั่งยืนด้วยเช่นกัน โดยนำแนวคิดการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาปรับใช้ และมีแผนนำรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งปล่อยมลพิษต่ำเข้ามาให้บริการมากขึ้น เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

การที่เทรนด์ความยั่งยืนได้รับความสนใจในวงกว้างมากขึ้น แบรนด์ต่างๆ ในภาคธุรกิจด้าน Mobility จำเป็นต้องสื่อสารวิสัยทัศน์ คุณค่าที่มอบให้ลูกค้า รวมถึงการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความไว้วางใจในหมู่ผู้บริโภคและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องรายสำคัญ วีโร่เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงอุตสาหกรรมด้าน Mobility ที่พัฒนาไม่หยุดนิ่ง และจากประสบการณ์ที่คร่ำหวอดในการให้บริการแบรนด์และผู้นำในอุตสาหกรรม Mobility วีโร่จึงพร้อมสนับสนุนแบรนด์ต่างๆ ในการวางแนวทางและปรับใช้กลยุทธ์การสื่อสาร  เพื่อมุ่งเน้นโซลูชันที่มีนวัตกรรมรองรับ รวมถึงสนับสนุนโครงการด้านความยั่งยืนที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค และการสนับสนุนจากภาครัฐผ่านแนวปฏิบัติด้าน Mobility ที่วีโร่ริเริ่มขึ้น ซึ่งจะครอบคลุมการดำเนินงานของวีโร่ในประเทศไทยและเวียดนาม โดยมีนางสาวปรางทอง จิตรเจริญกุล และนายวิวัฒน์ คำไสว ร่วมเป็นผู้นำทีม Mobility ของวีโร่ ประเทศไทย

นางสาวปรางทอง จิตรเจริญกุล ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายดูแลลูกค้าที่วีโร่ ประเทศไทยและหนึ่งในผู้นำทีม Mobility ของวีโร่ ประเทศไทย กล่าวว่า “การระบาดของโควิด-19 มีส่วนเร่งให้เทคโนโลยีหรือธุรกิจใหม่ขึ้นมาแทนที่สิ่งเดิมๆ เร็วขึ้น และยังทำให้ภาคธุรกิจด้าน Mobility ในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เปลี่ยนแปลงไปเร็วขึ้นด้วย นำไปสู่การใช้เทคโนโลยีสำหรับการเดินทางที่เพิ่มขึ้น ความต้องการผู้บริโภคในด้านจุดหมายการเดินทางและการวางแผนเดินทางเองก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ ผู้คนหันมาให้ความสำคัญเรื่องความยั่งยืนและใส่ใจปัญหาสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น ทั้งหมดนี้ทำให้เกิดความต้องการตัวเลือกการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นในหมู่ผู้บริโภค วีโร่จึงตั้งทีมนักวิเคราะห์ขึ้นมา ซึ่งทั้งหมดอยู่ในทีม IQ ประจำภูมิภาคของวีโร่ ที่มีหน้าที่ค้นคว้าและรวบรวมข้อมูลเชิงลึกในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับแนวโน้มของธุรกิจด้าน Mobility ในอนาคต โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้แบรนด์มองเห็นโอกาสและต่อยอดความคิดใหม่ๆ ด้วยการให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเทรนด์และโอกาสการเติบโต รวมถึงแนวทางสร้างความสำเร็จในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูงนี้”

นายวิวัฒน์ คำไสว ผู้จัดการฝ่ายดูแลลูกค้าที่วีโร่ ประเทศไทย และหนึ่งในผู้นำทีม Mobility ของวีโร่ ประเทศไทย กล่าวว่า “วีโร่ ในฐานะที่ปรึกษาด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์ระดับภูมิภาค หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ให้คำแนะนำแก่แบรนด์ผู้นำการเปลี่ยนแปลงและผู้พัฒนานวัตกรรม แบรนด์กลุ่มนี้พร้อมที่จะท้าทายมาตรฐานเดิมที่เป็นอยู่และก้าวออกจากขอบเขตที่คุ้นเคยไปสู่การพัฒนาใหม่ๆ สร้างการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ และเข้าใจถึงบทบาทของการดูแลส่งเสริมชื่อเสียงภาพลักษณ์ของแบรนด์ว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความไว้วางใจในหมู่ลูกค้า นักลงทุน และผู้บริโภค การมีกลยุทธ์การสื่อสารที่ผ่านการคิดมาอย่างรอบด้านจะช่วยให้แบรนด์สร้างและรักษาชื่อเสียงในเชิงบวกไว้ได้ รวมถึงสามารถสื่อสารวิสัยทัศน์และคุณค่าที่มอบให้ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญต่อแบรนด์ในท้ายที่สุด”

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการต่างๆ ภายใต้แนวปฏิบัติด้าน Mobility ฉบับใหม่ของวีโร่ สามารถติดต่อได้ที่ mobility@vero-asean.com

Related Articles

Stay Connected

269FansLike
2,760SubscribersSubscribe
- Advertisement -spot_img

Latest Articles