GWM (Thailand) มุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก โดยยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงาน ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” โดยท่ามกลางยุคที่การขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ากำลังเข้ามาเปลี่ยนโฉมวงการยานยนต์ รถปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) คือทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมของคนไทย มอบโซลูชันเพื่อให้ได้รับประโยชน์ทางเศรษฐกิจของรถไฟฟ้าโดยไม่มีความกังวลเรื่องระยะทาง ด้วยการผสานแบตเตอรี่ขนาดใหญ่และพลังงานจากเชื้อเพลิง ทำให้ขับในเมืองได้อย่างประหยัดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมให้ความมั่นใจเมื่อต้องเดินทางไกล ประหยัดค่าใช้จ่ายและลดความกังวลใจในการชาร์จเมื่อไม่สะดวก เหมาะกับสภาพการขับขี่และโครงสร้างพื้นฐานในประเทศไทย

5 ข้อได้เปรียบของรถยนต์พลังงาน PHEV สำหรับคนไทย
1.พลังงาน 2 รูปแบบ – ยืดหยุ่นทุกการเดินทาง
รถยนต์ PHEV เหมาะทั้งการขับขี่ในเขตเมืองและนอกเมือง ด้วยการผสานแบตเตอรี่ขนาดใหญ่และพลังงานจากเชื้อเพลิง พร้อมรับมือทุกเส้นทางได้อย่างมั่นใจ สำหรับการขับขี่เขตเมืองก็สามารถเลือกใช้พลังงานไฟฟ้าล้วนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ในการเดินทางไกลเข้าไปในเขตพื้นที่ทุรกันดาร ในอำเภอรองเขตต่างจังหวัดที่ไม่มีตู้ชาร์จไฟไว้รองรับ หมดกังวลเรื่องการหาสถานีชาร์จตลอดเส้นทางเมื่อแบตเตอรี่มีไฟที่ไม่เพียงพอ ซึ่งเป็นข้อจำกัดของรถยนต์ไฟฟ้า

2.ประหยัดจริงในชีวิตประจำวัน
ในช่วงที่น้ำมันมีราคาสูงและมีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง การใช้รถยนต์ที่มีระบบพลังงานไฟฟ้า ถือเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดสำหรับคนไทยยุคใหม่ รถ PHEV หลายรุ่นมีระยะทางไฟฟ้าล้วนที่ยาวกว่า HEV ตัวอย่างเช่น GWM HAVAL H6 ที่มีระยะทางไฟฟ้าล้วนที่ยาวที่สุดในบรรดารถ PHEV ทั้งหมด เกิน 150 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC) ซึ่งหมายความว่าสามารถใช้เป็น BEV ได้ในชีวิตประจำวัน เนื่องจากมีไฟฟ้ามาช่วยในการขับเคลื่อน จึงทำให้รถยนต์ PHEV มีความประหยัดมากกว่ารถยนต์ไฮบริดโดยทั่วไป ต้นทุนค่าใช้จ่ายในการขับขี่ต่อกิโลเมตรต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้โหมดไฟฟ้าล้วน และเมื่อไฟฟ้าหมด รถก็ยังสามารถใช้พลังงานจากน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งในการขับขี่ในชีวิตประจำวันที่มีระยะทางที่ไม่เกินระยะการขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วน ยิ่งทำให้ประหยัด เสมือนการขับขี่ด้วยรถยนต์ไฟฟ้า

3.รักษ์โลก รักษ์เมือง
เมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์สันดาปและรถยนต์ไฮบริด รถยนต์ PHEV ที่มีระบบไฟฟ้าเข้ามาช่วยในการขับเคลื่อน จะมีการปล่อยเขม่า ฝุ่น PM 2.5 และแก๊สพิษออกสู่บรรยากาศที่น้อยกว่า ช่วยรักษาคุณภาพอากาศในเมืองให้ดีขึ้น อีกทั้งยังขับเงียบ ลดมลพิษทางเสียง ส่งเสริมบรรยากาศการขับขี่ที่ราบรื่นต่อผู้ขับและทุกคนบนถนน

