ปตท.เผยผลการวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดน้ำมันสัปดาห์ที่ 13-17 ธ.ค. 64 และแนวโน้ม 20-24 ธ.ค. 64 โดยตลาดน้ำมันสำเร็จรูปเบรนท์ (ICE Brent) ราคา 74.10 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับราคาลดลง -0.68ตลาดน้ำมันสำเร็จรูป เวสท์เท็กซัสฯ (NYMEX WTI) ราคา 71.23 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับราคาลดลง -0.07 เหรียฐสหรัฐฯ ตลาดน้ำมันสำเร็จรูปดูไบ (Dubai) ราคา 73.22 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับราคาเพิ่มขึ้น +0.38 เหรียญ สหรัฐฯ ขณะที่ราคาน้ำมันสำเร็จรูปซื้อซื้อขายล่วงหน้าประเทศสิงคโปร์ ราคาเบนซินออกเทน 95 ปรับราคาเพิ่มขึ้น +1.21 เหรียญ สหรัฐฯ มาเป็นราคา 88.33เหรียญ สหรัฐฯ ราคาน้ำมันดีเซลราคาปรับราคาเพิ่มขึ้น +1.66 เหรียญ สหรัฐฯ มาเป็นราคา 86.66 เหรียญสหรัฐฯ
ราคาน้ำมันดิบ ICE Brent และ NYMEX WTI เฉลี่ยรายสัปดาห์ปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลต่อการแพร่ระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์ Omicron ระลอกใหม่ในยุโรป โดยเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 64 รัฐบาลฝรั่งเศสประกาศยกระดับมาตรการจำกัดการเดินทางของผู้ที่เดินทางมาจากสหราชอาณาจักร และต้องเข้าสู่ขั้นตอนแยกตัวเฝ้าระวังอาการ 48 ชั่วโมง เพื่อควบคุมและยับยั้งการแพร่ระบาดของ Omicron ภายในประเทศ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี Mette Frederiksen ของเดนมาร์ก กล่าวว่ารัฐบาลของเดนมาร์กมีแผนใช้มาตรการ Lockdown ที่เข้มงวดมากขึ้น หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดย ณ วันที่ 18 ธ.ค. 64 เดนมาร์กมีผู้ติดเชื้อรายวันอยู่ที่ 8,666 ราย โดย 1 ใน 5 เป็นผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ Omicron ซึ่งการ Lockdown ครั้งใหม่จะรวมถึงการปิดโรงภาพยนตร์ สวนสนุก และศูนย์การประชุม ตลอดจนมาตรการจำกัดจำนวนคนในร้านค้า เพื่อหลีกเลี่ยงการ Lockdown อย่างเต็มรูปแบบในช่วงเทศกาลวันหยุด
อย่างไรก็ตาม ด้าน Goldman Sachs ออกมาให้ความเห็นว่า ถึงแม้ว่า Omicron จะกดดันอุปสงค์ แต่คาดว่าผลกระทบจะจำกัด และเสริมว่าปริมาณการใช้น้ำมันจะแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2565 และ 2566 โดยมองว่า ภายในปี 2573 อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกจะอยู่ที่ประมาณ 106 ล้านบาร์เรลต่อวัน ใกล้เคียงกับระดับก่อนเกิด COVID-19 ในปี 2562 ที่ประมาณ 100 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ติดตามการประชุม OPEC+ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 4 ม.ค. 65 โดย OPEC+ ย้ำว่าสามารถทบทวนแผนการเพิ่มปริมาณการผลิตในเดือน ม.ค. 65 ที่ 400,000 บาร์เรลต่อวัน หากอุปสงค์มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม Leonid Fedun รองประธาน Lukoil บริษัทน้ำมันรายใหญ่ของรัสเซียคาดว่า OPEC+ จะยังคงเพิ่มปริมาณการผลิตที่ 400,000 บาร์เรลต่อวัน ในการประชุมครั้งถัดไป
ด้านเทคนิค สัปดาห์นี้ราคา ICE Brent มีแนวโน้มอยู่ในกรอบ 69 – 74 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และมีโอกาสที่ ICE Brent จะไปทดสอบแนวรับสำคัญ คือ 70 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
EIA รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ที่สหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุด 10 ธ.ค. 64 ลดลง 4.6 ล้านบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ 428.3 ล้านบาร์เรล ลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 2.1 ล้านบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนหน้า ขณะที่การใช้น้ำมันสำเร็จรูปเพิ่มขึ้น 3.35 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ 23.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
กระทรวงพลังงานของรัสเซียรายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ วันที่ 1 – 14 ธ.ค. 64 อยู่ที่ 10.87 ล้านบาร์เรลต่อวัน (เพิ่มขึ้น 30,000 บาร์เรลต่อวัน จากเดือนก่อนหน้า) ทั้งนี้ ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของรัสเซียตามโควตาของ OPEC+ ในเดือน ธ.ค. 64 อยู่ที่ 10.02 ล้านบาร์เรลต่อวัน และในเดือน ม.ค. 65 อยู่ที่ 10.12 ล้านบาร์เรลต่อวัน