4.เหมาะกับพฤติกรรมการขับขี่ของคนไทย
ปัจจุบันพฤติกรรมคนไทยเปลี่ยนไปจากแต่ก่อน รถยนต์เป็นพาหนะคู่ใจที่ใช้ในการทำงานและใช้พักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์ และการเดินทางท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่คนไทยชื่นชอบเป็นอันดับต้น ๆ ดังนั้น รถยนต์จึงควรสร้างความสะดวกสบายในการเดินทางไกลในทุกสถานการณ์ไม่ว่าจุดหมายปลายทางจะอยู่ที่ใด รถยนต์ PHEV ถือเป็นระบบพลังงานที่เหมาะสมกับความต้องการดังกล่าวของผู้ใช้งาน มอบการขับขี่ที่ไร้กังวลกับการชาร์จไฟ ขับขี่ได้ในระยะทางไกล ไม่ว่าจะเหนือสุดหรือใต้สุด ก็สามารถไปถึงได้อย่างไร้รอยต่อ อีกทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย


5.ก้าวสู่อนาคตแห่ง EV เต็มรูปแบบได้อย่างมั่นใจ
ยังมีผู้ขับขี่อีกจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่พร้อมกับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า 100% กับข้อจำกัดเกี่ยวกับการเดินทางได้ในระยะทางที่จำกัด และต้องเสียเวลาสำหรับการหาตู้ชาร์จและรอการชาร์จไฟ ดังนั้นรถยนต์ PHEV จึงเป็นคำตอบที่ช่วยลดข้อกังวลดังกล่าว ช่วยให้ผู้ใช้คุ้นเคยกับการชาร์จไฟและการขับโหมดไฟฟ้า 100% ก่อนก้าวสู่การใช้รถไฟฟ้าล้วนในอนาคต เหมาะกับช่วงที่โครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จยังอยู่ระหว่างการขยายตัว

ALL NEW GWM HAVAL H6 PHEV คือตัวเลือกที่สมดุลระหว่างพลังงานไฟฟ้าและน้ำมัน ตอบโจทย์ครบทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางไกลอย่างมั่นใจ โดดเด่นด้วยระยะทางการขับขี่ด้วยไฟฟ้าที่สูงสุดในเซกเมนต์ถึง 150 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (มาตรฐาน NEDC) และเมื่อบวกกับน้ำมัน 1 ถัง สามารถเดินทางได้ระยะทางไกลกว่า 1,000 กิโลเมตรเลยทีเดียว เพียงพอสำหรับการเดินทางในเมืองในแต่ละวัน

ขณะเดียวกันยังมอบความคล่องตัวเมื่อต้องออกต่างจังหวัดด้วยสมรรถนะเครื่องยนต์น้ำมันที่พร้อมทำงานต่อเนื่องโดยไม่ต้องกังวลเรื่องสถานีชาร์จ แต่เมื่อต้องทำการชาร์จ รถยนต์คันนี้ก็มีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดใหญ่ 27.54 k โดยใช้พอร์ต CCS Type 2 combo (Combined Charging System) รองรับการชาร์จเร็ว DC สูงสุด 41 kW โดยเวลาในการชาร์จจาก 0-80% ใช้เวลาประมาณ 35 นาที รวดเร็วทันใจในการชาร์จกว่ารถยนต์ PHEV ในเซกเมนต์เดียวกัน พร้อมโหมดการขับขี่ถึง 4 โหมด ได้แก่ ปกติ สปอร์ต ประหยัด และพื้นหิมะ รวมถึงโหมดที่ให้ผู้ขับสามารถเลือกการขับขี่แบบไฮบริดหรือแบบไฟฟ้าล้วน ช่วยประหยัดการใช้น้ำมันได้อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ ช่วงล่างยังได้รับการพัฒนาใหม่ให้ตอบโจทย์สภาพถนนและสไตล์การขับขี่ของคนไทยโดยเฉพาะ

ALL NEW GWM HAVAL H6 PHEV ยังมีจุดเด่น 4 ด้าน ตอบรับไลฟ์สไตล์ครอบครัวยุคใหม่ได้อย่างลงตัว
1.) ดีไซน์สปอร์ตพรีเมียม โดยภายนอกอัปเกรดใหม่ สปอร์ตหรูด้วยกระจังหน้า Smoke Chrome, ไฟหน้า LED อัจฉริยะ, ไฟท้าย LED Light Strip, ล้ออัลลอย 19 นิ้ว พร้อมคาลิเปอร์เบรกสีแดง (เฉพาะรุ่น PHEV ULTRA)
2.) เทคโนโลยีภายในล้ำสมัย ด้วยห้องโดยสารอัปเกรดด้วยจอดิจิทัล 10.25 นิ้ว, Head-up Display, หน้าจออินโฟเทนเมนต์ 14.6 นิ้ว พร้อม Coffee OS 3.0, Snapdragon, ระบบนำทาง Petal Map ของ Huawei, ระบบเสียง Amor luxury hifi และที่ชาร์จไร้สาย 50W เพิ่มความสะดวกสบายและอรรถรสในการเดินทางสำหรับทุกคนในครอบครัว
3.) สมรรถนะทรงพลัง มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5 ลิตร ปลั๊กอิน-ไฮบริด มอบพละกำลัง 326 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 530 นิวตันเมตร ตอบสนองทันใจแม้ในการขับขี่ในเมืองและนอกเมือง
4.) ความปลอดภัยล้ำหน้า เพราะครอบครัวคือสิ่งล้ำค่าในชีวิตของทุกคน ALL NEW GWM HAVAL H6 PHEV จึงมอบระบบความปลอดภัยอัจฉริยะกว่า 31 รายการ ทั้ง First-in-class และ Best-in-class เช่น กล้องรอบทิศทาง 540°, ระบบช่วยควบคุมและรักษาเลน, ระบบเตือนและช่วยเบรกจุดอับสายตา, โครงสร้างตัวรถที่แข็งแกร่ง และเทคโนโลยีช่วยขับขั้นสูงเพื่อความมั่นใจในการขับขี่ตลอดการเดินทาง
ด้วยฟีเจอร์ที่น่าประทับใจทำให้ ALL NEW GWM HAVAL H6 PHEV กลายเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้ยุคใหม่ GWM ขอขอบคุณผู้ใช้ชาวไทยในโอกาสครบรอบ 4 ปีในประเทศไทย ด้วยแคมเปญ GWM HAVAL H6 4th Anniversary พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษ 3 ทางเลือกสำหรับรุ่น PHEV ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ และพิเศษสำหรับลูกค้า GWM เดิมที่จะได้รับส่วนลดเพิ่มอีก 20,000 บาท นอกเหนือจากโปรโมชั่นด้านล่าง:
1.สำหรับสายชิล ผ่อนเบา เพียง 5,000 บาทต่อเดือนนาน 12 เดือน พร้อมดอกเบี้ยพิเศษ 1.95% (เมื่อดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน) และส่วนลดเงินสดสูงสุด 80,000 บาท
2.สายอัพเกรด นำรถเก่ามาแลกใหม่ รับส่วนลดสูงสุด 60,000 บาท พร้อมข้อเสนอพิเศษที่สามารถใช้ร่วมกับโปรโมชั่นหลัก ทั้งส่วนลดเงินสดสูงสุด 80,000 บาท และดอกเบี้ยเริ่มต้น 1.95% (เมื่อดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน)
3.สายมองไกล เลือกรับบริการ GWM Pro Service Inclusive ครอบคลุมการบำรุงรักษาตามระยะทางสูงสุดถึง 10 ครั้งใน 5 ปี หรือ 100,000 กม. รวมทั้งบริการติดตั้ง GWM Home Charger ฟรี พร้อมส่วนลดเงินสดสูงสุด 80,000 บาท และดอกเบี้ยพิเศษ 1.95%
ด้วยจุดเด่นทั้งหมดนี้ ALL NEW HAVAL H6 PHEV จึงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและเหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้รถของคนไทยและสอดคล้องกับโครงสร้างพื้นฐานในปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นก้าวสำคัญสู่การเปลี่ยนผ่านสู่สังคมยานยนต์พลังงานสะอาดในอนาคตอย่างยั่งยืน
ทดลองขับและสัมผัส ALL NEW GWM HAVAL H6 PHEV ได้แล้ววันนี้ที่ GWM Partner Store กว่า 72 แห่งทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่แอปพลิเคชัน GWM, เว็บไซต์ www.gwm.co.th หรือโทร GWM Contact Center 02-668-8888